ใบเตยมาทำงานที่เวก้าบาร์เพราะอยากพัฒนาฝีมือในการชงเครื่องดื่ม ต่างจากพระจันทร์ที่ต้องมาทำงานด้วยความจำเป็นที่กดดันไม่ให้เลือกทางอื่น
หญิงสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านขณะที่เดินขึ้นไปบนห้องพักขนาดเล็กของตน ค่าเช่าต่อเดือนที่ไม่แพงมากทำให้ขนาดห้องค่อนข้างจะเล็ก แต่พระจันทร์ก็ยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเลือกห้องมุมสุด ซึ่งมีระเบียงยื่นออกมาสำหรับพื้นที่ครัวส่วนตัว
มือบางไขกุญแจเข้าไปภายในห้อง ก่อนจะแขวนมันเอาไว้ในที่ประจำแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดหน้าจอเพื่อเช็คว่ามีนัดหมายใด หรืออีเมลสำคัญเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยส่งมาหรือไม่
ผู้ส่ง : INTER.BSDU@admin.bsdu.com
หัวข้อ : แจ้งเตือนการชำระค่าเทอมล่าช้า
พระจันทร์กลืนน้ำอึกใหญ่เมื่อเห็นว่าแจ้งเตือนแรกที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคือเรื่องใด แต่ยังไม่ทันจะได้กดเพื่อเข้าไปอ่านข้อมูลภายใน สายเรียกเข้าแบบวิดีโอคอลกลุ่มจากเพื่อนสนิททั้งสองคนก็เด้งแทรกเข้ามาเสียก่อน
(ฮัลโหล๊ว จันทร์ เมื่อคืนโทรหาไม่รับเลยน้า ทำงานที่บาร์จนลืมเพื่อนลืมฝูงอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย)
“ใครจะไปลืมนิ่มกับเอมได้ลงเอ่ย พอดีงานที่บาร์ค่อนข้างวุ่น จันทร์เลยปิดแจ้งเตือน ขอโทษทีน้า” พระจันทร์ทำหน้าอ้อน ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความผิดของตน
บนหน้าจอมือถือของเธอปรากฏภาพสองสาวนั่งเบียดกันอยู่ ทางซ้ายคือเฌอเอมที่นั่งถือรูบิคเอาไว้เล่นแก้เครียด ส่วนนิ่มนวลรับหน้าที่เป็นคนถือกล้องสนทนา
(ไม่ต้องเแก้ตัวเลย งานจะยุ่งแค่ไหนก็เปิดแจ้งเตือนไว้บ้าง เราจะได้ส่งเลคเชอร์คาบที่จันทร์ไม่เข้าเรียนให้ ช่วงนี้ได้แบ่งเวลามาอ่านหนังสือบ้างไหมเนี่ย ไหนบอกว่าจะเป็นเชฟอันดับหนึ่งของโลกไงฮึ) นิ่มนวลถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้กล้องมากยิ่งขึ้น
“เป็นที่หนึ่งของโลกคงจะอยากไปหน่อย เราขออันดับสามก็พอแล้ว เพราะอันดับหนึ่งกับสองเป็นของนิ่มกับเอมนั่นแหละ" พระจันทร์ยิ้มกว้างให้เพื่อนรักทั้งสองคน เมื่อได้ยินประโยคแบบนั้นเฌอเอมถึงกับวางรูบิคแล้วแย่งมือถือไปคุยเองเลยทีเดียว
(จันทร์จะถ่อมตัวไปถึงไหนเนี่ย ตัวเองทำอาหารอร่อยกว่านิ่มกับเอมตั้งเยอะ ให้ตายสิ เอาอันดับหนึ่งไปเลย เราก็จะเอาอันดับหนึ่งเหมือนกัน แต่เป็นอันดับหนึ่งจากท้ายสุดอะนะ) เฌอเอมสะบัดบ๊อบแล้วคืนโทรศัพท์ให้กับนิ่มนวล
“พูดอะไรแบบนั้น เอมทำอาหารอิตาเลียนเก่งจะตาย ไม่มีทางได้ที่โหล่หรอกน่า" พระจันทร์แก้ต่างให้ “เอ้อ จริงสิ เราว่าจะถามเอมกับนิ่มเรื่องที่ศึกษาดูงาน พอดีสัปดาห์ก่อนเราไม่ได้เข้าฟังที่ปรึกษาเรื่องที่จะไปศึกษาดูงานแบบรายกลุ่ม สรุปว่ายังไงบ้าง"
สัปดาห์ก่อนพระจันทร์ต้องเผชิญกับศึกหนักทั้งอาการป่วยที่สืบเนื่องมาจากการแพ้อากาศ นั่นส่งผลให้เธอหลับยาวข้ามวันจนพลาดคาบเรียนสำคัญที่อาจารย์พูดถึงเรื่องโปรเจคสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย
(ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก คหกรรมภาคอินเตอร์อย่างพวกเราคนไม่เยอะมาก แบ่งกลุ่มออกมาเลยไม่มีปัญหาจนต้องตบตีแย่งร้านอาหารที่จะไปกัน เรากับเอมช่วยลงชื่อให้จันทร์แทนแล้วล่ะ เราสามสหายจะไปศึกษาดูงานที่ มาดามแมรี เรสเตอรองต์จ้ะ ที่เลือกก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่ทางมาดามเธอบอกเอาไว้ว่า ถ้านักศึกษามาดูงานจะให้ใส่ยูนิฟอร์มเชฟของร้าน! เราว่ายูนิฟอร์มสวยดี สีผ้ากันเปื้อนก็มีเสน่ห์สุด ๆ เฮ้อ แค่คิดก็อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ แล้ว โลเคชั่นของร้านเราส่งไว้ให้จันทร์ในแชทส่วนตัวเรียบร้อยแล้วนะ)
เพราะนิ่มนวลเป็นหญิงสาวที่รักสวยรักงามมากที่สุดในกลุ่ม เธอทำหน้าพริ้มเมื่อนึกถึงชุดยูนิฟอร์มที่ตนจะได้สวมใส่ในฐานะนักศึกษาที่กำลังจะเข้าไปศึกษาดูงาน พระจันทร์อมยิ้มกับท่าทีของเพื่อน ก็จะถามข้อมูลเพิ่มเติม ถึงแม้จะเส้นยาแดงผ่าแปดไปหน่อย แต่เธอก็คิดว่าตนเองเชี่ยวชาญมากพอ เพราะเคยมีประสบการณ์ในโปรเจคต์ก่อนหน้ามาแล้ว
นี่เป็นเพียงแค่โปรเจคต์เล็ก ๆ ในเส้นทางการเรียนที่ตอนนี้สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว ก่อนที่เธอจะสามารถเรียกตัวเองว่า เชฟ ซึ่งเป็นความฝันสำคัญที่สุดในชีวิตในเต็มปากเสียที
“ต้องเข้าไปที่ร้านกี่โมง รายละเอียดอะไรยังไงบ้าง ขอโทษนิ่มด้วยนะที่ต้องมาอธิบายเราแบบนี้ ถ้าคาบที่แล้วเราเข้าเรียนไหวก็ดี"
(พูดอะไรแบบนั้น เราเต็มใจอธิบาย จันทร์ไม่ต้องคิดมากนะ เรื่องความเจ็บป่วยของร่างกายมันห้ามได้ที่ไหนล่ะ รายละเอียดก็ไม่มีอะไรมาก พรุ่งนี้ไปเจอกันที่ร้านก่อนแปดโมงตรง คุณแมรี่ที่เป็นเจ้าของร้านใจดีสุด ๆ ร้านก็มีแต่เมนูฟาสต์ฟู้ด กับอาหารจานเดียวนานาชาติทำง่าย ๆ ไม่กี่อย่าง เป็นการฝึกเข้าครัวจริงมากกว่าความคิดสร้างสรรค์ จันทร์ไม่ต้องกังวลเลย ทำออกมาได้ดีแน่นอนอยู่แล้วล่ะ เชื่อเราเหอะ) นิ่มนวลยกสองนิ้วเป็นสัญญาณบอกให้คนฟังต้องสู้ ๆ
“ขอบคุณนิ่มกับเอมมากเลยนะที่เป็นธุระให้ พรุ่งนี้ทั้งสองคนจะไปกี่โมงเหรอ เราจะได้กะเวลาตื่นแล้วออกไปถูก" พระจันทร์ถาม เพราะสองสาวเพื่อนสนิทนั้นพักอยู่ที่หอเดียวกัน
(เอมมันตื่นสายมากอะช่วงนี้ คงไปเกือบ ๆ แปดโมงเลย จริง ๆ เราอยากไปเผื่อซักครึ่งชั่วโมง แต่เอมมันตื่นไม่ไหวสามล้านเปอร์เซ็นต์พนันได้เลย) นิ่มนวลปรามาส ตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกของคนที่โดนพาดพิง
(จันทร์อย่าไปฟังนิ่มน้า!! เราไม่ได้ตื่นสาย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปให้ถึงหน้าร้านตั้งแต่เจ็ดโมงเลยคอยดู๊!) เฌอเอมโผล่หน้าเข้ามาในกล้องด้วยเพื่อเป็นการให้สัญญา (จันทร์ไปที่ร้านเจ็ดโมงได้เลย เจอเราแน่ ๆ คนที่สายต้องเป็นนิ่ม ไม่ใช่เรา ฟันธง!)
พระจันทร์หัวเราะร่วนกับความวุ่นวายของกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นเซฟโซนที่ดีที่สุดของเธอ “จ้า จ้า ได้เลย เดี๋ยวเราจะไปรอเอมที่หน้าร้านตั้งแต่เจ็ดโมง ทำข้าวปั้นปลาซาบะไปเผื่อด้วย ทั้งสองคนไม่ต้องซื้อข้าวเช้ามานะ”
(ฮือ เอมรักจันทร์ที่สุด อยากกินข้าวปั้นมาก ๆ เอมขอเบิ้ลเลยนะ เดี๋ยวโอนเงินค่าวัตถุดิบไปให้ ฝีมือของจันทร์อร่อยที่สุดในสามโลก) เฌอเอมส่งจุ๊บมาให้ผ่านหน้าจอ พระจันทร์ก็รีบรับคำทันที
“ได้เลยจ้า แต่ถ้ามาสายหรือมาช้าอดกินนะขอบอกไว้ก่อน"
(งั้นจันทร์ก็เก็บข้าวปั้นใส่ตู้เย็นไว้ได้เลย เพราะเอมมันสายแน่ ๆ) นิ่มนวลพูดแทรกเข้ามา ก่อนที่สงครามขนาดย่อมจะเกิดขึ้นที่ปลายสาย โดยมีพระจันทร์เป็นกรรมการที่ไม่เอ่ยห้ามแม้แต่คนเดียวคอยมองอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ
(ฮึ่ย! ถ้าไม่ใช่เพราะตอนบ่ายต้องรีบไปเรียนนะ เราเถียงต่อแน่ ๆ) นิ่มนวลแยกเขี้ยวใส่รูมเมทร่วมห้องอย่างเฌอเอมก่อนจะหันมาโบกมือลาให้กล้อง (เราต้องวางสายแล้วน้าจันทร์ แบตเตอรี่ไอแพดจะหมดแล้ว ไว้เจอกันเจอกันในคาบเรียนตอนบ่ายนะ อย่ามาสายล่ะ)
“โอเค ขอบคุณทั้งสองคนมาเลยนะที่เป็นห่วงจันทร์ เจอกันในคาบเรียนจ้ะ” พระจันทร์โบกมือให้กล้องเป็นการทิ้งท้าย ก่อนที่วิดีโอคอลสายวุ่นวายนี้จะสิ้นสุดลง
รอยยิ้มที่เพิ่งมอบให้กับเพื่อนสนิททั้งสองไปค่อย ๆ ลดลงจนริมฝีปากกลับกลายเป็นเส้นตรงอีกครั้ง ความเงียบเดินทางเข้ามาในห้องจนรู้สึกเปลี่ยวเหงาในหัวใจอย่างประหลาด พระจันทร์สลับแอปพลิเคชันไปเปิดเพลงเพื่อให้ตนคลายความเหงา
หลังจากนี้อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิดล่ะนะ..
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พระจันทร์จึงหงายหน้าจอที่เพิ่งคว่ำลงไปเพราะจะฟังเพลงขึ้นมาดูอีกรอบ
ผู้ส่ง : INTER.BSDU@admin.bsdu.com
หัวข้อ : (ด่วนที่สุด) แจ้งเตือนการชำระค่าเทอมล่าช้า และการพ้นสภาพนักศึกษา