ทางที่เลือกไม่ได้ #2

1760 Words
VEGA BAR ‘ทำไมเดินตัวแข็งขนาดนั้นล่ะจันทร์ ไม่ต้องกลัวนะ ช่วงหัวค่ำแบบนี้ลูกค้ายังไม่ค่อยเยอะหรอก’ นิ่มนวลในชุดเดรสแบรนด์ดังยาวคลุมเข่าสีชมพูเข้มกระซิบบอกเพื่อนของตนที่ข้างใบหู พระจันทร์ค่อนข้างประหม่าไม่น้อยกับสถานที่แปลกใหม่ที่ตนเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก อีกทั้งชุดที่สวมอยู่ในตอนนี้ก็ดูไม่ค่อยเข้ากับสถานที่เสียด้วย เสื้อยืดสีขาวสะอาดพิมพ์ลายภาษาญี่ปุ่นเป็นชื่ออาหาร คู่กับกางยีนส์สีซีดจางและรองเท้าผ้าใบ ดูแตกต่างจากบรรยากาศมืดสลัวและไฟหลากสีภายในเวก้าบาร์แห่งนี้จนพระจันทร์อยากจะมุดดินหนีซะให้รู้แล้วรู้รอด ‘มาตอนหัวค่ำแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เราว่าเพลงมันไม่ค่อยหนวกหูเหมือนช่วงดึก ๆ เท่าไหร่’ เฌอเอมชะโงกหน้ามองซ้ายทีขวาทีเพื่อดูว่าแต่ละโต๊ะที่ลูกค้ากลุ่มแรก ๆ ของค่ำคืนมาถึงนั้นสั่งอะไร ตามประสาคนที่สนใจกับแกล้มมากกว่าเครื่องดื่มมึนเมา เพื่อนสาวสุดห้าวของพระจันทร์คนนี้รักการกินมากจนเลือกมาเรียนเชฟเพราะอยากทำอาหารให้ตัวเองกินทุกวัน ‘เอมน่ะสนใจเสียงเพลงในร้านด้วยเหรอ นึกว่ามาถึงร้านแล้วหูดับเพราะมัวแต่กินกับแกล้มตลอด’ นิ่มนวลอดแซวไม่ได้ นั่นทำให้พระจันทร์ขำออกมาเล็กน้อยและคลายอาการเครียดลงไปได้เยอะ ‘อ้าว มากันแล้วเหรอจ๊ะสาว ๆ ทางนี้เลยจ้ะ ทางนี้’ หญิงวัยกลางคนผิวพรรณดูดี มีใบหน้าสวยเฉี่ยวมองไปมองมาคล้ายกับดารารุ่นใหญ่บนหน้าจอทีวี เธอโบกมือให้กับเราทั้งสามคน นิ่มนวลจึงรีบยกมือขึ้นโบกกลับ ‘ค่า คุณน้า กำลังไปค่ะ’ แขนเรียวเล็กเกี่ยวเอาทั้งพระจันทร์และเฌอเอมให้รีบก้าวยาว ๆ ขึ้นไปบนชั้นสองด้วยกัน ‘นี่แหละ น้าสะใภ้ของเรา ถึงหน้าตาดูน่ากลัวเข้าถึงยาก แต่ถ้าได้คุยล่ะก็ ใจดีอย่าบอกใครเลย ขี้คร้านจะได้นั่งคุยกันจนไม่ได้ทำงานทั้งคืน’ พระจันทร์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อคลายความกังวลที่ตีรวนขึ้นมาถึงกลางอก ขณะที่เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับน้าสะใภ้ของนิ่มนวลซึ่งเป็นเจ้าของที่ และเป็นว่าที่เจ้านายของตนด้วย ‘หนูพระจันทร์ กับหนูเฌอเอมใช่ไหมจ๊ะ นิ่มมันโทรมาเม้าท์เรื่องพวกหนูให้น้าฟังทั้งคืนเลย น้าชื่อศรีวรรณนะจ๊ะ เรียกน้าวรรณก็ได้ สบาย ๆ เป็นกันเองจ้ะ แล้วนี่คนไหนพระจันทร์คนไหนเฌอเอมจ๊ะ’ น้าสะใภ้ของนิ่มนวลพูดพร้อมรอยยิ้ม ท่าทีดูสบาย ๆ ไม่ได้วางท่าถือตัวว่าตนอาวุโสกว่าจนคนอ่อนวัยต้องกริ่งเกรงแม้แต่น้อย ‘หนูเฌอเอมค่ะน้าวรรณ จำง่ายเพราะผมสั้นค่ะ นิ่มก็เคยพูดถึงน้าวรรณให้เอมฟังอยู่บ่อย ๆ ได้เจอตัวจริงสวยกว่าในรูปเยอะเลยค่ะ’ เฌอเอมตอบก่อน ตามด้วยพระจันทร์ที่ยิ้มหวานรอเตรียมผูกมิตรเต็มที่ ‘ส่วนหนู พระจันทร์ค่ะ จะเรียกว่าจันทร์ก็ได้ค่ะน้าวรรณ นิ่มบอกคุณน้าเอาไว้แล้วใช่ไหมคะ เรื่องที่หนูจะมาสมัครเป็นบาร์เทนเดอร์พาร์ทไทม์ของที่นี่น่ะค่ะ’ พระจันทร์พูดตอบฉะฉาน ดึงเอาทุกความมั่นใจออกมาใช้ เพื่อให้ผู้ใหญ่ตรงหน้าไว้เนื้อเชื่อใจที่จะรับเธอเข้าทำงาน ‘ขอบคุณนะจ๊ะหนูเอมที่ชมน้า คืนนี้น้าเลี้ยงฟรีไม่อั้นทั้งโต๊ะเลยแล้วกัน’ ศรีวรรณหันไปตอบรับเฌอเอม ก่อนจะหันมาคุยกับพระจันทร์อย่างเป็นกิจลักษณะ ‘ยัยนิ่มเปรย ๆ ไว้แล้วล่ะ ดูจากคำพูดคำจาหนูก็ใช้ได้เลยนะ งานบาร์เทนเดอร์ที่นี่น่ะ ไม่ใช่สักแต่ว่าจะชงออกมาอร่อยอย่างเดียว ต้องชวนลูกค้าคุยให้เขาดื่มอย่างมีอรรถรสได้ด้วย’ พระจันทร์พยักหน้ารับ ‘หนูจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะคุณน้า’ ‘แต่น้าไม่ได้กดดันนะ บาร์ของน้าไม่ใช่ประเภทมีแต่เด็กนั่งดริงค์ เด็กเชียร์เบียร์ พนักงานที่นี่ทุกคนมีเกรด ไม่ใช่จะหากันได้ง่าย ๆ ไหน ๆ วันนี้น้าก็ได้เข้าร้านแล้ว ปกติน้าไม่ค่อยได้เข้ามาดูเท่าไหร่ จะมีผู้จัดการที่ชื่อนที เป็นสาวสองปากร้ายนิด ๆ แต่คุมงานได้เก่งมากคอยดูแล พระจันทร์ลองชงเครื่องดื่มให้น้าดูหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเราตรงโซนบาร์กันสองคน’ นิ่มนวลและเฌอเอมกำมือสองข้างเป็นสัญญาณบอกให้พระจันทร์สู้ หญิงสาวหันมายกสองนิ้วตอบกลับให้เพื่อน ๆ ก่อนจะเดินตามศรีวรรณไปยังโซนบาร์สำหรับชงเครื่องดื่ม พระจันทร์ใช้ความรู้ที่เรียนจากในห้องเลคเชอร์ รวมกับความรู้รอบตัวเกี่ยวกับผลไม้บนโลก ผนวกเข้ากันอย่างดีจนออกมาเป็นเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำกับเมนูเดิมที่ทางร้านมีไว้ก่อนอยู่แล้ว เจ้าของบาร์อย่างศรีวรรณมองดูท่วงท่าในการชง และการฉลาดใช้เครื่องมือเข้ากันกับวัตถุดิบแล้วก็รู้สึกถูกชะตาขึ้นมา เธอยิ้มอย่างเบาใจเมื่อรู้สึกว่าตนโชคดีแล้วที่ได้เด็กสาวอนาคตไกลมาเป็นบาร์เทนเดอร์ในร้านของตน ‘ไม่เคยทำงานบาร์เทนเดอร์มาก่อนจริง ๆ เหรอเนี่ยน้องจันทร์ ฝีมือไม่ธรรมดาเลยนะ’ ไม่เพียงแต่ศรีวรรณเท่านั้นที่เอ่ยปากชม แม้แต่พนักงานที่ทำประจำอยู่แล้ว รวมถึงเด็กเสิร์ฟบางคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ยังอดมองตามมือเรียวที่จับเชคเกอร์ขยับอย่างคล่องแคล่วไม่ได้ ‘จันทร์เคยได้ทำตอนสอบปฏิบัติอยู่บ้างค่ะ… แก้วนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะคุณน้า จันทร์ดัดแปลงมาจากเมนูโมฮิโตค่ะ เปอร์เซ็นต์ดีกรีจะไม่สูงมากเพราะใส่รัมขาว ปกติแล้วในสูตรจะใส่เป็นน้ำมะนาว โซดา น้ำตาลทรายแล้วก็ใบมินต์ แต่จันทร์เพิ่มตัวน้ำดอกดาหลาลงไปเพิ่มค่ะ ทำให้สีสันต่างจากไปปกติ แต่รสชาติไม่ได้เพี้ยนไปมาก เมนูนี้ถ้ามีโอกาสตั้งชื่อ จันทร์ก็อยากให้ชื่อว่าเรดมูน โมฮิโตค่ะ’ ศรีวรรณพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้ม มือก็เอื้อมไปหยิบเอาแก้วที่พระจันทร์เสิร์ฟมาชิมดู ‘นอกจากลีลาจะดีแล้วเนี่ย.. รสชาติก็ไม่ใช่ย่อยเลยนะ ดูท่าบาร์เทนเดอร์ขาประจำหลายคนแถวนี้จะมีสิทธิ์ตกงานได้เลยนะเนี่ย’ พระจันทร์ยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นว่าเครื่องดื่มที่ตนตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมานั้นรสชาติถูกปากถูกลิ้นของคุณเจ้าของร้าน ‘ขอบคุณสำหรับคำชมมากเลยค่ะ หนูจะพัฒนาฝีมือตัวเองให้ดีขึ้นทุกวันเลยนะคะ’ ‘ดีจ้ะ งั้นสรุปว่าน้าจ้างจันทร์มาทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ให้น้านะจ๊ะ น้าให้ค่าชั่วโมง เข้างานตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืนก็พอ จะได้มีเวลากลับห้องไปนอน ยังเป็นนักศึกษาอยู่เลยเรา ทั้งหมดสี่ชั่วโมง น้าคิดค่าแรงให้ชั่วโมงละ 200 เท่าพนักงานพาร์ทไทม์คนอื่นนะจ๊ะ ส่วนทิปจากลูกค้าที่นี่ไม่มีหักจ้ะ ลูกค้าให้เท่าไหร่หนูก็รับไปได้เลย’ ศรีวรรณยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบซ้ำอีกเหมือนติดใจ ‘ยินดีต้อนรับเข้าสู่เวก้าบาร์อย่างเป็นทางการนะจ๊ะหนูจันทร์’ ‘ขอบคุณที่เมตตารับหนูเข้าทำงานนะคะ หนูสัญญาเลยค่ะว่าจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้น้าวรรณต้องผิดหวังในตัวหนูเลยค่ะ’ พระจันทร์เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้แทนตัวทันที เพื่อให้ศรีวรรณเอ็นดูตนมากยิ่งขึ้น ‘ชื่อพระจันทร์ก็เพราะดีแล้วนะ แต่ที่นี่ส่วนมากเขาใช้ชื่อแฝงกัน อย่างบาร์เทนเดอร์ที่ประจำอยู่นั่นก็ชื่อเบ๊บบี้ แต่ชื่อจริงน่ะชื่อใบเตย เดี๋ยวน้าให้พี่เบ๊บบี้เขาคอยสอนงานเราเพิ่มเติมแล้วกัน น้าไปก่อนนะจ๊ะ คืนนี้หนูก็เริ่มงานได้เลยนะ จะได้ค่าชั่วโมงกลับไปไม่ใช่ไม่มาเสียเที่ยว’ ‘ได้ค่ะน้าวรรณ ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งนะคะ’ พระจันทร์ก้มศีรษะให้กับนายจ้างคนใหม่ ก่อนจะหันไปยิ้มทักทายพนักงานรุ่นพี่ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ‘สวัสดีค่ะ พี่เบ๊บบี้ใช่ไหมคะ..’ ‘ถ้าไม่ใช่คุยต่อหน้าลูกค้า เรียกพี่ใบเตยก็ได้จ้ะ’ ใบเตยทักทายกลับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน พระจันทร์แอบประเมินในใจว่าสาวสวยหน้าหมวยเด่นคนนี้คงอายุอานามเกินเบญเพสไปไม่กี่ปี ท่าทางดูคุยง่ายและใจดีจนเบาใจได้ว่า เส้นทางในการทำงานหลังจากนี้คงไม่ทรมานเหมือนงานก่อน ๆ ที่ผ่านมาแล้ว ‘ค่ะ พี่ใบเตย จันทร์ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ’ ‘ถ้าต่อหน้าลูกค้าจะให้พี่เรียกจันทร์ว่าอะไรดีล่ะ ปกติที่นี่น้อยคนนักจะใช้ชื่อจริงของตัวเองในการทำงานนะ’ ใบเตยหยิบแก้วขึ้นมาเช็คกันว่าง ‘อืม..นามแฝงสินะคะ’ พระจันทร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงใสแจ๋ว ‘เรียกจันทร์ว่าลูน่าก็ได้ค่ะพี่ใบเตย ลูน่า..ที่แปลว่าดวงจันทร์ค่ะ’ ‘เข้าใจตั้งชื่อนะคะน้องลูน่า ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ เมื่อกี้พี่แอบเห็นเราชงโมฮิโต ฝีมือไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย สงสัยพี่คงต้องครูพักลักจำจากเราซะแล้ว’ ‘ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะพี่ใบเตย ขอบคุณที่ชมหนูนะคะ ในส่วนของงาน ถ้ามีตรงไหนที่อยากแนะนำหรือสอน บอกหนูตรง ๆ ได้เลยนะคะ หนูยินดีเรียนรู้งานค่ะ’ ‘ดีมากจ้ะ ขอให้การทำงานของจันทร์ราบรื่นนะ’ พระจันทร์ยิ้มรับคำของรุ่นพี่สาว ‘จันทร์จะตั้งใจทำงานค่ะ’ วันแรกเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม.. จนทำให้เธอไม่คิดเลยว่า การได้มาอยู่ในบทบาทของลูน่า ณ เวก้า บาร์แห่งนี้ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตต้องพลิกผันซ้ำอีกครั้ง..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD