นัดหมายสำคัญ #3

1231 Words
เขาปล่อยมือจากเรียวขาที่ถูกยันติดกับกระจกออก ทำให้ขาของพระจันทร์ได้แตะพื้นอีกครั้ง แต่มันสั่นเทารุนแรงมากจนเรือนร่างบอบช้ำจากการถูกขบกัดและบีบเคล้นต้องทรุดล้มพับลงไปกับพื้น น้ำกามขาวขุ่นที่อยู่ในตัวเธอก็พลันไหลทะลักออกมาหลังแก่นกายถูกถอนออก “หว่า… ดูท่าแล้วคงไม่ไหวจริง ๆ ด้วย” เตชินทร์หัวเราะในลำคอ แต่มือกลับจับแท่งเนื้อชักรูดขึ้นลงเพราะมันไม่ได้มีทีท่าจะอ่อนตัวลงเลยสักนิด ทั้งยังชี้ไปที่พระจันทร์คล้ายเรียกหาเธอ “อึก อ๊ะ” “แต่ฉันไม่ได้อนุญาตสักหน่อย” สิ้นเสียงเย็นเยียบของเตชินทร์ร่างบางก็ถูกเขาอุ้มขึ้นแล้ววางลงบนเตียง ตามมาด้วยแท่งร้อนที่กดใส่เข้ามาในตัวหญิงสาวจนสุดลำ “อ๊าง” “อ๊าา นอนแหกขาดี ๆ สิ เอาไม่ถนัดเลย” เตชินทร์จับเรียวขาที่หุบชิดกางออกกว้างแล้วบดเอวสอบอัดใส่เรือนร่างบอบช้ำจนสั่นคลอนอีกครั้ง กระแทกระรัวจนเตียงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด พระจันทร์ได้แต่นอนหงายจิกเล็บลงกับผ้าปูครางด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งอ่อนแรงเต็มทน ปล่อยให้เขาย่ำยีอยู่นานโดยที่ท่อนล่างไร้ความรู้สึก หญิงสาวเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น รู้ตัวอีกทีน้ำอุ่นร้อนก็ฉีดพ่นเข้ามาในตัวเธอแล้ว เรือนกายบอบบางหายใจรัวระรินอยู่บนเตียงหลังจากน้ำรักของคนที่โถมกายอยู่เหนือกว่าหลั่งในร่างตนหมดทุกหยาดหยดแล้ว พระจันทร์รู้สึกหูอื้อจนแทบฟังอะไรไม่ออก แต่ก็พอจับใจความได้ว่าคนที่กำลังจะเอนตัวลงนอนหลับนั้นพูดอะไร “หลังจากวันนี้เธอไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก วันพรุ่งนี้ตอนหกโมงเย็น ผู้ช่วยของฉันจะไปรับเธอที่มหาวิทยาลัยแล้วพาไปเก็บข้าวของให้เรียบร้อย เธอต้องย้ายไปที่อยู่ที่ฉันเตรียมไว้ให้.. ฉันจะเข้าไปรอเธอที่นั่นตอนสองทุ่มตรง เข้าใจใช่ไหม” พระจันทร์ไม่เหลือแม้แต่เสียงจะตอบรับหรือปฏิเสธ เธอผงกหัวขึ้นลงเพื่อเป็นการตอบรับเท่านั้น หลังจากได้รับคำตอบซึ่งเป็นที่น่าพอใจแล้ว เตชินทร์ก็ทิ้งตัวลงนอนหลับไปก่อนเหมือนอย่างคืนแรกที่ได้พบกัน หญิงสาวค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง แม้จะปวดร้าวไปทั่วทั้งช่วงล่าง พระจันทร์หยิบเอาเสื้อผ้าที่เสียหายน้อยกว่าวันแรกขึ้นมาสวมอย่างลวก ๆ ก่อนจะลงไปเรียกรถจากในแอปพลิเคชันเพื่อกลับไปยังหอพักของตน นัดหมายที่สำคัญของวันพรุ่งนี้คือการศึกษาดูงาน ต่อให้ไม่มีแรงแค่ไหน ยังไงก็ต้องกลับไปที่หอให้ได้ ชินเข้าไว้สิ..เธอยังต้องอยู่แบบนี้ไปอีกสองปีเลยนะ ร่างเล็กรำพึงในใจขณะที่พิงกระจกรถมองดูแสงสีศิวิไลซ์ที่ล่อตาล่อใจในยามดึกสงัดไปตลอดทาง.. … เสียงนาฬิกาปลุกในยามเช้าดังลั่นอย่างไม่เกรงใจใคร พระจันทร์ที่ยังไม่สามารถตื่นได้เต็มตาได้ในทันทีส่งมือไปควานหาโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงทั้งที่ตายังลืมไม่ขึ้น กว่าจะจิ้มนิ้วลงบนปุ่มปิดได้ก็ทำเอาน้ำในหูแทบจะไม่เท่ากันเพราะความดังของเสียงปลุก แต่หากไม่ตั้งปลุกเสียงดังสนั่นแบบนี้ พระจันทร์ก็กลัวว่าตัวเองจะเผลอหลับลึกจนพลาดการไปศึกษาดูงานวันแรกของเทอมสุดท้าย ซึ่งนั่นคงเป็นเหตุการณ์ที่เธอจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองได้เป็นอันขาด ร่างกายที่ร้าวระบมจากกิจกรรมเข้าจังหวะระดับรุนแรงค่อย ๆ พยุงตนเองให้ลุกขึ้นนั่ง ฝืนใจอยู่นานกว่าจะยอมลืมตาขึ้นได้ พระจันทร์ฝืนทุกความง่วงงุนเอาตัวเองลงจากเตียงเพื่อเดินลากเท้าไปยังครัวเพื่อทำอาหารสำหรับไปทานมื้อเที่ยง รวมถึงข้าวปั้นที่สัญญากับเพื่อนทั้งสองเอาไว้ด้วย “ต้มน้ำไว้…แล้วไปแปรงฟันดีกว่า” พึมพำเสียงแหบแห้งอย่างคนอ่อนแรง เธอจัดการเปิดตู้ใต้เคานเตอร์ครัวเพื่อมองหาหม้อมาตั้งน้ำสะอาดเอาไว้ให้เดือด น้ำดื่มที่เหลือก้นขวดหลังจากเทลงในหม้อพอดีแล้วจึงกลายเป็นของเหลวแรกที่จะช่วยเรียกเรี่ยวแรงให้กลับมา พระจันทร์ดื่มน้ำอึกใหญ่ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแปรงฟันให้เรียบร้อย เธอคาบแปรงเอาไว้คาปากขณะที่เดินออกมาจัดการใส่เนื้อหมูที่หั่นเตรียมไว้ในตู้เย็นเป็นประจำอยู่แล้วลงไปในน้ำเดือด มือหนึ่งก็แปรงฟัน อีกมือก็คอยตักฟองในหม้อออกเพื่อให้ได้น้ำซุปใสแจ๋วน่ารับประทาน เมื่อปิดฝารอให้เนื้อสัตว์เปื่อย เธอก็ต้องไปง่วนอยู่กับการตัดแต่งฟักให้เป็นชิ้นพอดีคำ เหมาะสำหรับเมนูต้มจืดฟักในวันนี้ เมื่อส่วนผสมทุกอย่างลงไปอยู่ในหม้อเรียบร้อยแล้ว พระจันทร์ก็หรี่ไฟเตาให้อ่อนลงเพื่อต้มต่อให้หมูเปื่อย ระหว่างนั้นเธอก็รีบไปอาบน้ำด้วยความเร็วแสง สลัดทุกความอิดออดเอาไว้บนเตียงจนหมด เพื่อให้ตนสามารถชำระร่างกายเสร็จทันเวลาก่อนที่น้ำซุปในหม้อจะคายฟองออกมาล้นหมอจนต้องลำบากเช็ดอีก เสียงเดือดปุด ๆ เร่งเร้าให้คนที่ยังล้างโฟมล้างหน้าไม่เสร็จดีต้องเร่งมือยิ่งขึ้นไปอีก นาฬิกาแขวนผนังหน้าห้องน้ำก็ชี้บอกว่าจวนจะถึงเวลานัดที่ให้กับเพื่อนทั้งสองไว้แล้ว พระจันทร์เร่งสปีดความเร็วในการแต่งตัวให้มากขึ้นกว่าทุกวันที่ผ่านมา เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวและกางเกงเอวสูงสีดำสนิท ซึ่งเป็นชุดที่สุภาพเหมาะสมสำหรับการไปศึกษาดูงานวันแรก สุดท้ายแล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มที่ร้านอยู่ดี มือบางรีบเกล้าผมด้วยเอาให้เรียบร้อย ระวังเป็นอย่างดีไม่ให้มีเส้นผมชี้โด่เด่ออกมา เพราะเส้นผมกับจานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรอยู่รวมกันเลยแม้แต่นิดเดียว “ต้มฟักหอมกว่าทุกวันเลย.. แปลว่าสูตรใหม่ใช้ได้เลยนะเนี่ย” พระจันทร์อมยิ้ม ใช้ทัพพีตักซุปใส่ช้อนชิม เธอยกนิ้วโป้งให้ตัวเองรัว ๆ พร้อมส่งเสียงดี๊ด๊าอยู่เพียงลำพัง “อร่อยกว่าคราวก่อนเยอะเลย นี่แหละ! ต้มจืดฟักที่ถูกต้อง” มือบางหมุนแก๊สให้ปิด แล้วตักซุปใส่ปิ่นโตเก็บความร้อนให้เรียบร้อย ทว่ากิจวัตรยามเช้าของเธอก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี พระจันทร์ย้ายตัวไปทำข้าวปั้นปลาซาบะสี่ก้อนด้วยความรวดเร็ว เมนูนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่เธอทำได้ไวและชำนาญมากที่สุด จนเฌอเอมเคยอยากทำโล่รางวัลนักทำข้าวปั้นดีเด่นให้เธอเพราะความอร่อยที่หาอะไรเทียบไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD