EP.5 POISON LOVE พิษรัก ?
ตอน ไทม์โซน
-ไทม์โซน -
"กูเมาจนเบลอหรือเปล่าวะ?" คลินต์พูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์ของโรงแรมที่ตั้งอยู่ด้านหน้าพอดี
"กูเหมือนเห็นเจ้าสาวรันเวย์วิ่งร้องไห้ออกไปเมื่อกี้" คลินต์สะบัดหัวตัวเองเบา ๆ หลังจากที่เขาดื่มไปหลายต่อหลายแก้ว
"นับหนึ่งเหรอ?" ไทม์โซนที่ยืนเล่นสนุกเกอร์อยู่ก็วางไม้ลงทันทีและรีบเดินมาดูตรงโต๊ะที่คลินต์นั่งอยู่ทันที
"กูว่าท่าทางไม่ดีเลยว่ะมึง...น่าจะมีเรื่องกัน" วินด์เซอร์เองก็วางไม้สนุกเกอร์ลงและเดินตามมาสมทบด้วยอีกคน
และสิ่งที่ทั้งสามคนเห็นคือเจ้าสาววิ่งออกไปจากโรงแรม และเธอก็ขับรถคันที่เตรียมเอาไว้ในงานแต่งออกไปด้วย ขับออกไปทั้ง ๆ ที่ยังมีโบและป้าย JUST MARRIED ติดห้อยอยู่ที่ท้ายรถไปด้วย
"ฝีมือยัยพิต้าแน่ ๆ" ไทม์โซนรีบวิ่งตามเธอไปทันทีอย่างไม่ต้องคิดเลย
"เห้ยไทม์ กูไปด้วย" วินด์เซอร์รีบเดินตามไปติด ๆ เหลือแต่คลินต์ที่ยังคงดื่มเหล้าและขยำหน้าอกสาวที่นัวกันมาพักใหญ่ ๆ เพราะเขานัวจนได้ที่และเตรียมจะพาเธอขึ้นไปต่อบนห้องแล้ว
"ไอ้เชี่ยคลินต์ นั่งทำเหี้ยอะไรอยู่!!" เพื่อนทั้งสองหันกลับมาตะโกนเรียกคลินต์ที่ด้านนอกของบาร์
"กูขอไปส่งน้องเยลลี่ขึ้นห้องก่อนได้ไหม?" คลินต์บ่น ๆ เพราะเขาไม่ได้แค่เมาอย่างเดียว แต่ลูกชายของเขามันตื่นตัวเต็มที่และพร้อมจะล่อเหยื่อตรงหน้าแล้วจริง ๆ
"ไอ้คลินต์!!" ทั้งสองคนเรียกชื่อเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
"เออ ๆ! มีปัญหาอะไรก็เรียกกู ๆ ...กูควรลงสมัครเป็นนายกสักสมัยดีไหมเนี่ย" เขาบ่น ๆ ก่อนจะดันตัวของสาวหน้าหมวยนมทรงสวย ๆ ลงจากหน้าตักของเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ด้วยความเสียดาย
"ขึ้นไปรอคลินต์ที่ห้องนะ....เดี๋ยวรีบกลับมาหาครับ" คลินต์กระซิบข้าง ๆ หูของสาวอกตู้มหุ่น X คนนั้น
เขาวางนามบัตรลงบนโต๊ะทิ้งทวนเอาไว้ ก่อนจะคว้าหยิบสูทและรีบวิ่งตามเพื่อนอีกสองคนไปติด ๆ
- บนรถ -
"เดี๋ยวกูขับเองดีกว่า..กูไม่ค่อยได้ดื่ม" วินด์เซอร์กดรีโมตรถตัวเองทันที ก่อนทั้งคู่จะขึ้นรถกันอย่างรีบเร่ง วินด์เซอร์ขับตรงไปหาคลินต์ที่เดินตามมาทีหลังโดยเอาสูทปิดเป้ากางเกงเดินชักสีหน้ามาแต่ไกล วินด์เซอร์ดริฟต์รถตรงหน้าคลินต์เพื่อย่นระยะทางการเดินของเพื่อนไปในตัว ซึ่งประตูรถก็หยุดตรงหน้าของคลินต์พอดิบพอดี
เขากระชากเปิดประตูขึ้นรถมาก็บ่นต่ออย่างไม่พอใจทันที เพราะลูกชายของเขามันยังแข็งโด่ไม่ยอมลงง่าย ๆ ถ้ามันยังไม่อิ่ม
"รู้แล้วว่าเป็นนักแข่งรถมือหนึ่ง แต่ถ้ารีบมากทำไมไม่ไปเมื่อวานวะ" เขาประชดใส่วินด์เซอร์ไปพลาง ๆ ซึ่งในขณะที่ทุกคนกำลังจะขับออกจากประตูใหญ่ของโรงแรม
พี่ชายของไทม์โซนก็วิ่งออกมาจากโรงแรมแบบติด ๆ กัน แถมเขายังแต่งตัวได้ไม่เรียบร้อยดีเลย รันวิ่งไปคุยอะไรสักอย่างกับพนักงานต้อนรับ ก่อนจะวิ่งตรงมุ่งหน้าไปที่รถของทางโรงแรมที่จอดเอาไว้เพื่อรับส่งแขกที่เข้าพักไปกลับสนามบิน
"เราขับออกไปก่อนเลย เดี๋ยวตามเธอไม่ทัน" ไทม์โซนหันไปบอกกับวินด์เซอร์ทันที เพราะกลัวว่าจะคาดกันกับรถของเจ้าสาว
"เออกูก็คิดอย่างงั้น" วินด์เซอร์พยักหน้ารับก่อนจะเหยียบคันเร่งมุ่งตรงออกจากโรงแรมไป
และด้วยฝีมือการขับรถของวินด์เซอร์ เพียงไม่นานเขาก็สามารถตามทันรถของนับหนึ่งได้จริง ๆ ด้วยความที่รถที่เธอขับออกไปค่อนข้างจะเด่นกว่าคันอื่น ๆ ทั้งโบและทั้งป้ายติดท้ายที่ดูจาก 100 เมตรก็รู้ว่าเป็นรถของบ่าวสาว
"คืนนี้ใครจะรับผิดชอบ ที่กูอดกินเหยื่อเกรดพรีเมียมคนนี้?" คลินต์พูดขึ้นหลังจากที่เขาพยายามข่มลูกชายให้ยอมสงบลงได้
"มึงก็ได้กินของดี ๆ ฟรี ๆ มาตลอดอยู่แล้วเปล่าวะ.. จะบ่นไรนักหนา" ไทม์หันมาตอบกลับคลินต์อย่างไม่คิดอะไร เพราะถึงคลินต์จะบ่นยังไง เขาก็ช่วยทุกครั้งอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใครก็ตาม
ตามใบหน้าและลำตัวของทั้งคลินต์กับไทม์เต็มไปด้วยรอยเล็บของยัยพิต้า คู่ขาคนเก่าของพี่รันเวย์ ที่ตั้งใจจะมาพังงานในคืนนี้แต่ถูกสกัดเอาไว้ได้ก่อน
"คนนี้แม่งสวยระดับประเทศ เกือบจะพาขึ้นห้องอยู่แล้วเชียว!" คลินต์ก็บ่นต่ออย่างแอบเสียดายเล็กน้อย เพราะเขาตั้งใจจะฟันเธอให้ได้หลังจากที่เขาเมาได้ที่แล้ว
"เซ็ง ๆ ๆ ๆ ๆ" เขาโวยวายราวกับเด็กที่เอาแต่ใจ เวลาที่อยู่กับเพื่อนที่สนิทเขาก็มักจะเผยธาตุแท้ออกมาจนทุกคนเอือมระอาไปหมดแล้ว
"มึงไม่ได้สนใจเรื่องตำแหน่งเขาหรอก...มึงจะเอาฟรี" ไทม์หันไปมองเพื่อนรักอย่างรู้ทัน
…
"ชิ" คลินต์ถอนหายใจเล็กน้อย
…….
"กูว่ามึงช่วยขับไปขนาบข้าง ๆ รถให้ทีดิ" ไทม์บอกกับวินด์เซอร์ขณะที่พวกเขากำลังขับตามเธอไป ซึ่งเหมือนว่านับหนึ่งจะขับรถเซไปเซมาจนน่าเป็นห่วงมากจริง ๆ
"กูอยากลองคุยกับเธอดู..เผื่อจะใจเย็นลงบ้าง" ไทม์โซนมองรถข้างหน้าอย่างเริ่มกังวลใจ เขาเปิดกระจกฝั่งตัวเองและยื่นหน้าออกไปเพียงเล็กน้อย
"หยุดรถก่อนได้ไหม~" ไทม์เปิดกระจกเอ่ยบอกกับเจ้าสาวที่เอาแต่ร้องไห้ แววตามองตรงไปข้างหน้าแต่ก็ดูเหม่อลอยจนน่าเป็นห่วง
"มันอันตรายมากเลย...เราจอดคุยกันก่อนได้ไหม?" ไทม์พยายามเอ่ยตะโกนออกไปสุดเสียงที่เขามีทว่าเธอไม่กลับไม่ได้ยินมัน
นับหนึ่งยังคงมองไม่เห็นเขาแม้แต่นิดเดียว เธอขับรถตรงไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย มือยังคงกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นและร้องไห้ไม่หยุด
"..คือ...ผมอยู่ตรงนี้นะ" ไทม์โซนพยายามเรียกเธอซ้ำ ๆ อยู่แบบนั้น ...
แต่แล้วพระเอกของงานนี้ก็ขับตามมาได้ตรงจังหวะพอดีเป๊ะ ๆ ...
ปี๊น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงบีบแตรของใครอีกคนดังสนั่น
"จอดรถ จอดรถ! หนึ่งมันอันตรายมากนะ" เสียงของเจ้าบ่าวตะโกนดังข้ามมาจากอีกฝั่งหนึ่ง
"รันอธิบายได้นะหนึ่ง" รันเวย์ตะโกนดังลั่นจนได้ยินมาถึงรถอีกคันที่ขับถัดออกมา
ทุกคนในรถเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้นเลย หญิงสาวหันไปมองหน้าของเขาก่อนจะ ขับรถพุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงขึ้นเรื่อย ๆ
"ดูเหมือนว่าเจ้าสาวจะได้ยินแค่เจ้าบ่าวนะ" คลินต์นั่งหน้าแดงก่ำด้วยความเมา ๆ เขาเอ่ยพูดขึ้นตามสถานการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้น
"กูว่าเธอคงรู้เรื่องกิ๊กของพี่มึงแล้วแน่ ๆ" วินด์เซอร์พูดต่ออย่างคาดเดาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพราะเจ้าสาวที่เพิ่งจะเข้าหอไปหมาด ๆ คงไม่มีทางขับรถร้องไห้ออกมาแบบนี้แน่ ๆ ถ้าไม่ได้รู้ความจริงว่าเจ้าบ่าวที่แต่งงานด้วยมีผู้หญิงคนอื่นซ่อนเอาไว้
"ก็จริง ความลับมันไม่มีในโลกไง" คลินต์พูดขึ้นอย่างเริ่มรู้สึกถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ได้
"...เรื่องนี้พี่กูผิดต่อเธอจริง ๆ แหละ" ไทม์เองก็ถอนหายใจก่อนจะค่อย ๆ กดปิดกระจกของฝั่งตัวเองช้า ๆ
"ไง..เราค่อย ๆ ขับตามก็ได้มึง ลองปล่อยให้เขาคุย ๆ กันไปก่อน" ไทม์โซนหันไปพยักหน้ากับวินด์เซอร์ให้ค่อย ๆ ชะลอรถและขับตามแทนที่จะขับขนาบข้างไปเหมือนเดิม
"เรื่องเอากับผู้หญิงมันก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายเปล่าวะ?" คลินต์พูดไปตามความคิดของเขา พร้อมกับเปิดกระจกสูบบุหรี่เมื่อเห็นว่าวินด์เซอร์ขับรถช้าลงกว่าเดิม
"ไม่ปกติ!" ทั้งวินด์เซอร์และไทม์เอ่ยขึ้นพร้อมกันทันที
"แหมไอ้ไทม์ ทีมึงก็เอามาไม่ซ้ำหน้าเหมือนกันแหละ...จะไม่ปกติอะไรวะ?" คลินต์เถียงหลังชนฝาขึ้นมาทันที แต่โชคร้ายที่บนรถคันนี้ไม่มีฟาเรน ทำให้คลินต์จึงดูแปลกแยกในเรื่องความชั่วอยู่เพียงลำพัง
"ที่กูรักสนุกก็เพราะกูยังไม่มีแฟนหรือใครจริงจังด้วยไง" ไทม์อธิบายถึงเหตุผลของตัวเองไป
"ถ้าวันหนึ่งกูคบใครเป็นแฟนจริงจัง...กูก็คงเป็นแบบไอ้วินด์ที่ไม่ไปเอาใครอื่นอีก" ไทม์หันไปพูดกับคลินต์พร้อมกับดึงบุหรี่ในซองจากมือของเขามาจุดสูบไปด้วยอีกคนเพราะเริ่มเครียดหนักขึ้น ๆ
"ไอ้วินด์มันคนแปลกไง" คลินต์พูดขึ้นเบา ๆ
"แล้วทุกวันนี้ไอ้ฟาร์ไม่แปลกรึไง?" วินด์เซอร์ก็เถียงกลับ
"เอาง่าย ๆ มึงลองคิดกลับกันดูดิ ถ้าแฟนมึงไปเอาคนอื่นบ้าง...มึงจะโอเคได้จริง ๆ เหรอ?" วินด์เซอร์ถามกลับไปที่คลินต์ด้วยท่าทีจริงจัง
"แต่กูโอเคนะ..ไม่ซี~" คลินต์ตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไร
"เพราะมึงยังไม่เคยรักใครจริงจังไง" วินด์เซอร์พูดขึ้นขณะที่เขาค่อย ๆ เริ่มผ่อนคันเร่งช้าลง ๆ
"เดี๋ยว ๆ กลับมาเรื่องนี้แป๊บ" คลินต์ชี้ไปที่ด้านหน้ารถทันที
"กูว่าพี่ผู้หญิงขับรถไม่ค่อยแข็งนะ....ถ้าพี่มึงขับจี้ ๆ บีบแตรแบบนี้ไปตลอดทางกลัวจะมีอุบัติเหตุนะเว้ย" คลินต์มองไปยังรถสองคันด้านหน้าที่ขับขนาบข้างกันไปเรื่อย ๆ แทบจะชนกันอยู่หลายต่อหลายครั้ง