บทที่ 1 ไม่เป็นที่รัก มักเป็นที่ชัง

1601 Words
บทที่ 1 ไม่เป็นที่รัก มักเป็นที่ชัง “ เอ่อ...ผมว่าเรามาคุยกันก่อนดีกว่าไหม ต่อให้ใครจะพาใครขึ้นมาก่อน ยังไงคุณก็เสียหายอยู่ดี ” เขานี่ดูเป็นสุภาพบุรุษอยู่นะ “ อืม ” ฉันพยักหน้า “ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย จะให้ผมรับผิดชอบยังไงดี แต่ผมไม่มีเงินเยอะๆให้หรอกนะ ” เขาเดินมานั่งปลายเตียงใกล้ๆ ฉัน ครืดด ครืดดด~ “ แป๊บ ” ฉันพูดแค่นั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง [ โทรเข้า > คุณนายสายสมร ] (“ แกอยู่ไหนห้ะ เมื่อคืนทำไมแกไม่กลับบ้าน ”) (“ หนูเมาเลยนอนค้างบ้านเพื่อน ”) คำว่าเพื่อนเน้นเสียงไปหาคนข้างๆ เล็กน้อย (“ แกนี่นะ ไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง วันนี้ฉันบอกแล้วไงว่าแกต้องไปดูตัว ”) (“ เคยบอกไปแล้วนี่น่าว่าหนูไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากไปดูตัวกับใครทั้งนั้น ”) (“ แกรู้ไหมบ้านรองอะ ได้ลูกเขยรวยมากนะ แกจะน้อยหน้ายัยมีนาเหรอ ”) (“ ช่างปะไร หนูไม่สน ”) (“ แกเกิดมามีแต่ทำให้ฉันปวดหัว สู้พี่ชายแกไม่ได้เลยสักนิดเดียว ”) (“ ไม่เป็นที่รัก มักเป็นที่ชัง หนูเข้าใจคำนี้ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ”) (“ ยัยมิกิ ฉันยังพูดไม่จบ…. ตู๊ดด~ ”) ฉันรีบกดวางสายในทันที พร้อมถอนหายใจพรืดใหญ่ คนข้างๆ ก็มองหน้าฉันไปด้วย “ คุณ…เอ่อ…โอเคไหม ” “ ปกติ! ” ฉันพูดแค่นั้นก็หากระเป๋าสะพายแล้วหยิบบุหรี่กับไฟแช็คออกมา พรึ่บ! บุหรี่ที่คาบไว้คาปาก กำลังจะจุดไฟ ก็โดนอีกคนแย่งไป ฉันถึงกับหัวเสียมองหน้าคนข้างๆ ทันที “ คุณเป็นผู้หญิงทำไมต้องดูดบุหรี่ด้วย มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ ” “ เอาคืนมานะ ” เลือกที่จะไม่ตอบแต่พยายามจะเอื้อมมือเอาบุหรี่คืนที่เขาเอาไป “ ไม่ให้หรอก ผมจะทิ้ง ” “ ทิ้งไม่ได้นะ มันเหลือมวนเดียวแล้ว ” “ ผมจะทิ้ง ผมไม่ชอบคนดูดบุหรี่ ” “ มันก็เรื่องของนายปะ เกี่ยวอะไรกับฉัน เอาคืนมา ” เขายืนขึ้น เธอก็กระโดดเพื่อจะเอาบุหรี่ที่เขาชูแขนขึ้นเหนือหัว ตัวเขาว่าสูงกว่าแล้ว แขนยังยาวอีก “ เกี่ยวสิ เพราะผมจะรับผิดชอบคุณไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ” เขาพูดจบ ฉันหยุดนิ่งมองหน้าเขา “ อย่าลืมนะ ว่านายมีแฟนแล้ว ” “ ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษพอ ผมได้ทำผิดต่อคุณ ผมก็ต้องรับผิดชอบสิ ว่าแต่คุณชื่ออะไร แต่หน้าตาคุณคล้ายแฟนผมมากเลยนะ มองข้างๆ เหมือนเป๊ะเลย ” มีคนหน้าคล้ายฉันนอกจากยัยโมเน่อีกเหรอ? นี่เขาเรียกว่าหน้าโหลปะหรือฉันควรทำศัลยกรรมดี? “ แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่อยากแต่งงาน ” “ คุณชื่ออะไร บอกมาเถอะหรือคุณอายเพราะคุณเป็นคนใช้ใช่ไหม? ” “ … ” คนใช้? “ คุณนายที่บ้านต้องการขายคุณให้คนอื่นเหรอ ” “ … ” ฉันนิ่งพร้อมขมวดคิ้วมองหน้าเขา “ เมื่อกี้ที่มีคนโทรหาคุณอะ ผมเห็นคุณเมมชื่อว่าคุณนายสายสัมพันธ์อะไรนั่น ” “ สายสมร! ” เกือบจะหลุดขำแล้วนะ สายสัมพันธ์อะไรเล่า! แล้วนั่นชื่อแม่ฉันด้วยนะ อีตานี่ก็เนอะคิดได้ไงว่าฉันเป็นคนใช้ “ อ้อ ชื่ออะไรก็ช่าง เขาเป็นนายจ้างคุณใช่ไหม ผมคิดว่าเขาต้องการให้คุณไปหาเสี่ยที่รวยๆ แน่ๆ ผมเลยอยากช่วย คุณจะว่าไง ” “ ไม่จำเป็นหรอก ชีวิตฉันไม่มีใครสามารถกำหนดอะไรได้นอกจากตัวฉัน เอาบุหรี่คืนมาแล้วฉันจะบอกชื่อ ” “ ไม่ให้ ผมจะทิ้ง เอาไฟแช็คมาด้วย จะทิ้งคู่เลย ” “ ฉันมีเรื่องให้คิด ขอดูดสักรอบแล้วจะทิ้งเลย ” สัญชาตญาณของนักสู้ แค่เรื่องแบบนี้คือจิ๊บจ้อยมาก สิ่งของใดที่ตกอยู่ในมือฝ่ายตรงข้ามระยะประชิดมีหรือจะเอาคืนด้วยความสามารถตนเองไม่ได้….แต่ฉันไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนที่แท้จริง ฉันไม่อยากให้ใครรู้ด้วยว่าฉันคือลูกสาวมาเฟีย! ฉันไม่ชอบอวดเบ่งหรือข่มเหงรังแกใครง่ายๆ หรอก ยิ่งไม่ใช่เรื่องตัวเองก็จะไม่ยุ่งวุ่นวาย เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากมายหรือสถานที่วุ่นวายมากก็จะไม่ไป ส่วนตัวใครดีมา ก็จะดีกลับ คำแรกที่ทักทายถ้าพูดด้วยความไพเราะก็มักจะได้จากฉันคืนไปด้วย แต่ใครที่เอ่ยออกมาด้วยคำหยาบคาย บอกเลยฉันก็ไม่น้อยหน้า ตอกกลับไปรุนแรงเหมือนกัน “ บอกชื่อมาเถอะ อ้อ...แล้วคุณเรียนที่ไหน อายุเท่าไหร่ บอกมาให้หมด ” “ ฉันจะกลับ ” พูดแค่นั้นก็หันไปสนใจประตูห้องพร้อมก้าวขามุ่งตรงไป พรึ่บ! “ เดี๋ยวสิคุณ ถ้าเกิดว่า…เอ่อ…คุณท้องขึ้นมาจะทำไง ” ยังจะมาดึงแขนเรียวอีก “ ไม่ท้องหรอก ต่อให้ท้อง ฉันไม่ให้เดือดร้อนถึงนายแน่นอน ปล่อยแขนฉันได้แล้ว ” “ คุณจะทำแท้งเหรอ? เด็กมันยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะ ” “ นายจะบ้าหรือไง มันยังไม่ถึงขั้นนั้นเลยจะคิดให้ปวดหัวทำไม ” ฉันสะบัดมือเขาจนหลุดแล้วรีบออกจากห้องนั้นทันที เอามือล้วงลงไปในกระเป๋าสะพายเพื่อหยิบแว่นตาสีดำมาสวมใส่ พร้อมเดินตรงไปยังลิฟต์หวังจะออกจากสถานที่นี้ให้เร็วๆ ไม่อยากรู้แล้วด้วยว่าฉันมาที่นี่ยังไงหรือใครเป็นคนพามา ฉันมองซ้ายมองขวาเพื่อหารถแท็กซี่หน้าโรงแรมหรู ก็งงเหมือนกันมาไกลถึงที่นี่ได้ไง ทั้งที่มันคนละทางกับร้านเหล้าที่ไปกินเมื่อคืนเลย ‘ ปัง ปัง ปัง ’ อะไรเนี่ย จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังใกล้หู จนต้องหาที่หลบ เมืองนี้เถื่อนสมชื่อมาก เอะอะก็จะยิงกันอย่างเดียวโดยไม่สนใจผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ตำรวจแทบจะไม่มีบทบาท วันๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งกินนอนกิน นอกเสียจากว่าคนที่ไปแจ้งความเป็นคนที่มีเงินมีทองสักหน่อย ตำรวจก็พร้อมจะออกปฎิบัติหน้าที่ในทันที คิดดูว่ามันเกินไปไหม แอบเห็นใจประชากรที่อาศัยในเมืองนี้เหมือนกัน แต่อย่างว่าจะทำอะไรได้ ถ้าใครไม่แกร่งพอก็ควรย้ายจากที่นี่ไปเลย แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปไหนหรอกเพราะที่นี่อุดมสมบูรณ์เป็นที่ที่คิดว่าดีที่สุด งานมีให้ทำเยอะแยะ ส่วนมากจบไม่สูงก็ทำได้แต่เป็นงานที่ใช้แรงนะ กฎหมายก็ไม่มีอะไรมาก ยิ่งภาษีเก็บน้อยมาก ใช้ชีวิตอย่างสบาย แต่ก็ระวังหัวกันเอาเองเพราะคนเถื่อนมันเยอะ “ คุณ คุณ ระวังนะ ” ‘ ปัง ปัง ’ ฉันถึงกับถอนหายใจ ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านแล้วนะ แต่เห็นคนตรงหน้าที่ดูจะไม่ประสีประสากับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น วิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งเข้าหากระสุนอย่างเดียว จุดหมายเดียวของเขาก็น่าจะเป็นฉัน แล้วจะให้ฉันนั่งหลบแบบสบายใจได้เหรอ? ‘ ปัง ปัง ปัง ’ ฉันล้วงปืนออกจากกระเป๋าสะพายที่พกติดตัวไว้ แล้ววิ่งไปหาอีกคน พร้อมหันไปยิงขู่ทั้งสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันอยู่ เพื่อให้หยุดชะงักกันไปก่อน “ นายไม่เห็นเหรอว่าเขายิงกันอยู่ ” “ ผมเห็นคุณนั่งหลบอยู่ไง เลยกลัวว่าจะถูกยิง ” ฉันรีบพาเขาวิ่งไปหลบทันที เพราะทั้งสองฝ่ายที่ฉันหันกระบอกปืนไปหาเมื่อกี้เริ่มรัวกระสุนมา น่าจะเข้าใจผิดคงคิดว่าฉันเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล่ะมั้ง “ คุณคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ” ขณะที่ฉันกำลังตรวจเช็ดกระสุนปืนอยู่ เขาก็พูดขึ้น ทำให้ต้องหันไปสบตาเขา “ ทำไม? ” “ คนที่มีปืน ครอบครัวต้องมาจากคนมีฐานะหรืออาจจะเป็นลูกคนมีอิทธิพล แล้วดูปืนคุณสิ ไม่เหมือนปืนที่เห็นได้ทั่วไป คงเป็นปืนที่สั่งทำเป็นพิเศษแน่นอน ” “ งั้นนายก็รู้แล้วว่าฉันเป็นลูกคนมีอิทธิพล นายคงไม่อยากยุ่งด้วยแล้วใช่ไหม ” ฉันพูดแค่นั้นก็เอาหน้าออกไปดูว่ามีทางหนีทีไล่ไหม “ ครอบครัวคุณโหดเหรอ? ” “ ไม่รู้สิ ” “ แต่ที่ผมรู้มาในเมืองนี้มีแค่แก๊งมังกรใหญ่หัวขาดนะที่โหดร้ายป่าเถื่อน ” “ แก๊งมังกรใหญ่ส่าย!หน้า! ” เขานี่มันยังไง เสพข่าวมาจริงๆหรือเปล่า พูดผิดอีกแล้ว ถ้าเขารู้ว่าฉันเป็นลูกหลานของแก๊งนี้ล่ะ จะทำหน้ายังไงนะ “ เออๆ ใช่ๆ ผมไม่ค่อยใส่ใจเลยจำผิดจำถูก แต่เหมาะสมกับคำว่ามังกรหัวขาดมากกว่านะ ผมว่า ” “ แก๊งมังกรใหญ่ส่ายหน้ามันมีสี่พรรคนะ นายจะพูดเหมารวมไม่ได้ ” “ ก็ใช่ พรรคที่ตอนนี้เป็นประมุขไง เขาว่ากันว่าโหดร้ายทารุณมาก ” “ พรรคมังกรดำ? ” “ อืม คุณคงรู้จักดีแน่ๆ ถ้าครอบครัวคุณมีอิทธิพลหมายความว่าต้องทำการค้าขายกับพวกมังกรใหญ่หัวขาดพวกนี้แน่นอน ” นี่ถ้าพ่อฉันได้ยิน รับรองไอ้หนุ่มหน้ามนที่ยืนใกล้ฉันตอนนี้หัวหลุดออกจากบ่าไปแล้วแหละ ?___________? นามปากกาธัญญวรินทร์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD