หลังจากที่ภาคินหนีตำรวจมาได้ ภาคินรีบวิ่งไปยังตลาดโดยไม่สนใจบาดแผลหรือความเจ็บปวดที่ยังหลงเหลือจากการต่อสู้เพราะภาคินมีเรื่องสำคัญกว่าในใจก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร้านขนมของ"ยายกอบัวทำให้ภาคินรู้สึกผิดและเป็นห่วง
ยายกอบัวเป็นคนเดียวที่ภาคินรักและนับถือเสมือนแม่แท้ๆ หลังจากที่พ่อแม่ทอดทิ้งภาคินตั้งแต่ยังเล็ก
เมื่อภาคินมาถึงที่ตลาด ภาคอนเห็นขนมที่ยายกอบัวทำกระจัดกระจายเต็มพื้น โต๊ะและอุปกรณ์ต่างๆ ถูกทำลายจนดูไม่ออกว่านี่เคยเป็นร้านขนมเล็กๆของคุณยายกอบัวที่อบอุ่น เมื่อเห็นแบบนั้นภาคินก็รีบตรงเข้าไปช่วยยายกอบัวเก็บของด้วยใจที่เต็มไปด้วยความเศร้าและโกรธ
“มาครับคุณยาย เดี๋ยวผมเก็บเอง” ภาคินพูดขณะพยายามปลอบโยนยายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ด้วยความสิ้นหวัง ส่วนยายกอบัวก็มองสิ่งที่เหลืออยู่ในร้านอย่างใจหาย
“ไม่เป็นไรหรอก ช่วยๆกันเก็บจะได้เสร็จไวๆ" ยายกอบัวเอ่ยด้วยเสียงเบา
ยายกอบัวเป็นคนใจดี เธอเป็นคนเดียวที่ยอมรับและดูแลภาคินตั้งแต่ภาคินยังเป็นเด็ก ภาคินเป็นคนเรียนเก่ง มีความสามารถมากมาย มาตั้งแต่เด็ก แต่ภาคิสกลับเรียนไม่จบ เพราะยายกอบัวไม่มีเงินมากพอที่จะส่งภาคินเรียนต่อ
ทว่าภาคินก็ไม่เคยโกรธหรือรู้สึกว่าชีวิตตัวเองขาดอะไรเพราะภาคินรู้ว่าทุกสิ่งที่ยายกอบัวทำนั้นก็เพื่อให้เขาอยู่รอและยายกอบัวคือโลกทั้งใบของภาคิน
ภาคินก้มหน้าลงไปเก็บเศษขนมที่กระจายอยู่ทั่วพื้น ขณะเดียวกันภาคินที่กำลังเก็บเศษขนมนั้นก็คิดถึงความฝันในวัยเด็กที่ภาคินเคยมีเกี่ยวกับการเรียนและอนาคตที่สดใส แต่ชีวิตของภาคินต้องเปลี่ยนไป เมื่อความยากจนทำให้ภาคินต้องเลือกเส้นทางที่แตกต่าง
แม้จะมีความผิดหวังในชีวิต แต่สิ่งที่ภาคินจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายได้ก็คือยายกอบัว และใครก็ตามที่กล้าทำร้ายยายกอบัว ภาคินก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องผ่านไปง่ายๆ แน่นอน
จุดเริ่มต้นที่ภาคินเข้าสู่วงการนักเลงเพราะชีวิตที่ภาคินถูกบังคับให้เลือก หลังจากที่เรียนไม่จบและไม่มีทางเลือกมากนัก ภาคินจึงหันไปคบกับกลุ่มเพื่อนที่มีอิทธิพลในย่านตลาด แต่ด้วยความเก่งกาจในการต่อสู้และความฉลาดในการคิด ทำให้ภาคินจึงกลายเป็นนักเลงที่มีชื่อเสียงในวงการ ไม่ไช่เพราะภาคินต้องการที่จะเป็น แต่มันคือวิถีที่ภาคินเลือกเพื่อหาเลี้ยงยายกอบัวและปกป้องคนที่เขารัก
ตั้งแต่ภาคินเข้าสู่วงการนักเลงภาคินก็ไม่เคยชอบเส้นทางนี้เลย แต่ทุกครั้งที่ภาคินมองไปยังยายกอบัว ภาคินรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อความอยู่รอดของชีวิต ภาคิมยอมแบกความเสี่ยงและความรุนแรงเพื่อให้ยายกอบัวมีชีวิตที่ดี แม้จะต้องสูญเสียความฝันในวัยเด็กก็ตาม
ส่วนวาทีนั่นเป็นศัตรูคนสำคัญของภาคินมานาน ทั้งสองคนไม่ถูกกันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันในช่วงที่ต่างฝ่ายต่างเริ่มสร้างอิทธิพลในย่านตลาด วาทีเป็นคนเจ้าเล่ห์ และมักใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาชนะคู่แข่งเสมอ สิ่งที่วาทีอิจฉา
ภาคินก็คือภาคินนั่นมีความเคารพและศรัทธาจากผู้คนในย่านตลาดมากกว่า ซึ่งวาทีมักจะพยายามหาเรื่องและท้าทายภาคินอยู่บ่อยครั้ง
สาเหตุที่ทั้งสองคนไม่ถูกกันก็มาจากความแตกต่างในวิธีการ ภาคินแม้จะเป็นนักเลง แต่ภาคินก็ยังมีจรรยาบรรณ ไม่ก่อเรื่องกับคนบริสุทธิ์หรือทำร้ายผู้คนโดยไม่มีเหตุผล ส่วนวาทีไม่มีความเคารพในกติกาใดๆ วาทีพร้อมทำทุกอย่างเพื่อยึดครองอำนาจ แม้จะต้องทำร้ายคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ตาม
เหตุการณ์ที่วาทีบุกทำลายร้านขนมของยายกอบัวก็เป็นตัวจุดชนวนความแค้นที่สุมอยู่ในใจของภาคินมานาน มันไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องส่วนตัว การที่วาทีทำร้ายยายกอบัว คือการข้ามเส้นที่ภาคินจะไม่ยอมให้อภัย
หลังจากที่ไอร่าเดินออกจากบริษัทอย่างหัวเสีย ไอร่าก็ขึ้นรถหรูของเธออย่างรวดเร็ว พลางพึมพำอย่างหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“พวกนั้นมันก็แค่พนักงานธรรมดา กล้าดียังไงมาพูดถึงฉันแบบนั้น!”ความโกรธยังคงคุกรุ่นอยู่ในใจของไอร่า
ไอร่าเหยียบคันเร่งออกจากลานจอดรถ มุ่งหน้าออกไปบนถนนอย่างไม่คิดจะชะลอ ความมั่นใจในตัวเองทำให้ไอร่าเชื่อว่าเธอสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่ทันทีที่ฝนเริ่มตกหนัก พื้นถนนก็เริ่มลื่นและทัศนวิสัยย่ำแย่ ส่วนไอร่าก็ยังคงขับต่อไปแม้ว่าฝนจะกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง
แต่... ทันใดนั้น เสียงเครื่องยนต์ของรถไอร่าก็ดังผิดปกติแล้วจู่ๆ รถก็เริ่มกระตุกและเครื่องก็ดับลงกลางถนน เมื่อรถดับไอร่าก็ขมวดคิ้วแน่นด้วยความหงุดหงิด ไอร่าพยายามสตาร์ตรถใหม่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ารถจะติด ทำให้ความหงุดหงิดของไอร่าที่มีอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
“นี่มันวันบ้าบออะไรกันเนี่ย!” ไอร่าตะโกนออกมาในรถพร้อมทุบพวงมาลัยด้วยความโมโห
ส่วนฝนที่ยังคงตกหนักกลับไม่ช่วยให้อารมณ์ของไอร่านั้นดีขึ้น เมื่อไอร่ามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นเพียงถนนที่ว่างเปล่าและเปียกชื้น
"บ้าชะมัด... ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!" ไอร่าพึมพำพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหาทางช่วยเหลือ แต่ทว่าสัญญาณกลับอ่อนจนแทบใช้งานไม่ได้จนไอร่าหมดทางเลือก ไอร่าจึงนั่งอยู่ในรถอย่างกระวนกระวาย ท่ามกลางฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
....
ฝนที่ตกหนักยิ่งทำให้ภาคินและยายกอบัวเร่งฝีเท้าเพื่อกลับบ้าน ขณะที่พวกเขาเดินผ่านถนนที่เงียบสงบ พื้นถนนเริ่มลื่นและเต็มไปด้วยน้ำฝน ทั้งสองคนน่าจะถึงบ้านภายในเวลาไม่นานถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่สะดุดตาภาคิน
รถคันหรูที่จอดนิ่งอยู่ริมถนนโดยไม่มีใครอยู่รอบๆ
“นั่นมันรถใคร?” ภาคินพึมพำออกมา ขณะที่หันไปมองยายกอบัวด้วยความสงสัย
“ไม่รู้เหมือนกันลูก แปลกจังที่จอดทิ้งไว้แบบนี้ตอนฝนตก” ยายกอบัวตอบด้วยน้ำเสียงงงงัน
ทันใดนั้น ไอร่าเปิดประตูรถและก้าวลงมาอย่างหงุดหงิดเต็มที่ ใบหน้าของไอร่าแสดงถึงความไม่พอใจสุดๆ เมื่ออกมาไอร่ายืนกอดอกอยู่ข้างรถ มองไปที่ภาคินและยายกอบัวที่เดินผ่าน
“คุณ คุณน่ะ!” ไอร่าเรียกเสียงดัง พลางเดินไปหาภาคินและยายกอบัว แม้จะมีฝนที่ตกหนักก็ไม่ได้ทำให้ความโกรธของไอร่าทุเลาลง
“มาช่วยฉันหน่อยสิ รถฉันเสียไปไหนไม่ได้เลย!”
ส่วนภาคินหันไปมองไอร่าอย่างระมัดระวัง ภาคินมองไอร่าแล้วเอ่ยในใจ 'ผู้หญิงคนนี้ชัดเจนว่าเป็นคนรวย ดูจากรถราคาแพงและการแต่งตัว แต่ท่าทีเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจของเธอ' ทำให้ภาคินไม่ค่อยชอบใจนัก
“รถเสียเหรอ?” ภาคินถามพลางขยับเข้าไปใกล้เล็กน้อย ขณะที่ยายกอบัวยืนอยู่ข้างหลังเขา
“ใช่สิ! ไม่เห็นเหรอว่าฉันติดอยู่ตรงนี้นานแล้ว ฝนก็ตกหนัก รถก็ไม่ยอมติด” ไอร่าย้ำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมทั้งถอนหายใจอย่างไม่พอใจ
ภาคินหรี่ตาเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ แม้ไอร่าจะไม่พูดดีนัก แต่สถานการณ์ตอนนี้คงไม่สามารถปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ติดอยู่ตรงนี้คนเดียวได้ในสภาพอากาศแบบนี้
“งั้นเดี๋ยวลองดูให้”