เมื่อไอร่าขึ้นมอเตอร์ไซค์ด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด ภาคินไม่พูดอะไรก็แค่เร่งเครื่องช้าๆ แล้วขับออกไปตามถนน เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ทำให้ไอร่ารู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก ไอร่าพยายามนั่งตัวตรง ไม่อยากให้ตัวเองต้องสัมผัสกับ
ภาคินมากเกินไป แต่มันกลับทำให้ไอร่าเสียหลักทุกครั้งที่รถโยกเยกไปตามถนนขรุขระ
"ขับช้าๆ หน่อยได้มั้ย" ไอร่าพูดเสียงขุ่น ไม่สนใจว่าเธอจะเป็นฝ่ายต้องการความช่วยเหลือ
ส่วนภาคินก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่เร่งเครื่องอีกนิดเพราะเห็นว่าไอร่าคงไม่ชินกับมอเตอร์ไซค์มากนัก ลมเย็นจากฝนที่ตกลงมาเบาๆ ปะทะเข้าที่ใบหน้าของทั้งคู่ ภาคินขับรถฝ่าถนนลื่นอย่างมั่นคง ขณะที่ไอร่าพยายามจะไม่บ่นออกมาอีก
ผ่านไปสักพัก ท่าทีของไอร่าก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปจากความไม่พอใจ กลายเป็นความอึดอัด ไอร่ารู้สึกเหมือนโลกของเธอกำลังถูกพลิกไปอีกด้านที่ไม่คุ้นเคย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องพึ่งพาคนอื่นอย่างไม่เต็มใจ ขณะที่ฝนโปรยปรายลงมา ไอร่าค่อยๆยึดเสื้อภาคินแน่นขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว ทั้งจากความไม่มั่นใจในมอเตอร์ไซค์และความรู้สึกแปลกๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวในใจ
ภาคินรับรู้ถึงการจับเสื้อที่แน่นขึ้นของเธอ แต่ภาคินยังคงขับรถไปตามทางอย่างเงียบๆ จนกระทั่งทั้งคู่มาถึงบ้านของไอร่าในที่สุด ภาคินหยุดรถหน้าโกดังเก่าที่ดัดแปลงเป็นบ้านหรู ไอร่ารีบลงจากมอเตอร์ไซค์แทบจะทันที
"ถึงแล้ว" ภาคินเอ่ยเสียงเรียบเหมือนเดิม ไอร่าไม่ตอบ เธอจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองแล้วหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่สับสนก่อนจะเดินไปที่ประตูบ้าน ก่อนที่ไอร่าจะหายเข้าไปในบ้าน เธอหันกลับมามองภาคินที่ยังจอดรถอยู่
"ขอบใจ...นะ" ไอร่าเอ่ยเสียงเบา ไม่แน่ใจว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนั้น
ภาคินเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเร่งเครื่องแล้วขับจากไป ทิ้งให้ไอร่ายืนมองตามหลังภาคินจนลับตา
เมื่อก้าวเท้าผ่านประตูไอร่าหยุดชะงักเมื่อเห็นศิรวัฒน์ยืนรออยู่ตรงประตูบ้าน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาคมของเขาจ้องมาที่ไอร่าอย่างไม่มีความปรานี
"แกไปรู้จักกับคนแบบนั้นได้ยังไง?" เสียงของศิรวัฒน์ดังลั่นขึ้น เขาเดินเข้ามาประชิดตัว
ไอร่าสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ไอร่ายืนตัวตรง เธอพยายามที่จะไม่ให้ความโกรธของพ่อกระทบจิตใจเธอ แม้ว่าในใจจะหวั่นๆ อยู่บ้าง
"ก็แค่...คนที่ช่วยมาส่งพอดีรถเสียเลยติดรถเขามาด้วย" ไอร่าเอ่ยเสียงเรียบพยายามรักษาท่าทีของตัวเอง
"เขาจะช่วยหรือไม่ช่วย แกก็ไม่ควรไปซ้อนมอไซค์เก่าแบบนั้น แล้วก็อย่ายุ่งกับมัน" ศิรวัฒน์พูดเสียงดัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล
"ทำไมค่ะ เขาไม่ดีตรงไหน" ไอร่าเอ่ยขึ้นทันที
"หมอนั่นมันเป็นนักเลง แกไม่รู้หรือไงว่าคนอย่างมันมีชื่อเสียงในทางไม่ดีในพื้นที่นี้ขนาดไหน"
"นักเลงแล้วไง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพ่อ? แค่เขาช่วยให้ฉันซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับบ้านแค่นั้น พ่อจะโกรธไปทำไม?" ไอร่าพยายามจะไม่หงุดหงิด แต่ยิ่งศิรวัฒน์พูดเธอก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงกดดัน
"แกไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าแกทำให้ฉันอับอายขนาดไหน ถ้าคนอื่นรู้ว่าลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ซ้อนมอเตอร์ไซค์เก่าๆ กับนักเลงแบบนั้น จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียหายขนาดไหน" ศิรวัฒน์เอ่ยพร้อมสะบัดหน้ามองเธออย่างโกรธจัด
"โอ๊ยยย! ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย?"ไอร่ายิ่งได้ยินก็ยิ่งรู้สึกถูกกดดันเข้าไปอีก เธอพยายามจะหาข้อโต้แย้ง
"สำหรับแกอาจจะเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่! อย่าให้ฉันเห็นแกยุ่งกับมันอีก" ศิรวัฒน์ตะโกนเสียงดัง
"พ่อเลิกยุ่ง เลิกบังคับฉันได้ไหม!" ไอร่าตะโกนกลับ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เธอเบื่อที่จะถูกพ่อบังคับอยู่ตลอดเวลา
"เพราะแกเป็นแบบนี้ไง ฉันถึงไม่ไว้ใจแก" คำพูดของเขาเจ็บแสบ แสดงถึงความไม่พอใจที่สั่งสมมานาน
"แบบนี้แล้วมันทำไม!" ไอร่าตอบกลับทันที รู้สึกว่าถูกพ่อดูถูกอย่างรุนแรง
ศิรวัฒน์สะบัดหน้ามองไอร่าอย่างขุ่นเคือง
"ทำไมหรอ ก็เพราะคนอย่างแกไม่ได้เรื่อง! สร้างปัญหาให้ฉันต้องอับอายอยู่ตลอดเวลา แกรู้ตัวบ้างไหม ทำไมแกถึงได้มีนิสัยแบบแม่แก ทำไมถึงไม่เหมือนฉัน!"
เสียงตะโกนของศิรวัฒน์ดังสะท้อนไปทั่วบ้าน คำพูดของเขาทิ่มแทงใจไอร่าเหมือนหนามแหลม ไอร่ารู้สึกถึงความไม่พอใจที่พ่อมีต่อเธอมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า "แม่"
ไอร่ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก หัวใจของไอร่าเต้นแรง ความเจ็บปวดที่ถูกเก็บกดมานานเหมือนจะระเบิดออกมา
"ฉันมันตัวปัญหาขนาดนั้นเลยใช่ไหม?" ไอร่าเอ่ยด้วยเสียงที่เบาและสั่นเครือ ความรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ท่วมท้นใจเธอ แต่ไอร่าพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้ศิรวัฒน์เห็นเธออ่อนแอ แม้จะเจ็บปวดเพียงใด ไอร่าก็ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าพ่อเลยสักครั้ง
"ใช่! แกมันตัวปัญหา ไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรสักอย่าง ฉันส่งแกไปเรียนต่างประเทศเพื่อให้กลับมาช่วยงานที่บริษัท ไม่ใช่มาใช้ชีวิตที่ไร้สาระแบบนี้!" ศิรวัฒน์ตะโกนใส่ด้วยความโกรธ ร่างกายสั่นเล็กน้อยตามแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาจากภายใน
คำพูดของศิรวัฒน์เหมือนมีดที่แทงเข้ากลางใจของไอร่า เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่เย็นชา ความโกรธและความผิดหวังสะสมมากเกินจะทนไหว
"ได้ ถ้าฉันมันตัวปัญหามากนัก งั้นฉันจะทำให้พ่อได้อับอายยิ่งกว่านี้!" ไอร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เธอกำหมัดแน่น จนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ความโกรธทำให้ไอร่ารู้สึกเหมือนหัวใจจะระเบิดออกมา แต่ไอร่าก็ไม่ยอมให้ตัวเองอ่อนแอหรือร้องไห้ให้ศิรวัฒน์เห็น
ศิรวัฒน์เบิกตาโพลงเมื่อได้ยินคำตอบของไอร่า เขาไม่คิดว่าคำพูดของเขาจะทำให้ลูกสาวตอบโต้ด้วยความเกลียดชังขนาดนี้
ไอร่าเดินผ่านศิรวัฒน์ไปด้วยท่าทีเย็นชา ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง พยายามกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ให้ระเบิดออกมา เธอก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะหลบหนีจากสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นกรงที่กักขังเธอไว้ในโลกที่พ่อสร้างขึ้นมา
"ไอร่า!" ศิรวัฒน์ตะโกนเรียกลูกสาว น้ำเสียงที่เคยเฉียบขาดกลับมีแววตระหนก เขาไม่อยากเชื่อว่าความขัดแย้งระหว่างเขากับลูกสาวจะบานปลายมาถึงขนาดนี้ แต่คำพูดของเขาก็กลายเป็นเชื้อไฟที่ผลักดันให้ไอร่าหนีออกไปไกลจากเขาเรื่อยๆ
ไอร่าไม่หยุดเดิน ไม่ตอบกลับ และไม่แม้แต่จะมองพ่อของเธออีกต่อไป ประตูห้องของเธอปิดลงอย่างหนักแน่น เสียงปิดประตูเหมือนเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อในชั่วขณะนั้น