บท 1

1332 Words
                “เอาไง? จะเปลี่ยนใจไหม ตอนนี้ยังทันนะ”                 “ไม่เปลี่ยนหรอก เอาตามที่เราคุยกันไว้นั่นแหละ” เมื่อถูกจอยถามย้ำอีกครั้ง เท็นก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที                 “แต่มึงจะคุยกับเขารู้เรื่องเหรอ? อย่าลืมนะว่าภาษาเกาหลีมึงยังไม่แข็งแรง” เยริที่นั่งอยู่ข้างกันท้วงขึ้น                 “ก็อาจจะใช้ภาษาอังกฤษร่วมด้วยไง เพราะถ้ากูทำงานคู่กับพวกมึง กูก็คงไม่ได้ฝึกภาษาหรอก” เท็นว่า ยังคงยืนกรานคำเดิมว่าจะทำงานคู่กับจอง ลิน เพื่อนร่วมเซคที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว หลังอาจารย์ให้นักศึกษาจับคู่กันแล้ววิเคราะห์ภาพยนตร์มาทั้งหมดห้าเรื่อง                 “มึงจะไม่งอนพวกกูนะ?” จีซูถาม                 “แล้วกูจะงอนทำไม? กลุ่มเรามีห้าคนอาจารย์ให้จับคู่กัน ยังไงมันก็ต้องมีเศษอยู่แล้ว”                 “หรือมึงจะเปลี่ยนกับกูดี? เดี๋ยวกูไปทำงานคู่กับลินก็ได้ แล้วมึงก็มาทำงานคู่กับจอย” เวนดี้ว่า                 “กูจะไม่เปลี่ยนใจและก็ไม่โกรธพวกมึงด้วย โอเคนะ” เท็นไม่ว่าเปล่า แต่ยังลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปหาลิน หนุ่มแว่นในเซคที่นั่งอยู่ที่หน้าห้องทันที เพื่อที่เขาจะได้ไปบอกกับอีกฝ่ายว่างานคู่ของวิชานี้ เราจะได้ทำงานร่วมกัน                 โดยนี่ก็เป็นการร่วมงานครั้งแรกของเรา                 “สวัสดีลิน” หลังไปยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายได้พักหนึ่ง เท็นก็เอ่ยทักทายตามมารยาททันที ซึ่งนอกจากการร่วมงานครั้งแรกของเราแล้ว นี่ก็ยังเป็นบทสนทนาแรกของเราด้วย                 หลังเป็นเพื่อนร่วมคณะกันมาเกือบสามปีเต็ม                 “….”                 “ตอนนี้ทั้งห้องน่าจะจับคู่กันลงตัวแล้ว เพราะงั้นเราต้องทำงานคู่กันนะ” แม้ลินจะเสียมารยาทไปเสียหน่อย เพราะไม่ยอมทักทายเท็นกลับ แต่เท็นก็ยังเลือกที่จะเมินเฉย แล้วพูดในสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกไปอยู่ดี เพื่อไม่ให้เราเสียเวลาไปมากกว่านี้                 “นิ่งทำไมเหรอ? เราว่าเราก็พูดด้วยดี ๆ แล้วนะ” เขาว่าต่อ หลังเริ่มรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เมื่อหนุ่มแว่นประจำคณะยังคงนั่งนิ่งอยู่                 “บอกชื่อกับรหัสนักศึกษามา” หลังต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ในที่สุดลินก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน ซึ่งนั่นก็ทำให้เท็นยกยิ้มปากจาง ๆ                 “ก็แค่นั้น” เขาว่า แล้วดึงกระดาษกับปากกามาจากมือลินทันที เพื่อที่จะเขียนชื่อและรหัสนักศึกษาของตัวเองเตรียมส่งไปให้อาจารย์ต่อ                 ‘เท็น ลภัสธรณ์’ นั่นคือชื่อจริงของเขา แต่เพราะชาวต่างชาติต่างลงความเห็นตรงกันว่ามันเรียกยากเกินไป นั่นจึงทำให้เพื่อนในกลุ่มรวมไปถึงอาจารย์ในคณะต่างตั้งชื่อให้เขาใหม่ว่า ‘เท็น ลี’ ซึ่งในขณะนี้เท็นก็กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสาม คณะMedia & Communication ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้                 “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” หลังเดินกลับมานั่งที่เดิม จีซูก็ถามขึ้นทันที                 “ก็โดนกวนตีนอะดิ โคตรไม่มีมารยาท” เท็นพึมพำทั้งคิ้วขมวด พร้อมกระแทกก้นลงบนเก้าอี้ทันที โดยการกระทำนั้นของเขาก็ทำเอาเพื่อนในกลุ่มทั้งสี่คน ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน                 “ทำเป็นเล่นไป… หมอนั่นก็หน้าตาดีอยู่นะ แต่ติดตรงที่ว่าเรียบร้อยไปหน่อย” จอยพูดขึ้น ขณะที่สายตาของเธอจับจ้องไปยังลินที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในบทสนทนาของกลุ่มพวกเขา                 “จริง ลินดูติ๋ม ๆ เรียบร้อยแล้วก็พูดน้อยอะ เขากวนตีนมึงจริงเหรอ” เยริว่า ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เท็นพูด                 “ลินน่ะเหรอ? มึงแน่ใจนะว่ามันเรียบร้อย กูว่ามันแปลก ๆ” เท็นแย้งกลับทันควัน                 “ยังไง?” เยริถามต่อ                 “ไม่รู้ดิ… ตอนกูคุยกับมัน กูรู้สึกแปลก ๆ อะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน” เท็นว่าทั้งคิ้วขมวด                 “ฮ่า ๆ นอนน้อยจนเบลอเหรอเท็น? ลินก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ” เวนดี้ว่า พร้อมกลั้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ                 “งั้น… พวกกูคนละแสนวอนนะ” จอยพูดขึ้นอีกครั้งอย่างนึกสนุก                 “อะไร?” เขาถาม                 “ก็พนันไง” อีกฝ่ายว่าต่อเสียงแผ่ว ก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้เท็นเล็กน้อย เพื่อกระซิบบอกกติกา “ถ้ามึงเก็บแต้มจากลินแล้วเอาไปเขียนรีวิวลงเว็บได้ ก็เอาจากพวกกูไปเลยคนละแสนวอน รวม ๆ แล้วก็ตั้งสี่แสนเลยนะ”                 “ฟังดูก็น่าสนใจนะ แต่ถ้ากูทำไม่ได้ล่ะ?” เท็นถาม                 “แหม… ทำเป็นพูด ระดับมึงอะเท็น ยังไงก็ได้อยู่แล้ว” เยริแซว                 “ถ้าเขาไม่เล่นด้วยก็จบปะ อีกอย่าง…กูยังเดานิสัยลินไม่ออกเลย”                 “….”                 “สรุปยังไง ถ้ากูทำไม่ได้ล่ะ?” เท็นถามย้ำอีกครั้ง                 “ก็เปิดโต๊ะให้พวกกูไง ทำเหมือนอย่างที่เคยทำนั่นแหละ” จีซูว่า                 “โอเค งั้นตกลงนะ” เมื่อเห็นว่าการพนันนี้มันคุ้มต่อการลงทุน เท็นจึงตอบรับในทันที                 “อืม แต่มึงต้องมีหลักฐานนะ” จอยว่า                 “หลักฐานอะไร? นี่พวกมึงจะให้กูอัดคลิปตอนทำหรือไง ไม่คิดว่ากูจะเขินเหรอ” เขาโวยวาย                 “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ ก็แค่ถ่ายรูปอะ …เก็บไว้เป็นที่ระลึก” เวนดี้ว่าพร้อมขยิบตาให้เท็นหนึ่งที ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างเก็บสัมภาระของตัวเอง เมื่ออาจารย์ประกาศเลิกคลาสแล้ว               “ลิน รอก่อนสิ!” เมื่อเดินออกมาดักรอที่หน้าประตูห้องเรียนแล้ว เท็นก็ร้องเรียกอีกคนทันที หลังหนุ่มแว่นประจำคณะกำลังเดินหนีไปอีกทาง                 “มีอะไร” ลินหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงคล้ายกับรำคาญกันเหลือทน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เท็นจะสนใจ                 “เรา…ขอคาทกนายไว้หน่อยสิ” เท็นว่า                 “….”                 “ทำหน้างงอะไร เราต้องทำงานคู่กันนะ” เท็นบอกอีกฝ่ายทั้งหน้าซื่อ ทำเหมือนไม่มีความนัยแฝงอะไรทั้งนั้น ซึ่งในตอนแรกลินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจอยู่หรอก แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ยอมรับโทรศัพท์จากเท็นไปพิมพ์คาทกของตัวเองให้อยู่ดี                 “ว่าแต่เราจะเริ่มทำงานวันนี้เลยปะ แล้วจะไปทำที่ห้องลินหรือว่าห้องเราดี?” หลังได้รับโทรศัพท์คืนมาแล้ว เท็นก็ถามต่อ                 “ไว้วันอื่นแล้วกัน วันนี้ไม่ว่าง” ลินบอกอย่างไร้เยื่อใย                 “แย่เลย… แล้ววันพรุ่งนี้ล่ะ? ว่างไหม” เท็นถามต่อทำทีเป็นเสียดาย ก่อนจะสรุปเสร็จสรรพว่าจะไปทำที่ห้องใคร “งั้นสรุปไปทำที่ห้องลินนะ เพราะห้องเราเน็ตช้ามาก”             “เท็น ลี”             “ว่ายังไง?”                 “จริง ๆ เราแยกกันทำก็ได้นะ นายทำสองเรื่อง เดี๋ยวฉันทำสามแล้วเอามารวมกัน”                 “ไม่ได้ดิ!” เขาแย้งทันที                 “….”                 “ถ้านายจะทำแบบนั้น งั้นอาจารย์จะให้เราจับคู่กันทำไม เขาต้องการให้เราได้ดิสคัสกันนะ”                 “….”                 “เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราทักไปหาพรุ่งนี้แล้วกัน อาจจะ…ตอนเย็น ๆ น่าจะดี” เพราะดูแล้วลินคงน่าจะปฏิเสธกันอีกแน่ เท็นจึงรีบตัดบททันที โดยเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้อีกคนด้วย ก่อนจะเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่ยืนรออยู่ ทิ้งให้ลินมองตามหลังด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD