ซาตานหลงเงารัก EP.02

1666 Words
เบนซ์คันงามแล่นเข้าสู่หมู่บ้านเสริมรัก มุ่งตรงไปยังบ้านหลังเล็กกะทัดรัด รั้วบ้านสีขาวสะอาดตา รอบๆ บริเวณบ้านปลูกต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์เอาไว้อย่างสวยงาม “ถึงแล้วครับคุณหญิง” ประชาหันมาบอกกับคุณหญิงวีรดาทันทีที่จอดรถสนิท พร้อมกับเปิดประตู “ทำไมบ้านถึงได้เงียบแบบนี้ล่ะประชา” “ผมเรียกให้ดีกว่าครับ คุณหญิงรออยู่ในรถก่อนนะครับ” ประชาปิดประตูรถก่อนจะหันไปมองบ้านหลังเล็กกะทัดรัดนั้นด้วยความสงสัย เดินตรงไปยังประตูรั้วพร้อมยกมือขึ้นไปกดกริ่งหน้าบ้าน เพียงไม่นานก็มีหญิงสาวร่างบางวิ่งออกมาจากบ้านด้วยความรีบร้อน ยกมือบางขึ้นมาปัดผมที่หลุดลุ่ยลงมาปรกใบหน้าสวยคม หญิงสาวเงยหน้ามองแขกผู้มาเยือนด้วยความแปลกใจ ยกมือเรียวบางเปิดประตูรั้ว “มาหาใครคะ” คนเสียงหวานถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามีชายหนุ่มแต่งตัวภูมิฐานมายืนยิ้มอยู่หน้าบ้านเธอ “ที่นี่บ้านคุณศิลินดาหรือเปล่าครับ” ผู้สูงวัยถามด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่อบอุ่น ยืนมองสาวน้อยร่างบางที่ยืนจ้องเขากลับมาเหมือนกัน ทั้งโครงหน้า ปาก จมูก และดวงตา ทุกอย่างที่ประกอบอยู่บนใบหน้าหวานตรงหน้าเขานี้ ช่างเหมือนกับนายท่านของเขาเหลือเกิน สาวน้อยร่างบางผู้นี้เป็นทายาทของตระกูลภิวัฒน์เกรียงไกรอย่างแน่นอน “เอ่อ...ค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าสบตาผู้สูงวัยด้วยความสงสัย และยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีกเมื่อหญิงสาวเห็นชายผู้สูงวัยเดินกลับไปที่รถ พร้อมเปิดประตูให้ใครอีกคนที่นั่งอยู่ภายในรถลงมา คุณหญิงวีรดาก้าวเท้าลงจากรถด้วยความมั่นใจ ทั้งที่รู้ว่าการมาของท่านในครั้งนี้อาจไม่ประสบผลสำเร็จในการคุยกับหญิงสาวที่ท่านเคยดูแลเลี้ยงดูมาหลายสิบปีอย่างศิลินดา สายตาอบอุ่นจ้องมองสาวน้อยร่างบางตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น ไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่คล้ายสามีท่าน เด็กสาวตรงหน้าท่านคนนี้ถอดพิมพ์เดียวมาจากสามีไม่มีผิด ทายาทที่เหลืออยู่ของตระกูลภิวัฒน์เกรียงไกร สาวน้อยหน้าตาสวยคม ตาโต จมูกรั้น ลักษณะบางส่วนช่างคล้ายกับลูกสาวท่านเหลือเกิน “หนูช่างเหมือนยัยวิเหลือเกิน” “ค่ะ” ร่างบางถึงกับอึ้งๆ ไปกับคำพูดของหญิงสูงวัยผู้นี้ หันไปมองผู้สูงอายุอีกท่านด้วยความสงสัย “หนูชื่ออะไรจ๊ะ บอกฉันหน่อยได้ไหม” ‘สองคนนี้มีอะไรกัน ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย หน้าฉันมันมีอะไรผิดปกติหรือไง’ “หนูชื่ออลินลดาค่ะ เรียกลดาก็ได้” อลินลดาบอกผู้สูงวัยทั้งสองด้วยความสงสัย และยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีกเมื่อผู้สูงวัยเอ่ยถามถึงมารดาของเธอ “ศิลินดาไม่อยู่เหรอ” คุณหญิงวีรดาเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ ยิ่งเห็นแววตาเศร้าสร้อยของสาวน้อยตรงหน้าท่านแล้ว กลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เธอเองไม่อยากจะคิด หรือต้องการให้มันเป็นแบบนั้น “พวกคุณมีธุระอะไรกับแม่หนูหรือเปล่าคะ” เธอถามเพื่อลองเชิง เกิดเป็นคนร้ายหรือคนไม่ดีขึ้นมาแล้วเธอจะทำไง ยิ่งตอนนี้มารดาเธอก็เพิ่งเสียไปเมื่อไม่นานมานี้เอง อยู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้มาถามหามารดาเธอ แบบนี้มันน่าสงสัยเสียเหลือเกิน คุณหญิงวีรดาถึงกับยิ้มออกมาเลยทีเดียวเมื่อเห็นอาการของเด็กสาวตรงหน้า ดูจะเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างแน่นอน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ฉันเป็นญาติของแม่หนูน่ะจ้ะ” “ญาติเหรอคะ” “จ้ะ” อลินลดาสบตาจ้องผู้สูงวัยด้วยความประหลาดใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้มที่ส่งมาให้อย่างอบอุ่นก็ยิ่งสร้างความแปลกใจให้เธอได้ไม่น้อย “งั้นเชิญเข้ามาข้างในก่อนนะคะ หนูขอโทษด้วยที่ไม่ได้เชิญเข้ามาตั้งแต่แรก” คนเสียงหวานบอกด้วยความนอบน้อม และเอ่ยขอโทษขอโพยผู้สูงอายุทั้งสองเป็นการใหญ่ คุณหญิงวีรดาเดินตามเด็กสาวเข้าไปในบ้านด้วยความปลาบปลื้ม ยิ่งเห็นกิริยาอ่อนน้อมอ่อนหวานก็ยิ่งชอบใจเข้าไปใหญ่ พลางนึกถึงลูกสาวของเธอขึ้นมาไม่ได้ หากลูกสาวเธอมีนิสัยและกิริยาแบบนี้บ้างก็คงดี ไม่อย่างนั้นคงไม่น่าพบจุดจบที่น่าเศร้าแบบนี้ //////////// หญิงสาวเดินนำผู้สูงวัยทั้งสองเข้ามาภายในห้องรับแขก ก่อนจะเชิญท่านทั้งสองนั่ง ก่อนจะขอตัวเดินเข้าไปในครัวขนาดเล็กกะทัดรัด คุณหญิงวีรดาสังเกตข้าวของภายในตัวบ้านก็อมยิ้มในความน่ารักของเครื่องตกแต่งภายในบ้านไม่ได้ ทุกอย่างดูน่ารัก มันน่าจะทำมาจากมือเสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาพปักที่ติดตามฝาผนัง หรือแม้กระทั่งกล่องทิชชูที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเธอ บ้านหลังนี้ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนบ้านท่าน แต่มันก็ดูอบอุ่นและเล็กกะทัดรัดน่าอยู่เหลือเกิน สายตามัวแต่สำรวจมองสิ่งรอบข้าง จนสายตาไปปะทะเข้ากับกรอบรูปที่ติดอยู่บนฝาผนังด้วยความสนใจ สิ่งที่ท่านเห็นมีแต่ใบประกาศเกียรติคุณ ซึ่งแขวนเรียงกันอยู่หลายใบ และยิ่งเห็นว่าเจ้าของใบประกาศเกียรติคุณนี้เป็นใคร ท่านก็ยิ่งพอใจและภูมิใจในตัวของเด็กสาวผู้นี้ไม่ใช่น้อย ประชาก็มีความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับคุณหญิงวีรดาเจ้านายของเขา นึกภูมิใจในความสามารถของทายาทตระกูลภิวัฒน์เกรียงไกรเช่นกัน ‘ขนาดคุณหนูวิยังไม่เก่งเท่าคุณหนูลดาผู้นี้เลย คุณลินดาเธอคงสั่งสอนลูกสาวมาดีจริงๆ’ อลินลดาเดินออกมาจากห้องพร้อมกับแก้วน้ำสองแก้วมาต้อนรับผู้สูงวัย ถึงแม้จะสงสัยมากแค่ไหนแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะถามอะไรออกไป ร่างบางเดินตรงเข้ามาก่อนจะก้มลงนั่ง เอื้อมมือบางยกแก้วน้ำไปเสิร์ฟให้ผู้สูงวัยด้วยความนอบน้อม “ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณป้า นี่ของคุณลุงค่ะ” “ขอบคุณครับคุณหนู” หญิงสาวหันไปมองผู้สูงวัยด้วยความอึ้ง มาเรียกเธอว่าคุณหนูทำไม “คุณท่านครับ ผมออกไปรอข้างนอกนะครับ” “ไปเถอะประชา มีอะไรเดี๋ยวฉันจะเรียกเอง” “ครับ คุณท่าน” ประชาเดินเลี่ยงออกมา ยิ่งเห็นสายตาตั้งคำถามของคุณหนูเขาแล้วก็ยิ่งขำ อยากรู้เหมือนกันว่าคุณหญิงท่านจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง ///////////// ร่างสูงนั่งมองรูปถ่ายของคู่หมั้นสาวด้วยความคิดถึง หากไม่เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าในอดีต บางทีเขาอาจจะมีลูกที่น่ารักแล้วก็ได้ มือหนาลูบรูปภาพอีกครั้งอย่างเศร้าสร้อย นับตั้งแต่คู่หมั้นสาวเสียชีวิตจากการช่วยเหลือน้องสาวบุญธรรม ชีวิตเขาก็เหมือนตายทั้งเป็นเช่นกัน เมื่อคนที่รักสุดหัวใจต้องมาจากกันไปไม่มีวันกลับแบบนี้ อีกใจหนึ่งก็นึกโทษความเจ้าชู้ของเพื่อนรักที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด จนสุดท้ายมันก็เกิดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ “พี่คิดถึงสุนะ” น้ำเสียงเศร้าเอ่ยถามรูปภาพตรงหน้าด้วยความเศร้าหมอง นับตั้งแต่คู่หมั้นเขาเสียไป จากคนร่าเริง คุยเก่ง กลับกลายเป็นคนเงียบขรึม เย็นชา ไร้ความรู้สึก ใช่ว่าเขาอยากจะเป็นแบบนี้ แต่ในเมื่อคนที่เรารักที่สุดจากไปแบบนี้ คงไม่มีใครหรือผู้หญิงคนไหนมาแทนที่ในหัวใจได้หรอก ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ประตูห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูงของสุทธิการเปิดเข้ามา พร้อมกับร่างบางของสาวน้อยร่างสูงโปร่งเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของท่านประธานหนุ่ม ในมือถือแฟ้มเอกสาร “ท่านประธานคะ ชมพูนุชนำเอกสารเกี่ยวกับการเงินมาแล้วค่ะ” “ขอบคุณมาก อ้อ แล้ววันนี้ผมมีนัดที่ไหนอีกบ้าง” แล้วเงยหน้ามองเลขาอย่างต้องการคำตอบ เก็บกรอบรูปลงลิ้นชักก่อนจะรับเอาเอกสารจากในมือหญิงสาวมาเปิดดู “ไม่มีแล้วค่ะ มีอีกทีก็พรุ่งนี้เลยค่ะ ประมาณสิบโมงท่านประธานจะต้องไปพบกับภูผาตัวแทนจากบริษัทเกรียงไกรบีเอชพีกรุ๊ป นะคะ” “แล้วยังมีนัดที่ไหนอีกไหมคุณชมพู่” “ไม่มีแล้วค่ะ พรุ่งนี้มีแค่เจ้านี้เจ้าเดียวค่ะ ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าคะ” ชมพูนุชเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มด้วยความสงสัย นับตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานเป็นเลขาของชายหนุ่มผู้นี้ก็หลายปีแล้ว แต่เธอไม่เคยเห็นรอยยิ้มหรือแววตาที่หยอกล้อหรือร่าเริงเลย จะว่าไปเจ้านายหนุ่มของเธอก็ออกจะหล่อเหลา การศึกษาก็ดี ถึงแม้จะไม่ได้จบบริหารมาก็เถอะ เธอก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย รู้เพียงว่าเจ้านายหนุ่มจบหมอมา แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ เจ้านายหนุ่มถึงได้มานั่งทำงานอยู่ที่นี่ แต่ที่น่าสนใจนั่นก็คือเจ้านายหนุ่มของเธอยังโสด อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว แต่ก็ยังดูหล่อเหลา ใครได้แต่งงานด้วยคงโชคดีไม่ใช่น้อย “โอเค ขอบคุณมาก คุณไปทำงานเถอะ มีอะไรผมจะเรียกเอง” “ค่ะ” ชมพูนุชรับคำเจ้านายหนุ่มด้วยความเสียดาย ใจจริงอยากจะอยู่ใกล้เจ้านายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเปิดเผยนัก ไม่อยากตกงานเช่นกัน อีกอย่างดูๆ ไปเจ้านายหนุ่มของเธอก็ช่างเย็นชาเสียเหลือเกิน เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเสียแล้วว่าจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของหัวใจของเจ้านายหนุ่มหรือไม่ ///////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD