ทางด้านไอดิน
“ขอบใจนะเว้ยที่มาช่วย ออกไปเที่ยวกัน เดี๋ยวกูเลี้ยง”
หลังจากไอดินช่วยนทีย้ายของออกจากคอนโดของพี่สาวมาไว้ที่คอนโดแห่งใหม่ ซึ่งพ่อของเพื่อนได้เดินทางมาเซ็นสัญญาซื้อขายเมื่อช่วงบ่าย นทีก็เอ่ยปากชวนไปต่อกันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไม่ถึงห้ากิโลเมตร
เดินทางไปถึงสองหนุ่มถอดเสื้อช็อปทิ้งไว้ในรถของตัวเอง ก่อนจะเข้าไปนั่งโต๊ะว่างแล้วสั่งกับแกล้มมาสามสี่อย่าง มีกุ้งนึ่งมะนาว หมูคลุกฝุ่น เอ็นไก่ทอด ยำวุ้นเส้น แล้วก็เหล้าขวดลิตรพร้อมกับมิกเซอร์
พีอาร์สาวสวยในชุดปาดไหล่สีดำเข้ามายืนชงเหล้าอยู่ตรงชั้นวางหัวโต๊ะ แล้วยื่นแก้วน้ำสีอำพันให้กับลูกค้าหนุ่มหล่อทั้งสองคน
“ให้นั่งด้วยไหมคะ” สาวสวยเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์
“ไม่/ไม่”
ทั้งสองหนุ่มโพล่งขึ้นราวกับนัดกันไว้
เรียกได้ว่าถูกชะตา คุยกันถูกคอ นิสัยบางอย่างคล้ายกัน ทำให้ไอดินและนทีสนิทกันไวแม้จะเพิ่งรู้จักกันไม่ถึงสองอาทิตย์
ตอนนี้ไอดินย้ายออกมาอยู่คอนโดแล้ว ดูเหมือนจะเป็นอิสระ แต่ทว่าเขาก็ลอบสังเกตว่ามีลูกน้องของพ่อคอยติดตามอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ดีกว่าเดิมคือไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันให้ผู้เป็นแม่เกิดความลำบากใจ
“คนนั้น พี่สาวจริง ๆ เหรอวะ”
“ก็เออดิ หน้าไม่เหมือนกันหรือไง”
“ก็คล้าย ๆ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นแฟน”
“นั่นพี่สาวกู คลอดออกจากท้องแม่เดียวกันจะให้เป็นแฟนได้ยังไง มา ชน หมดแก้วนะเว้ย คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ”
เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุด แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ดื่มเหล้ากับเพื่อนใหม่ นทีจึงอยากออกเงินเลี้ยงให้เต็มที่
เหล้าขวดแรกหมดลง ก็สั่งขวดที่สองมานั่งดื่มกันต่อ
“กูจะบอกอะไรให้ พี่สาวกูน่ะโดนผู้ชายทิ้ง ป่านนี้ก็ยังไม่มีแฟนเลย แม่งไม่รู้ว่าไอ้เวรนั่นมันเป็นใครถึงกล้ามาหักอกพี่สาวกู อย่าให้กูเจอนะ จะอัดให้น่วมเลยคอยดู”
หึ ไม่ต้องถึงมือมึงหรอก กูต่อยปากมันให้ละ
ไอดินกระตุกยิ้มมุมปากจ้องใบหน้าเพื่อนพร้อมกับความคิดในหัว
แต่ประเด็นที่เขาสนใจคือตอนนี้เธอยังไม่มีแฟน
มือหนายกแก้วเหล้าที่ชงใหม่ยื่นออกไปกระทบกับแก้วของเพื่อน ยกจรดริมฝีปากที่เผยรอยยิ้มเกินคาดเดา กระดกน้ำเมาลงคอจนหมดแก้ว จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้ากล่องข้อความของแอปพลิเคชันสีฟ้า
ทางด้านปลายฟ้า
ติ๊ง!
เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังทาครีมบำรุงอยู่ตรงหน้ากระจก โทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงก็ส่งเสียงเตือนข้อความ หญิงสาวจึงเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน
แต่แล้วก็ต้องรู้สึกแปลกใจกับชื่อของคนที่ส่งข้อความเข้ามา
i-Din: จำผมได้ไหม
เจ้าของข้อความนี้คือเพื่อนของน้องชาย แล้วคำว่าจำได้ไหมของเขานี่สิที่ทำให้ใจเธอเต้นแรงอย่างผิดปกติ
Plaifa: จำได้สิ นายเป็นเพื่อนของนที
i-Din: ยังอยาก… อยู่รึเปล่า
อยากอะไร?
ถ้อยคำคืนนั้นของเขาเธอยังไม่เคยลืม ‘ถ้าอยาก… ก็ทักมา แล้วผมจะมาหา’ อย่าบอกนะว่าเขาจะมาหาเธอที่คอนโด
Plaifa: หมายถึงอะไร
i-Din: ลืมเรื่องของเราไปแล้วเหรอ
Plaifa: นายพูดเรื่องอะไร ถ้าเหงามากก็ไปหาคนอื่นคุย อย่ามากวน
เธอส่งข้อความนี้ออกไปก็กดปิดหน้าจอมือถือวางไว้แนบอกที่สั่นราวกับแผ่นดินไหว แปลว่าเมื่อตอนเย็นเขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันทั้งที่จำเรื่องราวได้ทั้งหมด
และดีที่ไม่มีข้อความตอบกลับมา หญิงสาวจึงคุยแชทกับเพื่อนต่อถึงประมาณห้าทุ่มก็กะว่าจะเข้านอน แต่ทว่า...
ก๊อก ! ก๊อก! ก๊อก !
ติ๊ง!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงเตือนของข้อความ
ปลายฟ้ารู้สึกแปลกใจว่าใครกันที่มารบกวนเธอดึกดื่นขนาดนี้ มือเล็กหยิบโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้เปิดอ่านข้อความ ก้าวออกจากห้องนอนไปยื่นอยู่หน้าประตูด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
ติ๊ง!
ด้านนอกเสียงเงียบไปแล้ว แต่กลับมีข้อความส่งเข้ามาเป็นครั้งที่สอง เธอจึงปลดล็อกหน้าจอแล้วเปิดเข้าไปอ่าน
i-Din: เปิดประตูให้หน่อย
i-Din: ถ้าพี่ไม่เปิดผมจะเคาะจนทุกคนออกมาดู
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
หญิงสาวอ่านข้อความจบเพียงไม่กี่วินาทีประตูห้องก็ถูกเคาะรัว ๆ ไม่ต่างจากอกข้างซ้ายที่เต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือรีบเปิดประตูให้คนด้านนอกได้สมใจ ไม่อย่างนั้นห้องที่อยู่รอบข้างคงพากันออกมาดูว่าเสียงดังอะไรนักหนา ยิ่งสมัยนี้โลกโซเชียลกำลังมาแรง และไม่แน่ว่าอาจจะถูกถ่ายคลิปไปลงประจานว่ารบกวนผู้อื่น
“นี่นายเมาเหรอ”
หลังปิดประตูปลายฟ้าก็เอ่ยคำที่ไม่น่าถามกับอีกฝ่าย สภาพแบบนี้ไม่เรียกว่าเมาแล้วจะเรียกว่าอะไร ทั้งมีใบหน้าแดงก่ำ ลมหายใจเต็มไปด้วยกลิ่นของมึนเมา กระตุกยิ้มจ้องเธอด้วยดวงตาริบหรี่ ต่างจากคนที่เดินตามน้องชายเธอเข้ามาเมื่อช่วงเย็นราวกับคนละคน
“มาที่นี่ทำไม เมาแล้วทำไมไม่กลับห้องตัวเอง แล้วทักข้อความมาก่อกวนฉันแบบนี้ต้องการอะไร”
หญิงสาวรัวคำถามใส่คนตรงหน้าระหว่างก้าวเข้าไปนั่งที่โซฟา เขานั้นช่างเป็นคนเอาแต่ใจราวกับขาดความอบอุ่นจนต้องมาก่อกวนคนอื่น ส่วนไอดินก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี เอาเป็นว่าไม่ตอบแต่ถามกลับดีกว่า
ไอดินหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน ก่อนจะส่งมือหนาวางลงบนเบาะและพนักพิงเพื่อกักขังสาวสวยไว้ในอ้อมแขน ส่งผลให้ปลายฟ้าหงายหลังล้มตัวลงนอนวางศีรษะบนที่พักแขน ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ อกข้างซ้ายของเธอยิ่งสั่นระรัวกับการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งการส่งข้อความ ถือวิสาสะมาหาที่คอนโด แล้วยังเข้าประชิดตัวเธอแบบนี้อีก
“ทำไมถึงไม่ติดต่อผมเลย”
“ขยับออกไป แล้วฉันจะตอบ”
สองมือเล็กดันแผงอก แต่ทว่าหนุ่มรุ่นน้องกับแน่นิ่ง ไม่ขยับออกไปตามคำขอ เธอจึงเบือนหน้าหันไปด้านข้าง รับรู้ถึงลมหายใจอุ่นที่มีกลิ่นน้ำเมาเป่ารดพวงแก้ม
“นายลืมไปรึเปล่าว่าตอนนั้นข้อตกลงของเราคืออะไร”
“วันไนต์สแตน”
“นายก็รู้อยู่แก่ใจนี่”
เขารู้ดีว่ามันคือความสัมพันธ์แบบคืนเดียวจบ
“แล้วถ้าผมไม่อยากจบล่ะ”