EP.7 เพื่อนแฟนขอลอง
“แคร่ก ๆ ๆ” พริ้งพราวสำลักเล็กน้อย เพราะเผลอกินน้ำกามของเขาเข้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
เธอทิ้งตัวนั่งลงไปกับพื้น และพิงตัวอิงกับรถหรูของคริสอย่างหมดแรง ทั้งใบหน้า เส้นผม ลำตัวของเธอเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำกามของผู้ชายทั้งสองคน
“หึ...หึ” บากิหยิบกางเกงในของพริ้งพราวมาเช็ดที่ท่อนรักของเขา และค่อยเอามาเช็ดคราบน้ำกามบนใบหน้าสวยของเธอ ก่อนจะโยนกางเกงในและถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วทิ้งลงที่ลานจอดรถนั้น
“กลับกันเถอะ” บากิลูบแก้มของเธอเบา ๆ
เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ก่อนจะอุ้มพริ้งพราวมาวางในรถ และเปิดกระจกขับรถตรงกลับไปยังคอนโดของคริส เพื่อไปส่งทั้งสองคน พอมาถึงคอนโด บากิก็เรียกให้รปภ. มาช่วยแบกคริสขึ้นไปยังคอนโดของเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้พริ้งพราวได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วบากิอยู่ห้องข้าง ๆ กับคริสนี่เอง
ในตอนที่เขากำลังจะเดินกลับไปยังห้องของตัวเอง ร่างสูงก็เดินตรงมาหยุดตรงหน้าของพริ้งพราวอีกครั้ง
“เรื่องคืนนี้...มันจะเป็นฝันที่พี่จะไม่มีวันลืมเลย” บากิพูดพร้อมกับลูบใบหน้าของเธอเบา ๆ ก่อนจะเดินตรงกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง
ซึ่งพริ้งพราวเองก็อมยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะเธอไม่คิดว่า จะมีผู้ชายที่โพรไฟล์ดี ๆ หน้าตาดี แถมรวยทั้งคู่มาชอบเธอพร้อมกันแบบนี้มาก่อนเลย
วันต่อมา
พริ้งพราวยังคงติดอยู่กับความทรงจำของคืนก่อนหน้านี้ ความรู้สึกอบอุ่นและตื่นเต้นที่ได้อยู่กับคริสและบากิ ทำให้เธอไม่อยากกลับบ้าน แต่สุดท้ายพ่อของเธอก็เริ่มสงสัยมากขึ้น เพราะเธอไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เธอจึงต้องบอกพ่อว่า โทรศัพท์เสียเพื่อเป็นข้ออ้างที่ทำให้ติดต่อไม่ได้
(บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง พริ้งพราวและพ่อ)
“พ่อขา...พริ้งยังติวหนังสืออยู่นะคะ อีกสักวันสองวันพริ้งจะกลับบ้านนะ” พริ้งพราวพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและจริงใจ แต่ในใจกลับกังวลว่าพ่อจะไม่เชื่ออีกต่อไป
(พริ้งมันมากเกินไปแล้วนะลูก ติวอะไรขนาดนั้นถึงไม่กลับบ้านกลับช่อง?)
“เอ๊ะพ่อ!!สอบเข้ามหา’ลัยมีกี่วิชาล่ะ...จะให้ติววันเดียวเสร็จ มันจะไปทำได้ยังไง?”
(ไม่รู้ละ! ถ้าลูกไม่กลับวันนี้ พ่อจะไปแจ้งความกับตำรวจให้ออกตามหาแล้วนะ!) เสียงของพ่อเต็มไปด้วยความเป็นห่วง จนเธอรู้สึกถึงความกดดันที่ท่วมท้นเข้ามา
“พ่อ!! พ่อ!!”
(มีอะไรก็กลับมาคุยกันที่บ้าน แต่ถ้าไม่กลับ...พ่อจะเอาตำรวจไปตาม) พ่อยื่นคำขาด เพราะเริ่มสงสัยในคำขอของลูกสาวมากขึ้น เขาตัดสายไป เพราะรู้ดีว่าถ้าขู่ไปแบบนี้ยังไงพริ้งพราวก็คงต้องกลับ
ซึ่งสุดท้ายแล้วพริ้งพราวก็ต้องจำใจกลับบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ความรู้สึกที่อยากอยู่กับคริสก็ยังคงไม่หายไป เธอรู้สึกเสพติดความรักและความอบอุ่นที่เขามอบให้ ไหนจะบากิอีกคนที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีค่า...เป็นคนที่ใคร ๆ ๆ ก็ล้วนต้องการ
ระหว่างทางกลับบ้าน
อ็อก ๆ ๆ พริ้งพราวก้มต่ำใช้ริมฝีปากของเธอบำเรอให้แฟนหนุ่มมาตลอดทั้งทางที่เขาขับตรงมาส่งเธอเกือบถึงบ้าน
“ซี้ด...อ่า...อ๊าส์...อู่ว...แบบนั้น ๆ ๆ” คริสหมุนพวงมาลัยรถเพียงมือเดียว ส่วนมืออีกข้างกดหัวของเด็กสาวให้ก้มอมแท่งรักของเขาจวบจนสุดท้าย
ตับตับ ตับ!!
“อะ...อ๊ะ...อ่า!!” เขายกตัวลอยครางลั่นรถขณะจับหัวกดลงใบหน้าของเธอกระแทกลงกับหน้าตัก พร้อมกับปล่อยน้ำกามพุ่งพรวดเข้าไปในโพรงปากสวยของหญิงสาว
“อ็อก ๆ ๆ แอวะ...แอวะ” พริ้งพราวหน้าแดงฉานเกือบหายใจไม่ออก เธอกลืนน้ำกามของแฟนหนุ่มลงคอไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ น้ำกามกลิ่นคาวเลอะเทอะเต็มมุมปากสวยของเธอ
“แคร่ก ๆ ๆ” พริ้งพราวลูบลำคอของตัวเองเบา ๆ ด้วยความแสบสัน แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรโทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนว่าพ่อของเธอจะเร่งมากขึ้นทุกที
“จิ๊” คริสส่ายหน้าเบา ๆ เหมือนเห็นว่าอีกฝ่ายถูกตามแล้ว เขารูดซิปคืนก่อนจะขับรถไปจอดข้างทางเพื่อพักสูบบุหรี่ระหว่างรอให้พริ้งพราวคุยกับพ่อของเธอ ซึ่งพอพริ้งพราวบอกว่ากำลังกลับพ่อของเธอก็ดูจะใจเย็นลงมาได้บ้าง
“เดี๋ยวพี่คริสส่งพริ้งที่บีทีเอสก็พอค่ะ” เธอบอกให้คริสจอดรถสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้บ้านเธอมากที่สุดเพราะ ถ้าไปส่งใกล้กว่านี้ก็เสี่ยงจะโดนจับได้เอา
คริสหันมามองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นและห่วงใย เขาเอื้อมมือมาลูบต้นขาของเธอเบา ๆ แล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นแต่แฝงไปด้วยความตั้งใจ
“พี่ว่าพริ้งควรจะออกมาอยู่ข้างนอกได้แล้วนะ พริ้งเองก็โตแล้ว...ควรมีอิสระในชีวิตได้แล้ว” คำพูดของคริส ทำให้พริ้งพราวรู้สึกถึงความเป็นอิสระที่เขากำลังเสนอให้ แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่ง่าย
“ทางเดียวที่พ่อจะปล่อยพริ้งไป ก็คือพริ้งต้องเข้าเรียนมหา’ลัยให้ได้เท่านั้น” เธอระบายความอัดอั้นในใจออกมา คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและความไม่แน่ใจ
คริสยังคงมองเธอด้วยสายตาที่มั่นคง “แต่พี่คริสก็รู้...ข้อสอบมันยากมาก ๆ ละพริ้งเองก็ซิ่วมาปีหนึ่งแล้วยังหาที่เรียนไม่ได้เลย”
พริ้งพราวรู้สึกถึงความทุกข์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การที่เธอต้องซิ่วมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้เธอรู้สึกกดดันมากขึ้นทุกวัน
“จะสมัครเอกชน พ่อก็บอกว่าส่งเรียนไม่ไหว” เธอระบายปัญหาให้คนที่เธอเชื่อใจที่สุดได้ฟัง
“ไม่เห็นจะยากอะไรเลย ถ้าพ่อไม่ส่ง...ผัวคนนี้ก็ส่งเมียเรียนได้นะ” คริสยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างมั่นใจ
คำพูดของเขาทำให้พริ้งพราวรู้สึกใจเต้นแรง เธอไม่เคยคิดว่า จะมีคนพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธอแบบนี้ “อยากเรียนอเธน่ามั้ยล่ะ...เดี๋ยวพี่พาหนูไปสมัครเองเลย”
พริ้งพราวมองคริสด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
“พี่คริสพูดจริง ๆ เหรอคะ?” เธอถามด้วยความไม่แน่ใจ แต่ในใจลึก ๆ เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก
คริสพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม “จริงสิ...ค่าเทอมปีละแสนกว่าเอง สบายมาก” เขาพูดเอ่ยพร้อมกับเช็ดคราบน้ำกามที่ติดอยู่มุมปากของเด็กสาว
“แต่ถ้าพี่ส่งเรียน พริ้งก็ต้องช่วยพี่ทำงานเหมือนกัน” ข้อเสนอของคริสทำให้พริ้งพราวตาเปล่งประกายขึ้นมาในทันที
“งานอะไรเหรอคะ พริ้งทำได้หมดเลย” พริ้งพราวแทบไม่ต้องหยุดคิดเลย เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ
คริสยิ้มและลูบผมของเธอเบา ๆ “ก็แค่...งานถ่ายแบบทั่ว ๆ ไปนะที่รัก”
“แต่พี่รับรองเลยว่า พริ้งจะได้มากกว่าค่าเทอมซะอีก เผลอ ๆ แทบไม่ต้องแบมือขอเงินจากพ่อเลยด้วยซ้ำไป” คำพูดของคริสทำให้พริ้งพราวรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา เธออยากพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่า เธอก็เก่งไม่แพ้พี่สาวของเธอ