ตอนที่ 6 คู่หมั้นคู่หมาย

1483 Words
หยวนไป๋เยี่ยนเป็นบัณฑิตที่สอบผ่านการสอบระดับมณฑลในปีนี้ด้วยวัยเพียงสิบแปดเท่านั้น และเตรียมที่จะสอบจอหงวนในปีหน้า ใบหน้าที่สุขุมนุ่มเย็นบัดนี้กำลังขมวดคิ้ว เมื่อมารดาเข้ามาแจ้งข่าวว่ากำลังจะส่งแม่สื่อไปที่สกุลฉู่เพื่อทำการทาบทามสู่ขอและส่งสินสอดเพื่อหมั้นหมายอย่างเป็นทางการ “ข้าบอกท่านแม่ไปแล้วว่ายังไม่อยากแต่งงานในตอนนี้ ท่านก็รู้ว่าการสอบจอหงวนนั้นยากลำบากเพียงใด หากข้าแต่งงานไปคงไม่มีกะจิตกะใจที่จะทบทวนตำราและฝึกฝนความรู้” น้ำเสียงนุ่มทุ้มกล่าวด้วยความรู้สึกที่ไม่เต็มใจนัก “แต่งงานก็อ่านตำราได้ แต่งงานก็ฝึกฝนความรู้ได้ เจ้าจะกลัวอะไรนักหนากับการมีภรรยา สกุลหยวนของเรามีเจ้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว หากเจ้าไม่แต่งงานเมื่อไหร่เราจะได้อุ้มหลานชายเสียที” ผู้เป็นมารดาหว่านล้อมบุตรชายคนเดียวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ท่านแม่เป็นสตรีย่อมรู้ว่าสตรีจะปฏิบัติตัวเช่นใดกับสามี ข้าไม่ชอบให้นางมากเกาะติด ข้าไม่ชอบให้มาเอาอกเอาใจหรือทำให้เสียสมาธิ ไม่ชอบให้มาวุ่นวายเวลาศึกษาตำรา ท่านแม่ได้โปรดเข้าใจลูกด้วย” “นี่เจ้าหาว่าข้าทำตัวน่ารำคาญเช่นนั้นหรือ ท่านพี่ดูบรรพชนน้อยของท่านพูดให้ข้า” พูดจบหยวนฮูหยินก็หันไปพูดกับสามี มือกระตุกชายเสื้อให้หันไปอบรมบุตรชายตัวดี “ฮูหยิน” หยวนเฮ่อหลาน พูดแค่นั้น จากนั้นก็ใช้สายตามองมาที่มือของนางที่กำลังดึงชายแขนเสื้อของตนอยู่ทำให้หยวนฮูหยินในวัยสามสิบแปดลดท่าทีลง เมื่อกำลังทำตัวอย่างที่บุตรชายกล่าวถึง “ขออภัยท่านแม่ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาท่านเพียงแค่พูดถึงสตรีทั่วไปเท่านั้น” หยวนไป๋เยี่ยนกล่าวขึ้นมาเสียงเบา สบสายตากับบิดาให้รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด สตรีเป็นเพศที่มักจะออดอ้อนเอาใจสามี เข้ามาคลอเคลียเอาอกเอาใจให้วุ่นวาย แม้จะเป็นสิ่งที่ สมควรทำเพื่อเอาใจสามี ทว่าสำหรับเขาแล้วกลับเป็นสิ่งที่ดูน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ยินดีที่ท่านพ่อท่านแม่ของตนยังคงแสดงความรักกันให้เห็นอยู่ในทุกวัน เพียงแต่ว่าคิดภาพตัวเองตอนมีภรรยาไม่ออก ยิ่งอยู่ในช่วงสอบที่สำคัญในชีวิตจึงยังไม่อยากคิดเรื่องความรัก “ส่งปิ่นไปเลือกคู่แต่จะให้ยกเลิกการหมั้นหมายในครั้งนี้ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เอาเช่นนี้ เราไปที่สกุลฉู่เพื่อเยี่ยมเยียน ได้ข่าวว่าหลายวันก่อนมีโจรมาบุกปล้น ในฐานะสำนักคุ้มภัยอันดับหนึ่งที่เคยคุ้มกันสินค้าให้สกุลฉู่ เราต้องไปถามข่าวคราวเสียหน่อย ครั้งนี้เจ้าก็ถือโอกาสไปพูดคุยกับคุณหนูฉู่ด้วย อย่างน้อยก็ไปเห็นหน้านางและดูนิสัยใจคอ หากเข้ากันไม่ได้จริงๆข้าก็คงจะต้องยอมเสียหน้า รอให้เจ้าสอบจอหงวนเสร็จแล้วค่อยหาลูกสะใภ้ใหม่อีกคราก็ไม่สาย” เมื่อมารดายังคงรบเร้าอยู่ไม่หยุดจึงหันไปขอความเห็นใจจากบิดา แต่หยวนเฮ่อหลานกลับส่ายหน้าเล็กน้อย มองกลับไปด้วยสายตาที่ลำบากใจ ก่อนจะพยักหน้าให้บุตรชายรับปากภรรยาของตน “ทำตามอย่างที่แม่เจ้าบอก หากไม่ถูกใจคุณหนูฉู่จะยกเลิกการหมั้นในภายหลังก็ยังไม่สาย” เมื่อบิดาเห็นด้วยเช่นนั้นจึงจำใจจะต้องเชื่อฟังอย่างเลี่ยงไม่ได้ ************************ การมาถึงของสกุลหยวนเป็นสิ่งที่ฉู่อวี่หนิงไม่คาดคิด นางถูกเรียกให้เข้าไปทำการคารวะและต้อนรับแขกที่มาเยือน แสร้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องการหมั้นหมายที่เกิดจากการเลือกปิ่นชิ้นนั้น ฉู่อวี่หนิงในชุดสีชมพูอ่อนแซมขาวที่ขับผิวให้ผุดผ่องเดินตามมารดาไปยังห้องโถงในเรือนหลัก เมื่อเห็นแขกผู้มาเยือนก็ย่อกายคารวะด้วยท่วงท่าที่อ่อนหวาน พร้อมกับกิริยาที่น่าเอ็นดู ช้อนตาขึ้นมองคู่หมั้นของตน แล้วสบตากันชั่วขณะ ไม่ได้หลบสายตาหรือแสดงอาการเอียงอายเลยแม้แต่น้อย “คุณหนูฉู่ช่างงดงามสมคำร่ำลือ กิริยามารยาทก็อ่อนหวานเรียบร้อย เจ้าเห็นด้วยหรือไม่” โจวมู่หลันหรือหยวนฮูหยินกล่าวชื่นชมว่าที่ลูกสะใภ้แล้วหันไปถามบุตรชาย หยวนไป๋เยี่ยนไม่ได้กล่าวอันใด ได้แต่นั่งนิ่งวางท่าทีเฉยชาจนฉู่อวี่หนิงรู้สึกว่าเขาจะเย็นชากับคนที่เพิ่งเจอหน้ามากเกินไปแล้ว “ไม่ได้เจอกันนาน อยากจะเล่นหมากล้อมกลับ หัวหน้าหยวนเสียหน่อย จะได้พูดเรื่องการคุ้มกันสินค้าด้วย ครั้งก่อนคนของข้าถูกสังหารไป พูดแล้วก็น่าเสียดายยิ่งนัก” ฉู่เหยากล่าวขึ้นมาก็อดนึกถึงอาเหมาไม่ได้ “หนิงเอ๋อร์ เจ้าพาคุณชายหยวนไปเดินเล่น ที่ด้านนอกดีหรือไม่ อยู่ฟังผู้ใหญ่พูดคุยกันคงจะน่าเบื่อ” ลู่ชิงชิงเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้อยู่พูดคุยทำความรู้จักกันตามลำพัง “เชิญคุณชายหยวนทางด้านนี้” นางผายมือเชิญชวนเขาไปที่ด้านนอก หยวนไป๋เยี่ยนเป็นลุกขึ้นตามอย่างเสียไม่ได้ ทว่าได้พูดคุยกับนางก็ดีเช่นกันจะได้กล่าวถึงเรื่องหมั้นหมายที่ไม่ได้เต็มใจนี้ “ข้าอยากถอนหมั้น” ยังไม่ทันเดินไปถึงที่หมายดีบัณฑิตหนุ่มก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและเย็นชา ฉู่อวี่หนิงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย ชาติก่อนสกุลฉู่เป็นฝ่ายถอนหมั้น มาชาตินี้เป็นเขาที่ขอถอนหมั้น หรือว่าชะตาที่นางพยายามเปลี่ยนแปลงมันจะไม่เกิดขึ้น “หมั้นหรือเจ้าคะ” นางแสร้งทำไม่รู้เรื่องมาก่อน “พ่อแม่ของพวกเราได้แอบทำสัญญาหมั้นหมายเอาไว้ในวันที่เจ้าปักปิ่น เจ้าคงไม่รู้เรื่องนี้สินะ ตอนนี้ เจ้าก็รู้แล้วว่าข้าเองก็ไม่เต็มใจ เจ้าเองก็คงไม่ได้เต็มใจ หากเราแต่งงานกันไปย่อมไม่เกิดผลดีแน่ เช่นนั้นเราต่างคนต่างขอให้ยกเลิกการหมั้นหมายนี้จะเป็นผลดีต่อเราทั้งคู่มากกว่า” ‘หากยกเลิกการหมั้นหมาย ข้าก็ไม่ได้เป็นฮูหยินขุนนางน่ะสิ แล้วจะแก้แค้นหลี่โม่เทียนได้อย่างไรเล่า’ “เหตุใดต้องยกเลิก บุตรย่อมเชื่อฟังบิดามารดา ข้าเต็มใจหมั้นกับท่าน” น้ำเสียงนั้นไม่มีแววเอียงอายเลยสักนิด ในวัยสิบห้าแต่นางทำตัวสุขุมและใจเย็นราวกับว่าผ่านประสบการณ์มามากมาย แววตาที่ดูจริงจังมากกว่าจะเป็นการแสดงความรู้สึกรักใคร่หรือหลงใหล ทำให้หยวนไป๋เยี่ยนประหลาดใจไม่น้อย “เจ้าหมายจะพูดสิ่งใด” “ข้าถอนหมั้นกับท่าน ท่านพ่อท่านแม่ข้าก็จะจัดหาคู่ครองให้ใหม่อยู่ดี เช่นเดียวกันกับท่าน หากถอนหมั้นกับข้าไปไม่นานก็จะหาคุณหนูบ้านอื่นมาเสนอให้ท่านเลือกอยู่ไม่หยุด สู้เราแต่งงานกันแล้วต่างคนต่างอยู่จะไม่ดีกว่าหรือ” ประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยินออกจากปากดรุณีผู้งดงาม บัณฑิตหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อย ความงดงามภายนอกของนางไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวแต่อย่างใด แต่ว่าความคิดและท่าทางที่สุขุม เกินวัยนี้ก็น่าดึงดูดใจไม่น้อย เหตุผลที่นางพูดมานั้นก็ไม่ผิดนัก มารดาของเขามีหรือว่าจะยอมรามือโดยง่าย “ต่างคนต่างอยู่ เช่นนั้นหรือ” “เจ้าค่ะ ต่างคนต่างอยู่ ข้าจะไม่รบกวนท่าน ท่านทำอะไรข้าก็จะสนับสนุน ให้ข้าเงียบข้าก็จะปิดปาก ให้ไปซ้ายข้าก็จะไม่ไปขวา” ประโยคนั้นกล่าวอย่างชาญฉลาด แววตาคมจับจ้องอย่างพินิจ นางจ้องมองมองกลับไปไม่หลบสายตาแล้วกล่าวออกมาอย่างไม่ปิดบัง “แล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อะไรในการแต่งงานครั้งนี้” ทำให้นางคลี่ยิ้มออกมา “หากท่านไปสู่จุดสูงสุดนั้นจริง ข้าก็จะได้เป็นฮูหยินของขุนนาง เป็นหน้าเป็นตาให้แก่สกุลฉู่” หยวนไป๋เยี่ยนมองแววตาและรอยยิ้มของคนที่ฉลาดเกินวัยตรงหน้า ข้อเสนอของนางก็น่าสนใจไม่น้อย ถอนหมั้นกับนางมารดาก็คงหาคุณหนูสกุลอื่นมาเสนอไม่หยุด สู้ตกลงตามข้อเสนอคงเป็นทางออกที่ดีกว่า ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD