EP 1 ภายในสิบนาที

1316 Words
พุดพิชญาออกคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษ เพราะรู้ดีว่าบอดิการ์ดคนนี้รวมถึงทุกคนที่เจ้าสัวจ้างมา ไม่รู้ภาษาไทย หากแต่เมื่อเธอหมุนตัวกำลังเดินไปทางบันได เสียงห้วนห้าวก็เอ่ยขัดอย่างหนักแน่น “ไม่ได้ครับ” พุดพิชญากรอกตาก่อนถอนหายใจอย่างหน่ายเซ็ง เธอหันไปมองเขาหัวจรดเท้าแล้วก้าวเข้าไปชิด แสร้งดมอกเสื้อเขาแล้วย่นจมูกอย่างรังเกียจ แม้จะไม่ได้กลิ่นเหม็นชวนอาเจียนอย่างที่แสดงออก มีเพียงกลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆ และกลิ่นกายกระด้างในแบบของบุรุษเท่านั้น “นายไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวานแล้วจะมาเดินตามฉันต้อยๆ ได้ยังไง นี่วันนี้ฉันมีนัดกับลูกค้าคนสำคัญด้วย ฉันจะไม่ยอมเสียงานเพราะลูกค้าทนกลิ่นตัวของบอดิการ์ดไม่ได้หรอกนะ!” “แต่ท่านเจ้าสัวสั่งไว้ให้ตามคุณหนูไปทุกที่เมื่อคุณหนูออกนอกบ้านครับ” “นายเป็นบอดิการ์ดของฉัน ไม่ใช่ของพ่อฉัน!” “ท่านเจ้าสัวคือเจ้านายของผม” เขาเอ่ยอย่างใจเย็น หากแต่ดวงตาสีน้ำตาลมีประกายคมกริบเหมือนมีดโกนที่ทำให้พุดพิชญารู้สึกเหมือนโดนกรีดบนผิวเนื้ออย่างเจ็บแสบด้วยดวงตาคู่นั้น “แต่คุณหนูเป็นเพียงภารกิจที่ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลเท่านั้น ไม่ใช่เจ้านายของผมโดยตรงนี่ครับ” “นาย!” พุดพิชญาแทบกรี๊ด เธอยกข้อมือดูนาฬิกาอีกครั้ง รู้ดีว่าหากวิ่งหนี พ่อบอดิการ์ดผู้ภักดีกับบิดาเธอเหลือเกินคนนี้ก็คงวิ่งตาม หญิงสาวสูดลมหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนยกมือกอดอกและ เงยหน้ามองสบตาเขาอย่างถือดี “ไปอาบน้ำโกนหนวดให้เสร็จภายในสิบนาที ฉันจะรอในรถ ถ้านายมาไม่ทัน ฉันจะขับรถไปเอง!” ร่างบางในชุดจั๊มสูทขายาวสีน้ำเงินแบบเรียบหันเดินฉับๆ ลงบันไดมารอในรถเฟอร์รารี่สีแดงคันโปรดที่เธอซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ของตัวเอง หญิงสาวก้าวเข้าไปนั่งในที่นั่งคนขับเพราะมั่นใจว่าไอแซคโกไม่มีทางลอกคราบเสร็จทันด้วยเวลาอันน้อยนิดที่เธอยื่นให้แน่ คิดแล้วก็น่าโมโห ถึงเธอจะรู้เหตุผลที่เจ้าสัวภพเกิดนึกอยากจ้างบอดิการ์ดขึ้นมาเพราะมีปัญหาขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจจนถูกดักยิง เมื่อเดือนที่แล้วจนท่านต้องสรรหาบอดิการ์ดมือดีมาประกบทุกคนในบ้านเพื่อความปลอดภัยก็เถอะ แต่พุดพิชญาก็อดคิดไม่ได้ว่าท่านเจาะจงให้นายคนนี้มาเป็นบอดิการ์ดของเธอเพื่อปกป้องเธอหรือเพื่อ ‘จับตาดู’ เธอกันแน่ ก็หมอนั่นตามติดเธอแทบไม่ห่างจากสายตา หากไม่ใช่ว่าเธอพักผ่อนอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ก็ไม่มีที่ไหนเลยที่เธอจะไม่เห็นเขาคอยตามเป็นเงา ขนาดเธอเข้าห้องน้ำ เขายังตามไปยืนเฝ้าข้างป้าย Lady จน บางทีเธอก็นึกอยากปีนออกทางช่องลมเหมือนในซีรีส์เกาหลี แต่เธอทำไม่เป็น และช่องลมมันสกปรก พุดพิชญาจึงได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามคำสั่งบิดาโดยพยายามไม่สนใจ พยายามมองว่าเขาเป็นแค่อากาศ ไม่มีตัวตน หญิงสาวหันมองนาฬิกาในรถ ผ่านมาแล้วเก้านาที... เธอ เหยียดยิ้มอย่างสมใจที่นายบอดิการ์ดขี้เก๊กแต่งหล่อไม่ทันอย่างที่คิด ถึงจะเหลืออีกหนึ่งนาทีก็เถอะ เธอเหยียบคันเร่งออกจากรั้วคฤหาสน์มาด้วยความรู้สึกเป็นอิสระที่สุดในรอบสองสัปดาห์จนแทบอยากร้องตะโกน แต่ออกมาได้แค่หน้าหมู่บ้าน นัยน์ตาคู่หวานที่กรีดอายไลน์เนอร์ไว้คมเฉียบก็เหลือบไปเห็นรถของที่บ้านกำลังเหยียบคันเร่งตามมาติดๆ ทางกระจกมองหลัง พุดพิชญาสบถอย่างหงุดหงิด เธอหักเลี้ยวเข้าซอยเล็กกะทันหัน ใช้ทางลัดไปออฟฟิศแม้จะรู้ว่าเขารู้ที่ตั้งของบริษัทของเธอก็ตาม แต่ถ้าเธอไปถึงก่อน เธอจะสั่งยามไว้ให้จับเขาโยนออกไปจากชีวิตของเธอ แค่สักวันเดียวก็ยังดี! เฟอร์รารี่คันนั้นเลื่อนเข้าจอดในซองจอดรถผู้บริหารอย่างนุ่มนวลสมชัยชนะเมื่อไม่เห็นรถเบนซ์ที่ตามมาในที่จอดรถของบริษัทที่ ไม่กว้างมาก และสามารถมองเห็นได้โดยรอบ หญิงสาวเก็บกุญแจลงกระเป๋าถืออย่างสบายใจได้แค่ชั่วประเดี๋ยวเดียว เมื่อขึ้นมาถึงห้องทำงาน เธอกลับเห็นชายหนุ่มในชุดสูทสีดำที่โกนหนวดเคราเรียบร้อย ยืนรอเปิดประตูให้ที่หน้าห้องแล้ว! มิน่าเล่า ตอนเธอสั่งยามให้กันบอดิการ์ดของเธอไว้ไม่ให้ขึ้นมาจุ้นจ้าน ยามคนนั้นถึงอึกอัก แต่พุดพิชญามีความสุขเกินกว่าจะอยู่คอยฟังการรับคำสั่งของยาม อย่างน้อยเธอก็มีความสุขก่อนจะเห็นเขาผลักประตูเปิดให้เธออยู่ตอนนี้นี่ละ “เชิญครับ คุณหนู” พุดพิชญาจงใจเดินชนร่างสูงใหญ่ที่น่าหมั่นไส้เหลือเกินนั่นก่อนเข้ามาในห้อง แต่ไม่คิดว่ากลิ่นน้ำยาโกนหนวดอ่อนๆ จะทำให้เธอใจเต้นรัวอย่างประหลาด หญิงสาวสลัดความคิดฟุ้งซ่านออก ก่อนยิ้มรับเมื่อเลขายกมือไหว้ทักทาย และรับการรายงานงานที่ต้องทำวันนี้อย่าง ใจเย็นเหมือนปกติ แม้ที่จริงในใจจะเต้นกระหน่ำอย่างดุเดือดด้วยความขุ่นเคืองที่ไม่เคยหนีผู้ชายที่ชื่อไอแซคโกพ้นเลยแม้แต่วันเดียว! “...จากนั้นก็มีนัดกับ Mr.TJ ตอนห้าโมงเย็น แล้วก็ คุณพุดสั่งให้หนูเตือนว่าวันนี้วันเกิดคุณวิลาวรรณค่ะ คุณวิลาวรรณจัดงานเลี้ยงที่ Full moon House” เธอหมายถึงผับหรูชื่อดังย่านเอกมัย “หนูเตรียมของขวัญไว้ให้ตามที่คุณพุดสั่งแล้วค่ะ ห่อเรียบร้อยแล้วด้วย” เลขาสาวน้อยลดแท็ปเล็ตพีซีขนาดเล็กลงและเงยหน้าขึ้นยิ้มใสซื่อแบบที่พุดพิชญาชินตา และเป็นรอยยิ้มที่เหมือนน้ำเย็นช่วยดับไฟโทสะของเธอให้มอดลงได้ทุกที แบบที่เธอรู้สึกขอบคุณตัวเองจริงๆ ที่เลือกเลขาคนนี้มาเองกับมือ “ขอบใจจ้ะ เอาไว้ได้เวลาประชุมตอนบ่ายสองก็เตือนฉันด้วยแล้วกัน ส่วนของขวัญเดี๋ยวเอามาวางบนโต๊ะฉันเลย จะได้ไม่ลืม อ้อ อย่าลืม โทร. ไปเตือนเรื่องรายงานสรุปยอดขายของไตรมาสนี้กับสาขาที่โรมกับฮ่องกงด้วยนะ” “ได้ค่ะ คุณพุด” เลขาหมุนตัวกลับไปหอบแฟ้มบนโต๊ะตัวเองมาวางไว้ให้พุดพิชญาตรวจสอบและลงลายเซ็น จากนั้นจึงเลี่ยงไปชงกาแฟและเตรียมขนมมาวางเสิร์ฟไว้ให้เหมือนทุกวัน สาวน้อยเหลือบมองบอดิการ์ดต่างชาติผู้นิ่งขรึมแล้วก็แอบแก้มแดงลอบยิ้มเอียงอาย อย่างที่เป็นมาตลอดหลายวันขณะเดินฉับๆ ไปนั่งประจำโต๊ะทำงานของตัวเองใกล้ประตูห้อง พุดพิชญาจิบกาแฟขณะอ่านเอกสาร หากแล้วก็เงยหน้ามองไอแซคโกที่ยืนตัวตรงแหน่วเหมือนรูปปั้นหิน สายตามองตรงไปยังกำแพง ไม่ได้เหลือบแลมาทางเธอเลยสักนิด แต่ตั้งแต่ได้บอดิการ์ดคนนี้มา พุดพิชญาสาบานได้ว่าเธอรู้สึกเหมือนถูกจ้องตลอดเวลาจนแทบประสาทเสีย “นี่ นาย” เขาหันมาทางเธอ ใบหน้าก้มนิ่ง “นายมาที่นี่ได้ไง? ฉันไม่เห็นรถที่นายขับมา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD