ตอนที่ 13 เช้าแรก...หลังคืนคลั่ง

1865 Words
แสงยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านบางเข้ามาในห้องสวีทหรูหรา กันต์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน ดวงตาคมกริบก้มลงมองร่างเล็กที่ยังหลับสนิทในอ้อมแขน ขนมซุกหน้าลงกับอกเขา ใบหน้าหวานฉ่ำยังแดงระเรื่อจากคืนที่ร้อนแรง ริมฝีปากบางเม้มแน่นราวกับกำลังฝันดี ผิวขาวนวลของเธอเป็นรอยแดงจาง ๆ กระจายอยู่ทั่วเรือนร่าง เกิดจากริมฝีปากร้อนและฟันคมที่เขาฝากไว้ทั้งคืน รอยดูดเม้มบนเนินคอขาวผ่อง ลงไปยังเนินอกอวบอิ่ม และเรื่อยลงไปตามแนวสะโพกนวลเนียน ราวกับแผนที่แห่งความหลงใหลที่เขาวาดไว้ด้วยตัวเอง กันต์ยิ้มมุมปากอย่างภูมิใจ หัวใจพองโตราวกับได้ครอบครองสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลก ‘รอยพวกนี้...มันบอกว่าเธอเป็นของพี่คนเดียว’ มือใหญ่เอื้อมลูบไล้รอยแดงนั้นเบา ๆ ราวกับกำลังทะนุถนอมภาพวาดชิ้นเอก ก่อนโน้มลงจูบแผ่วที่หน้าผากเธอ ‘เด็กคนนี้...ทำให้พี่คลั่งได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ’ เขาคิดในใจ แต่แทนที่จะปลุกเธอ เขากลับค่อย ๆ ขยับตัวออก แล้วอุ้มร่างเล็กนั้นขึ้นอย่างทะนุถนอม พาเข้าไปในห้องน้ำกว้างขวาง น้ำอุ่นไหลลงจากฝักบัวช้า ๆ เพื่อล้างร่างกายที่ยังเหนียวเหนอะจากเหงื่อและน้ำรักที่ยังมีร่องรอยอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน ขนมสะดุ้งตื่นเล็กน้อย ดวงตาสวยปรือมองเขาอย่างง่วง ๆ “พี่กันต์...เช้าแล้วเหรอคะ...หนู...ยังเพลียอยู่เลย...” กันต์หัวเราะเสียงทุ้มในลำคอ ลูบหลังเธอเบา ๆ ขณะฟอกสบู่หอมกรุ่นให้ทั่วร่างเธอ นิ้วใหญ่ลื่นไหลไปตามแนวหลังสวย เรื่อยลงไปยังสะโพก น้ำอุ่นไหลรินลงตามผิวขาวนวลของเธอ ฟองสบู่สีครีมขาวลอยฟุ้ง ผสมกลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ที่ติดกายของขนมตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้กันต์กลืนน้ำลายดังเอื๊อกโดยไม่รู้ตัว “เพลียก็หลับต่อสิ...” เขากระซิบเสียงพร่า ดวงตาคมกริบไล้ตามร่างเธอที่เปียกชุ่ม เนินอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมเบา ๆ ตามลมหายใจ เอวคอดกิ่วที่โค้งรับกับน้ำอุ่น และเนินสาวที่ยังแดงระเรื่อจากความรักที่เพิ่งผ่านพ้น ‘เชี่ย...แค่ล้างตัวให้...ทำไมพี่ถึงอยากกินขนมอีกแล้ววะ’ เขาคิดในใจ หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด มือใหญ่ที่กำลังฟอกสบู่เริ่มช้าลง...ช้าจนกลายเป็นลูบไล้ ขนมปรือตาหวานฉ่ำ มองเขาด้วยแววตาง่วง ๆ แต่แฝงรอยยิ้มออดอ้อน “พี่...มือพี่...ลูบตรงไหนอะคะ...อ๊า...” เธอครางแผ่วเมื่อนิ้วเขาเลื่อนลงต่ำ วนเวียนรอบเนินสาวที่ยังอ่อนไหว ริมฝีปากร้อนของเขาซุกลงที่คอเธอ ดูดเบา ๆ จนรอยแดงใหม่ผุดขึ้น “พี่...หนูไม่ไหวจริง ๆ นะคะ...” คำพูดนั้นคือฟางเส้นสุดท้าย กันต์ครางต่ำในลำคอ วางฝักบัวลงแล้วอุ้มเธอลงอ่างอาบน้ำอุ่นที่เต็มไปฟองสบู่ เขานั่งลงในอ่างให้ร่างกายกำยำจมลงในน้ำอุ่นช้า ๆ ก่อนจะดึงร่างเล็กของขนมมานั่งคร่อมตักจนเนินสาวของเธอแตะกับแก่นกายที่แข็งขึงของเขา ร่างกายทั้งสองแนบชิดกันจนแทบละลายเข้าด้วยกัน ฟองสบู่ลอยฟุ้งรอบตัว ผสมกลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ที่ติดกายเธอ “ขนม...อย่ายั่วพี่สิ...พี่จะทนไม่ไหวแล้ว” เขากระซิบเสียงพร่า ดวงตาคมกริบลุกโชน ก่อนประกบปากร้อนลงบนริมฝีปากเธอ จูบดุเดือดที่แทบจะกลืนกิน ปลายลิ้นร้อนสอดแทรก ดูดดึงลิ้นเล็กเพื่อชิมรสชาติหอมหวาน ขนมตัวสั่น มือเล็กเกาะไหล่กว้างของเขาแน่น ดูเหมือนฤทธิ์ยายังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ร่างกายเธอตอบสนองไวเกินคาด “พี่...น้ำ...น้ำร้อน...อ๊า!” เธอครางลั่นเมื่อมือใหญ่ของเขาบีบเนินอกอวบอิ่ม เม้มดูดยอดถันชูชันที่โผล่พ้นน้ำ ฟองสบู่ลอยฟุ้งรอบตัวทั้งคู่ กันต์เลื่อนมือลงต่ำ สอดนิ้วอุ่นร้อนเข้าไปลูบไล้จุดอ่อนไหวที่ยังชุ่มชื้น “ขนม...แน่น...แน่นขนาดนี้...พี่จะคลั่งตายอยู่แล้ว” น้ำกระเซ็นเล็กน้อยเมื่อเขาขยับตัว ก่อนจับสะโพกเธอให้แนบชิดแล้วกดสะโพกของเธอลงให้กลืนกินแก่นกายของเขา ขนมครางเสียงหวาน ร่างกายขยับกดลงโดยอัตโนมัติ มือใหญ่ของกันต์ประคองสะโพกนุ่มนวลของเธอ นำทางให้เธอขยับขึ้นลงช้า ๆ ก่อนเร่งจังหวะเร็วขึ้น ดุเดือดราวกับพายุที่ถูกกักไว้มานาน น้ำอุ่นสาดกระจายตามจังหวะรุนแรงที่เธอขย่มลงบนตักเขา ผสมเสียงครางหวานของขนมที่ดังก้องห้องน้ำ “พี่...แรงไป...ลึก...ลึกเกิน...อ๊าาา! พี่กันต์...หนู...หนูเสียว...” กันต์คำรามต่ำ ก้มลงกัดคอเธอเบา ๆ มือใหญ่บีบสะโพกให้ขยับแนบชิดยิ่งขึ้น นำทางจังหวะให้เธอ “ฮึ่ม!...แน่นเกินไปแล้วขนม” ขนมร่างกายเกร็งกระตุก จุดสุดยอดถาโถมเข้ามาแรงกล้า น้ำหวานฉ่ำไหลทะลักผสมน้ำอุ่น กันต์ตามเธอไปในที่สุด ครางชื่อเธอเสียงพร่า พลางกอดเธอแน่นในอ่างที่น้ำที่เริ่มเย็นลง “พี่อะ...หื่น...หื่นเกินไปแล้ว...” ขนมหอบหายใจถี่อย่างเหนื่อยอ่อน ซุกหน้าแนบกับอกเขา แอบยิ้มเขินอาย กันต์หัวเราะเสียงแผ่ว จูบกลุ่มผมอ่อนนุมของเธออย่างเอ็นดู “เพราะหนู...น่ากินเกินไปไง” หลังจากเช้าที่ร้อนแรงในห้องน้ำสุดหรู กันต์และขนมแทบจะไม่ออกจากห้องโรงแรมทั้งวัน จวบจนกระทั่งแสงแดดบ่ายสาดส่องลอดผ้าม่านบาง แต่ทั้งคู่กลับจมดิ่งอยู่ในโลกส่วนตัวที่เต็มไปด้วยครางหวานและสัมผัสที่คลั่งรัก กันต์จับเธอกินมาราธอนอย่างไม่รู้เบื่อ เริ่มจากบนเตียงนุ่ม จนเปลี่ยนไปที่โซฟาหนังในห้องนั่งเล่น แล้วปิดท้ายด้วยพื้นพรมนุ่มที่เขากดเธอลงไปอีกครั้ง รอยแดงจาง ๆ บนผิวขาวนวลของขนมเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมง แต่เธอไม่มีแรงจะโวยวาย ทำได้เพียงแค่ครางชื่อเขา จนสุดท้ายกลายเป็นเสียงอ้อนหวานที่ทำให้เขาแทบขาดใจ “พี่กันต์...พอเถอะค่ะ...หนู...หมดแรงแล้วจริง ๆ” กว่ากันต์จะยอมหยุดก็ปาไปบ่ายสาม กันต์ถอนตัวออกครั้งสุดท้าย หอบหายใจถี่ กอดร่างเล็กที่อ่อนระทวยของเธอไว้แน่น ร่างกายทั้งคู่เปียกชุ่มเหงื่อ กลิ่นรักอบอวลไปทั่วห้อง ขนมพึมพำเสียงเบา ซุกหน้าลงบนอกแกร่ง “พี่กันต์...พี่หื่นเกินไปแล้ว กินหนูทั้งวันเลย...” กันต์หัวเราะเสียงพร่า ก้มลงจูบแก้มใสแผ่วเบา “ใครใช้ให้เราน่ากินแบบนี้ล่ะ หืม?” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนพูดต่อเสียงแผ่วพร่า “แต่ก็ได้...พี่จะยอมพักก่อน เดี๋ยวพาไปหาอะไรกิน เติมพลังหน่อย” ก่อนจะเว้นวรรคแล้วกระซิบข้างหูเธอ “หรือจะให้พี่...กินเราอีกรอบดีล่ะ?” มือหนาเริ่มลูบไล้ผิวเนียนอีกครั้ง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้เพื่อจูบเธออีก ขนมรีบยกมือขึ้นปิดปากเขา ทำแก้มป่อง ส่งสายตาดุแบบขี้อาย “พอแล้วค่ะพี่ หนูเหนื่อยจริง ๆ นะ!” กันต์หัวเราะเสียงต่ำ อย่างเอ็นดู “ก็ได้ ๆ งั้นไปอาบน้ำสิ” “หรือจะให้พี่ช่วย...” “ไม่ต้องเลยค่ะ! หนูอาบเองได้!” เธอตอบเร็วปรื๋อ ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงคว้าผ้าเช็ดตัว วิ่งหนีเข้าห้องน้ำทันที โดยมีเสียงหัวเราะของกันต์ดังตามหลัง สี่โมงเย็นพวกเขาออกมาจากโรงแรมในชุดที่เรียบง่าย กันต์สวมเสื้อเชิ้ตสีเทาอ่อนพับแขน กางเกงยีนส์พอดีตัว ในขณะที่ขนมสวมเดรสสายเดี่ยวลูกไม้สีครีมที่เขาซื้อให้จากร้านในโรงแรม ผมยาวสลวยมัดครึ่งหลวม ๆ แก้มนวลแดงระเรื่อดูน่ารักสมวัย กันต์จูงมือเธอพาไปยังร้านอาหารอิตาเลียนเล็ก ๆ ชั้นล่างของโรงแรม ที่เงียบสงบ มีมุมส่วนตัวภายใต้แสงเทียนดูโรแมนติก “สั่งเต็มที่ได้เลย...พี่เลี้ยงเอง” กันต์เปิดเมนูผ่าน ๆ เพียงชั่วครู่ ก่อนเงยหน้าสั่งอาหารกับพนักงานอย่างคล่องแคล่ว “ขอลาซานญ่าเนื้อวัว, สปาเกตตีซอสไวท์ครีมเห็ดทรัฟเฟิล แล้วก็…พิซซ่าฮาวายเอี้ยน แป้งบางกรอบ” เขาหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนหันมามองขนมที่กำลังจ้องหน้าเขาอย่างงง ๆ “ของหวานเอาเป็น พานาคอตต้าซอสเบอร์รี่นะครับ แล้วก็น้ำองุ่นของน้องผู้หญิง...ไม่เอาน้ำแข็ง” ขนมเบิกตากว้างทันที “ห๊ะ? พี่กันต์…รู้ได้ไงคะว่าหนูชอบพานาคอตต้ากับน้ำองุ่นแบบไม่ใส่น้ำแข็ง!?” กันต์หันมายักคิ้วให้ ริมฝีปากหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็เราเป็นเด็กติดหวาน จะให้พี่ไม่รู้ได้ไงล่ะ?” “ตอนเด็ก ๆ เวลาพาไปกินข้าวทีไร ก็ดูแต่เมนูของหวานก่อนทุกที” “อะ...อันนั้นมันนานแล้วนะคะ!” ขนมหน้าแดงแปร๊ด รีบก้มลงจ้องเมนูในมือกลบเกลื่อน “แต่พี่จำได้” เสียงทุ้มต่ำของเขาว่าอย่างหนักแน่น แล้วก็วางเมนูลง ไม่เปิดดูต่อด้วยซ้ำ “ของโปรดขนม พี่จำได้หมดแหละ…” ขนมเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตากลมโตสบกับแววตาอบอุ่นของเขา ที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในโลก หัวใจเธอเต้นตึกตัก รู้สึกเหมือนจะละลายอีกครั้ง...แม้เพิ่งโดนเขากินมาทั้งวัน แต่… เด็กแสบอย่างเธอ จะยอมเขินอยู่ฝ่ายเดียวได้ยังไงล่ะ? ขนมยิ้มหวานแฝงความเจ้าเล่ห์ เธอยกแก้วน้ำขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนเอียงคอถามกลับ “งั้น...พี่กันต์จำได้มั้ยคะ ว่าหนูเคยบอกว่า ถ้าใครจำของโปรดหนูได้หมด...หนูจะให้รางวัล?” กันต์เลิกคิ้วขึ้น “หืม? รางวัลอะไร?” ขนมวางแก้วน้ำลงเบา ๆ แล้วเท้าคางยิ้มให้อย่างซุกซน “ก็...ให้หอมแก้มทีนึงไงคะ~” เธอกะพริบตาปริบ ๆ ทำเสียงออดอ้อนนิด ๆ ยิ้มหวานยั่วยวน กันต์ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เขาโน้มตัวเข้ามาเล็กน้อย ดวงตาคมพราวระยับ “แค่หอมเหรอ...?” เสียงทุ้มของเขาเต็มไปด้วยนัยซ่อนเร้น ขนมเบิกตากว้าง รีบโบกไม้โบกมือแทบไม่ทัน “อะ เอ๊ะ! หอมแก้มก็พอแล้วค่า! อย่ามาทำหน้ามึนค่ะ!” กันต์ยิ้มกว้างกว่าเดิม ดวงตายังจ้องเธอราวกับจะกลืนกิน มือใหญ่เอื้อมมาจับมือเล็กบนโต๊ะ ลูบไล้เบา ๆ จนขนมขนลุกซู่ “งั้นพี่ขอเบิ้ลนะครับ” “เผื่อไว้สำหรับคราวหน้าด้วย…” ขนมยิ้มเขิน ตัวร้อนวูบจนแทบอยากมุดโต๊ะหนี ใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงเสียจนจะทะลุอก ‘บ้าเอ๊ย… พี่กันต์นี่มัน…คนหื่นชัด ๆ!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD