ตอนที่ 8 จะจีบก็ตามใจ...แต่พี่ไม่ยอมยกให้ใคร

1710 Words
ตั้งแต่วันนั้น ขนมก็กลายมาเป็นผู้ช่วยพิเศษของกันต์อย่างเป็นทางการ แม้จะทำหน้าที่เลขาของประธานบริษัทอยู่แล้ว แต่เมื่อโปรเจกต์ใหม่ระหว่าง KTEG กับวิสต้า เริ่มขยับเข้าสู่เฟสวางแผนและการดำเนินงาน กันต์ในฐานะหัวหน้าโครงการหลักของ KTEG ก็เอ่ยปากขอตัวขนมจากราวินให้มาช่วยงานฝั่งวิศวกรรมแบบใกล้ชิด และแน่นอน...ราวินก็อนุญาตแบบไม่ต้องคิดนาน เพราะรู้ว่าเพื่อนรักไม่ได้คิดแค่งานกับเด็กข้างบ้านคนนี้ก็ตาม วันรุ่งขึ้นหลังประชุมเปิดเฟสงานกันเสร็จ กันต์ก็พาขนมออกเดินทางไปยังไซต์งานอีกแห่งที่เขาคุมเป็นหัวหน้าโครงการ ระหว่างทางเธอได้เห็นอีกมุมของเขา คนที่ขมวดคิ้วเวลาพูดเรื่องงาน สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังเมื่อคุยกับวิศวกร และคำสั่งสั้น ๆ ที่ชัดเจนแต่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ “พี่กันต์นี่...ยังหล่อ เท่ และเก่งเหมือนเดิมเลยแฮะ” ขนมแอบพึมพำเบา ๆ ขณะยืนหลบแดดอยู่ใต้เพิงพักริมไซต์ “ว่าไงนะ?” กันต์หันกลับมาถามเพราะได้ยินคล้าย ๆ เสียงเธอพูด “เปล๊า~ ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ!” ขนมรีบปฏิเสธ มือยกพัดกระดาษปิดหน้าแทบไม่ทัน กันต์หัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะยื่นขวดน้ำเย็นให้ “เหนื่อยก็พักนะ เดี๋ยวพี่ทำงานตรงนี้อีกแป๊บเดียว” ...และขนมก็ได้เห็นภาพผู้ชายที่เหงื่อท่วมหน้า แต่ยังยิ้มให้เธอด้วยสายตาลุ่มลึก หัวใจของเธอเลยเผลอเต้นแรงขึ้นมาทันที เย็นวันนั้น หลังออกจากไซต์ กันต์ก็ขับรถพาขนมตรงกลับบ้าน แต่เขากลับจอดรถที่หน้าบ้านของตัวเอง “ขอบคุณนะคะ...” “มิวบอกให้ไปทานข้าวเย็นด้วยกัน” กันต์ชิงพูดขึ้นก่อนทันที “เอ๋?” “ยัยมิวส่งข้อความมาบอกพี่ว่า วันนี้ไลฟ์ทำอาหารไว้เยอะ ให้พาขนมมาด้วย” “จริงเหรอคะ? มิวทำอะไรอีกล่ะ” ขนมตาโต ดวงตาเป็นประกายวิบวับ “เห็นแก่กินเหมือนเดิมเลยนะ เราน่ะ” กันต์หัวเราะออกมา “ฮื้ออ~ หนูเปล่านะคะ แต่ยัยมิวทำอาหารอร่อยเองตังหากล่า~” ดวงตากลมสวยค้อนขวับให้เขา “ว่าแต่...เมื่อไหร่พี่กันต์จะเลี้ยงหนูล่ะคะ” เธอเน้นเสียงคำว่า ‘เลี้ยงหนู’ อย่างเจ้าเล่ห์ ทำเอาคนฟังไอค่อกแค่ก “แต่ถ้าพี่คิดจะเลี้ยง...ก็ต้องดูแลหนูยาว ๆ นะคะ ไม่ใช่แค่มื้อเดียว~” เธอหยอดไว้แค่นั้น ก่อนสะบัดหน้าทำเป็นงอนเบา ๆ แล้วเปิดประตูลงจากรถ “หนูไม่คุยด้วยละ ไปหามิวดีกว่า~” เสียงหวานพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนเดินเข้าบ้านไปพร้อมเสียงหัวเราะใส ๆ กันต์นั่งนิ่งอยู่ในรถอีกสักครู่ เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ ‘เด็กคนนี้...คิดจะฆ่าพี่ให้ตายทั้งเป็นเหรอวะ’ ภายในบ้านของมิว บนโต๊ะอาหารมื้อเย็น กลิ่นหอมของกระเทียมเจียวผสมกลิ่นข้าวหอมมะลิและน้ำซุปอ่อน ๆ ลอยแตะจมูกตั้งแต่ขนมเปิดประตูเข้าบ้าน เธอถอดรองเท้าเสร็จก็แทบพุ่งเข้าไปที่โต๊ะอาหาร ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตื่นตาตื่นใจทันทีที่เห็นอาหารหลากหลายวางเรียงอยู่ตรงหน้า “โห…ยัยมิว! วันนี้จะเปิดบุฟเฟ่ต์เหรอ?” ขนมทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามเพื่อนสาวทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มิวหัวเราะเสียงใส พลางหยิบผ้ากันเปื้อนออกแล้วนั่งลงอย่างสง่างามแบบแม่ครัวมือทอง “วันนี้ฉันไลฟ์ทำเมนู ‘Comfort Thai Dinner for Soul’ จ้า~” เธอว่าพลางชี้ไปที่เมนูบนโต๊ะอย่างภาคภูมิใจ “นี่เลย...แกงเขียวหวานไก่เนื้อนุ่ม ๆ กับมะเขือเปาะ, ปีกไก่ทอดน้ำปลา กรอบนอกนุ่มใน, ยำไข่ดาวแซ่บจี๊ด และที่ขาดไม่ได้...ข้าวสวยร้อน ๆ กับไข่เจียวกรอบฟู~” “โอ๊ยตายแล้วววว~ กลิ่นแกงนี่มันแบบ...แม่ช้อยทิพย์มาสิงหรือไงอะ ฮืออ~” ขนมพูดพลางทำหน้าเคลิ้ม ยื่นหน้าไปสูดกลิ่นจากชามแกงเขียวหวานแล้วแทบละลายตรงนั้น “จะกินได้ยัง? หรือจะสูดดมอย่างเดียว?” มิวแซวพลางยื่นช้อนให้ “กินค่ะ!! กินเดี๋ยวนี้เลย!” ขนมหยิบช้อนพร้อมตักแกงเขียวหวานคำโตทันที แววตาเป็นประกายประหนึ่งได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดตั้งแต่คำแรก “แม่เจ้าโว้ย~ ยัยมิว! แกแต่งกับฉันเถอะ!!” ขนมหลุดปากเสียงดัง ขณะที่มิวหัวเราะจนแทบตกเก้าอี้ ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้น “หืม? เมื่อกี้...ขอใครแต่งงานนะ?” เสียงทุ้มนั้นทำเอาขนมชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเธอหันไปมอง...ก็พบว่ากันต์กำลังนั่งลงข้าง ๆ แล้วหันมามองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ยัยขนมจะขอมิวแต่งงานล่ะ~” มิวรีบฟ้องทันที “เฮ้ยยยย ก็แหมม ยัยมิวทำอาหารอร่อยแบบนี้ หนูก็อยากได้ไปเป็นแม่ผีเรือน เอ๊ย ศรีเรือนค่ะ” ขนมหัวเราะกลบเกลื่อน “พี่ก็ทำอาหารอร่อยนะ” กันต์พูดขึ้นลอย ๆ ดวงตาคมเข้มจ้องมองขนมด้วยสายตาลุ่มลึก “ไม่อยากได้พี่บ้างเหรอ” ขนมกะพริบตาปริบ ๆ เพราะไม่คิดว่าจะโดนอ่อยซึ่ง ๆ หน้าแบบไม่ทันตั้งตัว “อ๊ายยยย! จะกินข้าวหรือจะกินกันเองคะ” มิวหมั่นไส้แกล้งโวยวาย รีบคว้าไม้พายตักข้าวมาวางกั้นกลางระหว่างสองคน ขนมหัวเราะกลบเกลื่อน แก้มแดงระเรื่อเล็กน้อย เธอเลยรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ว่าแต่...บอสเอาเอกสารไปเสนอให้พี่กันต์ยังคะ?” กันต์ที่กำลังจะยกน้ำขึ้นดื่มถึงกับชะงัก “บอส?” มิวเลิกคิ้ว “ใครอะ บอส?” “พนักงานใหม่อะแก ย้ายมาจากกรุงเทพฯ” “หน้าตาดีมากเลยน้า~ สูง ขาว ดูอบอุ่นแบบพระรองในซีรีส์เกาหลีอะ!” ขนมพูดไปยิ้มไป ตักข้าวเข้าปากเหมือนไม่รู้ว่าพายุกำลังตั้งเค้าตรงที่นั่งข้าง ๆ กันต์วางช้อนลง ก่อนจะเหลือบตามองขนม ดวงตาคมส่อแววไม่ค่อยพอใจนัก แต่มิวกลับตาโตขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “หล่อขนาดนั้นเลยเหรอ!? ฉันอยากเห็นบ้างละ!” “งั้นพรุ่งนี้แกเอาข้าวไปส่งให้พี่วินดิ เผื่อจะได้เดินสวนกันบ้าง~” ขนมหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่มิวทันที “ไม่เอาอะ รายนั้นกลัวจะไม่ยอมกินข้าวที่มิวทำอะดิ” มิวรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที เมื่อนึกถึงสายตาของราวินที่เวลาเจอเธอมักทำให้เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ พิลึก “ว่าแต่...บอสเขาจีบแกเหรอ?” “เฮ้ย ไม่ใช่! ไม่มี๊” ขนมโบกมือปฏิเสธแทบไม่ทัน “จริงอะ?” มิวหรี่ตาแคบลงอย่างจับผิด “ก็แค่ขอแอดแอปเขียวเฉย ๆ เองงง...” ขนมตอบเสียงอ้อมแอ้ม หน้าแดงขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่บรรยากาศจะอึมครึมไปมากกว่านี้ เสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงความจริงจังของใครบางคนก็ดังขึ้นแทรก “ใครจะจีบก็แล้วแต่...” กันต์เอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาจับจ้องที่ขนม “แต่ต้องผ่านพี่ก่อน” ขนมเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมโตเบิกเล็กน้อย เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดอะไรออกไป เธอรีบเปลี่ยนเรื่องอีกครั้งอย่างร้อนรน “อ๊า~ ไข่เจียวมิว ฟูอร่อยเหมือนร้านอาหารในโรงแรมเลยค่ะ พี่กันต์ลองดูสิ~” ขนมยื่นจานให้เขา พร้อมยิ้มหวานให้แบบเนียน ๆ กันต์รับจานมา ก่อนตอบสั้น ๆ “อืม...” แม้คำพูดจะดูนิ่ง ๆ แต่ดวงตาคมเข้มของเขากลับยังจับจ้องใบหน้าหวานของเธอไม่วางตา ขนมทำเนียนหยิบจานของตัวเองมาวางใกล้พี่กันต์ก่อนจะตักต้มยำรสแซ่บใส่ถ้วยให้เขา “ของโปรดพี่กันต์ใช่มั้ยคะ? หนูจำได้นะว่าแต่ก่อนพี่ชอบซดน้ำต้มยำตอนเครียด ๆ” เธอหันมายิ้มหวาน ดวงตากลมใสเจือแววขี้แกล้งนิด ๆ กันต์รับถ้วยจากเธอโดยไม่พูดอะไร แต่หางคิ้วกระตุกขึ้นเล็กน้อยพยายามเก็บสีหน้าไม่ให้หลุด “ยังจำได้อีกเหรอ” “แน่นอนค่ะ...บางเรื่องหนูก็ไม่เคยลืมนะ” ขนมพูดพร้อมจ้องตาเขาตรง ๆ มิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับกลอกตา “โอ๊ยยย ฉันขอตัวไปหาน้ำกินก่อนนะ รู้สึกคอแห้งพิกล” พูดจบก็ลุกหนีอย่างไว ปล่อยให้คนสองคนเงียบกันไปชั่วครู่…แต่หัวใจเต้นดังเท่า ๆ กัน หลังมื้อเย็นจบลง ขนมขอตัวกลับบ้านเพราะยังมีงานค้างเล็กน้อย กันต์จึงอาสาเดินออกมาส่งถึงหน้ารั้วบ้าน บรรยากาศเย็นสบายของช่วงหัวค่ำทำให้สองคนเดินเคียงกันเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น “สัปดาห์หน้า...พี่ต้องลงไซต์โครงการหลักของ KTEG ที่ต่างจังหวัด” เสียงเขาทุ้มแต่ฟังดูผ่อนคลาย “เป็นไซต์สำคัญ...ต้องค้างคืนสองวัน” ขนมหันมามองอย่างสนใจ “แล้วหนูต้องไปด้วยเหรอคะ?” “แน่นอนสิ เราเป็นผู้ช่วยพี่นี่นา” กันต์ตอบพลางยิ้มมุมปาก ไม่รู้ทำไม...แค่คิดว่าเธอจะต้องนั่งรถไปกับเขา นอนพักที่เดียวกัน ทำงานใกล้กันตลอดสองวัน...หัวใจเขาก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาแล้ว “อุ๊ย~ ได้ออกทริปกับหัวหน้าแบบนี้ ถือว่าเป็นโบนัสงานมั้ยน้า~” ขนมหัวเราะเบา ๆ แกล้งเอานิ้วเคาะปลายคาง “แต่ต้องมีข้าวเช้านะคะ ที่สำคัญหนูจะไม่ตื่น ถ้าไม่มีคนมาปลุกค่ะ” กันต์เลิกคิ้วเล็กน้อย “จะให้พี่...ไปปลุกถึงห้องเลยเหรอ?” “ถ้าพี่กล้า...ก็ลองดูสิคะ” ขนมหันมายิ้มหวานก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้าน ปล่อยให้กันต์ยืนอยู่ตรงนั้น...พร้อมกับหัวใจที่เหมือนโดนไฟช็อตแรง ๆ ไปหนึ่งดอก ‘ยัยเด็กนี่...พูดแต่ละอย่างจะพี่ให้หัวใจวายตายให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย’ เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยเบา ๆ พลางส่ายหัว ยิ้มเจ้าเล่ห์ ‘ไปทริปนี้...ดูซิ จะได้กินขนมมั้ย...หึ’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD