ตอนที่ 6 ระวังนะพี่...หนูอาจกลับมาทำให้พี่หลง

1939 Words
K-TECH Engineering Group หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า KTEG คือหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมก่อสร้างอัจฉริยะ มีโปรเจกต์นับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมืองทั้งระบบ และกันต์ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้น เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายภายใต้ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นเพียงซีเนียร์โปรเจคเอ็นจิเนียริ่งธรรมดา ๆ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร และจริง ๆ แล้วร่ำรวยขนาดไหน เขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอก เพราะในใจ...มีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่านั้น โดยเฉพาะเด็กข้างบ้านที่เขาเคยคิดว่า ‘ไม่เอา’ แต่ตอนนี้...เขากลับอยากได้จนแทบทนไม่ไหว กันต์จำได้ดีว่าเธอเคยวิ่งตามเขาในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกล่องขนมในมือและรอยยิ้มกว้างที่สดใสที่สุดในโลก จำได้ว่าเธอเคยสารภาพรัก ก่อนจะร้องไห้ออกมา เพราะเขาปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดี เขาคิดว่าเธอแค่เด็ก คิดว่าอีกหน่อยก็ลืม แต่ตอนนี้คนที่ดันไม่ลืมกลับกลายเป็นเขาเอง และเพราะแบบนั้น เขาถึงไม่กล้ามองเธอตรง ๆ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้ารุกแรง...แต่ก็หยุดความคิดของตัวเองไม่ได้เลยสักวัน เขาเริ่มคิดว่า จะจีบเธอแบบไหน ถึงจะเนียนพอและไม่โป๊ะแตก ไม่ให้ขนมรู้ตัวว่า เขารู้สึกกับเธอมากแค่ไหน “เริ่มจากอะไรดีวะ…” กันต์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในห้องประชุมไซต์งาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนภาพเก่า ๆ ในอินสตาแกรมของใครบางคนอย่างตั้งใจ โพสต์รีวิวร้านกาแฟเมื่อสองปีก่อน ยังอยู่ครบ และเขาก็ยังจำได้ดี ว่าขนมเป็นสาวสายอเมริกาโน่ ไม่หวาน โคลด์บรูว์ ไม่มีไซรัป...ร้านโปรดชื่อ 'สตาร์ไลท์' ที่อยู่ชั้นล่างของตึกสำนักงาน ใครจะคิดล่ะ ว่าเขาจะไปไล่ย้อนดูโพสต์ไอจีเธอจนเจอเมนูโปรดได้... ใครจะรู้ ว่าจริง ๆ แล้ว เขาทำงานอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกของเธอในฐานะวิศวกรโครงการไซต์เมืองทดลองระบบบ้านอัจฉริยะ ...และใครเลยจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่น ที่ขนมทำงานอยู่นั้น ก็เป็นบริษัทในเครือของ KTEG เหมือนกัน แต่เขาไม่รีบเปิดเผยอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้...สิ่งเดียวที่เขาอยากเปิดคือ...เกมจีบเด็กข้างบ้านแบบเนียน ๆ กันต์ยกมือถือขึ้นโทรหาร้านกาแฟประจำทันที “โคลด์บรูว์เย็น 1 แก้วครับ ส่งให้ ‘เลขาท่านประธานบริษัทวิสต้า’ ที่ชั้น 12 แล้วช่วยติดโน้ตให้หน่อยนะครับ ‘ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ :) ’ ” “…ไม่ต้องใส่ชื่อครับ” ปลายสายรับคำเรียบร้อย เขาวางสายก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “เริ่มที่กาแฟก่อนแล้วกัน...มาดูซิว่าหัวใจเด็กน้อย จะหวั่นไหวขึ้นบ้างมั้ย” ... ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทุกเช้าวันทำงานของขนม เวลาเก้าโมงตรงเป๊ะ จะมีกาแฟโคลด์บรูว์เย็น ไม่หวาน ถูกวางไว้ที่โต๊ะทำงานของเธอ พร้อมโน้ตแผ่นเล็ก ๆ เขียนด้วยลายมือสวยจัดเรียงเป็นระเบียบ ‘ขอให้เช้านี้สดใสนะครับ :) ’ ‘กาแฟขม ๆ เผื่อทำให้ยิ้มหวานได้บ้าง’ ‘เจอเรื่องเครียดเมื่อวาน หายหรือยัง?’ ทุกข้อความดูใส่ใจจนขนมแทบอยากละลาย แต่กลับไม่มีชื่อเจ้าของข้อความเลยสักครั้งเดียว... “เฮ้ยยย ขนม! แฟนแกรึเปล่าเนี่ย ส่งกาแฟมาทุกวันเลย~” เสียงพี่แพรวที่มารอส่งเอกสารให้เจ้านาย สะกิดถามพร้อมยิ้มแซว อีกคนที่เดินมาถึงก็รีบเสริมทันที “วันนี้ใส่โน้ตลายน่ารักอีกแล้วอะ หวานไปมั้ยยย?” “มีแฟนมาเสิร์ฟกาแฟทุกวันเลยเหรอคะ เลขาคนสวย~” เสียงแซวจากพี่ฝ่ายบุคคลที่เดินมาส่งงาน ดังขึ้นทันทีที่เธอยกแก้วขึ้นมาดื่ม “อุ๊ย ไม่ใช่แฟนค่าาา~” ขนมรีบปฏิเสธ พร้อมแก้มที่แดงเป็นลูกตำลึง “เอ๊...หรือว่าจะเป็นคนที่มาส่งทุกเช้ากันนะ หล่อมากเลยค่า~” พนักงานสาวอีกคนแกล้งกระเซ้าเสียงหวาน เล่นเอาเพื่อนข้าง ๆ หลุดหัวเราะกันคิกคัก ขนมทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้ มือหมุนแก้วกาแฟไปมาแต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าว “อะแฮ่ม! พวกคุณจะแซวเลขาผมอีกนานมั้ยครับ?” เสียงทุ้ม ๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาทั้งกลุ่มสะดุ้งเฮือก “อุ๊ย! ท่านประธาน!” ทุกคนรีบวางแฟ้มเสนอเซ็นลงตรงหน้าขนมแบบเนียน ๆ ก่อนจะพากันหายวับไปจากโต๊ะเหมือนสายลม ขนมหัวเราะเบา ๆ แล้วส่ายหน้าอย่างระอา “แหม~ พี่ชักอยากรู้ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะว่า...ใครเป็นเจ้าของกาแฟโคลด์บรูว์ ที่ส่งให้เลขาพี่ทุกเช้า?” ราวินว่า พลางยักคิ้วหยอกอย่างรู้ทัน ขนมหันมายิ้มหวาน ถามตาแป๋ว พลางแกล้งตีหน้าซื่อ “อ้าว...ไม่ใช่พี่วินเหรอคะ?” “หึ...” ราวินหัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร ความจริงน่ะเหรอ...ขนมรู้ดี เพราะเมื่อสองวันก่อน มิวก็เพิ่งมากระซิบบอกเธอ พร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์ “ฉันรู้แล้วนะ ว่าใครเป็นคนสั่งกาแฟให้ทุกเช้า...” “ร้านสตาร์ไลท์เค้าบอกมาเองเลย...พี่กันต์ สั่งเองทุกวัน!” “มั่วรึเปล่า~” ขนมหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด “ไม่มั่ว! สาบานเลย!” มิวรีบยกสามนิ้วชูเหมือนสาบานตนเป็นลูกเสือ “คนส่งบอกเลยว่า ‘คุณกันต์’ เป็นคนโทรมาเองทุกเช้า แล้วให้ติดโน้ตหวาน ๆ ด้วยทุกครั้ง~” ขนมได้แต่แอบซ่อนรอยยิ้มหลังแก้วกาแฟ หัวใจดวงน้อย ๆ ที่เคยนิ่งเฉย เริ่มสั่นไหวทุกครั้งที่เห็นแผ่นโน้ตเล็ก ๆ บนแก้วที่วางอยู่ตรงหน้า แต่ไม่มีทางเสียล่ะ ที่เธอจะยอมให้เขาอ่อยเธออยู่ฝ่ายเดียว ขนมวางแก้วกาแฟลงช้า ๆ ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ ดวงตากลมใสเปล่งประกายเหมือนคิดแผนอะไรบางอย่าง ‘ถ้าอยากดูแลขนาดนี้...หนูก็ไม่ขัดนะคะ’ ‘แต่ถ้าคิดว่าเด็กอย่างหนูจะไม่รู้ทัน...พี่คิดผิดแล้วล่ะ :) ’ คราวนี้...ถึงตาหนูบุกบ้างแล้วนะคะ พี่กันต์ สองวันถัดมา... หลังจากที่ขนมรู้ว่า คนส่งกาแฟให้เธอทุกวันคือใคร ก็ถึงเวลาอ่อยกลับแบบเนียน ๆ แล้วล่ะ ขนมนั่งทำงานหน้าคอมเงียบ ๆ แต่มือกลับไถดูมือถือที่เพิ่งค้นประวัติร้านขนมเจ้าเก่าที่อยู่ในตลาดใกล้โรงเรียนมัธยมเก่า “ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน” ขนมที่เขาเคยกินตอนมัธยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอจำได้ขึ้นใจ ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่แอบมองพี่กันต์นั่งกินใต้ต้นมะม่วงหลังตึกเรียน แต่ตอนนี้...เธอโตพอจะซื้อให้เขาแล้ว เธอสั่งขนมเปียกปูน 2 กล่องจากร้านดั้งเดิม พร้อมกับฝากโน้ตเล็ก ๆ ไปด้วย ให้ไรเดอร์ส่งตรงไปยังสำนักงานของ KTEG “ไม่รู้ว่ายังชอบขนมเหมือนเดิมมั้ย แต่หนูจำได้...ว่าพี่เคยกินทุกเย็นหลังเลิกเรียน" โดยที่เธอก็ไม่ลงชื่อในโน้ตเหมือนกัน ... ช่วงบ่าย — ที่ไซต์ก่อสร้างสำนักงานใหญ่ KTEG กันต์กำลังคุมหน้างานอยู่ จู่ ๆ ก็พนักงานรปภ. ก็เดินถือถุงขนมพร้อมโน้ตเล็ก ๆ มาส่งให้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหยิบมาเปิดดู ‘ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน’ แถมยังมาจากร้านเดิมที่เขาเคยซื้อทุกวันสมัยม.ปลาย ร้านที่เขาเองยังนึกไม่ถึงว่าเธอจะจำได้ มือใหญ่เปิดโน้ต อ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ก็หลุดยิ้มกว้าง...ชนิดที่ลูกน้องหันมามองด้วยความสงสัย กันต์เก็บโน้ตไว้ในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะนั่งลงใต้เพิงพักริมไซต์งาน กินขนมคำแรก รสชาตินุ่ม หอม หวานน้อย ๆ เหมือนเดิม เหมือนเมื่อวันวาน เขาหลุบตามองกล่องขนมแล้วพึมพำเบา ๆ “อยากรู้จริง ๆ ว่าเด็กคนนี้...จะไม่รู้สึกอะไรเลยกับพี่แล้วจริง ๆ เหรอวะ” เย็นวันนั้น หลังกลับจากทำงาน ขนมก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นตัวโปรด ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่น มือก็ไถอินสตาแกรมในมือถือไปเรื่อย ๆ แต่ทันทีที่เห็นสตอรี่ล่าสุดของพี่กันต์ มือบางก็หยุดกดทันที โพสต์ของเขามีเพียง ‘กล่องขนมเปียกปูน’ วางอยู่บนโต๊ะไม้ พร้อมแคปชันเรียบง่าย 🖤 “ของโปรดจากใครบางคน :) ” ขนมหลุดยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบยกมือถือขึ้นปิดหน้าเพราะรู้สึกได้ว่าหน้าร้อนผ่าวไปหมด หัวใจเต้นเร็วเหมือนจะทะลุอก ทั้งเขิน ทั้งหวั่นไหว และแอบมีความสุขเล็ก ๆ ที่บอกใครไม่ได้ “ใครแอบเขินอยู่ตรงนี้เอ่ย~” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ทำเอาขนมสะดุ้งเฮือก หมับ! มือของมิวโผล่มาจับหน่มน้มของขนมเต็ม ๆ แบบไม่ให้ตั้งตัว “ย๊าาา!!! ยัยบ้า!” ขนมร้องเสียงหลง พยายามดันเพื่อนออกอย่างตกใจ แก้มแดงแจ๋ทันที มิวหัวเราะร่าอย่างสะใจ พร้อมพูดแซวเสียงดัง “หน้าแดงยิ่งกว่าตูดลิงอีกนะคะ เพื่อนขา~” “ยัยมิว!! เดี๋ยวเหอะ!!” “อะไรจ๊ะ~ ก็เห็นคนยิ้มหวาน ตางี้ล่องลอย มองสตอรี่ผู้ชายแล้วหน้าแดง มันน่าแกล้งมั้ยล่ะ!” มิวแกล้งทำหน้าตายียวนใส่ ก่อนจะหันไปคว้ามือถือของขนมมาดู “โห...ลงสตอรี่แบบนี้ จิ้นแรงมากค่ะ คุณเพื่อน!” “น้องส่งขนมให้ พี่โพสต์ตอบ ชัดเว่อร์” “ชัดบ้าอะไร! คนส่งอาจเป็นใครก็ได้ปะ!” ขนมพยายามแก้ตัว น้ำเสียงติดตื่น ๆ แต่รอยยิ้มมุมปากกลับซ่อนไม่มิด มิวหรี่ตามองอย่างรู้ทัน “อย่าให้รู้นะว่าแกเริ่มใจอ่อน ฉันจะเอาคลิปที่แกเขินลงต๊อกแต๊กแน่ ๆ” “ยัยบ้า! อย่านะ!!” ขนมหยิบหมอนเขวี้ยงใส่เพื่อนเสียงหลง มิวหัวเราะลั่นห้องพลางวิ่งหนีแบบสะใจ และเมื่อทั้งสองหยุดวิ่งเล่นไล่จับ ก็พากันทิ้งตัวนอนหอบอยู่บนโซฟา สายตาของขนมก็เผลอมองไปที่จอมือถืออีกครั้ง ภาพกล่องขนมเปียกปูนกับแคปชั่นเรียบ ยังโพสอยู่แบบนั้น หัวใจเธอเต้นตึกตักอยู่ในอก แม้จะทำเป็นปฏิเสธทุกอย่าง แต่มือเธอกลับยกขึ้นแตะแก้มตัวเองเบา ๆ ก็เขาเป็นคนเดียวในโลก ที่รู้ว่าเธอชอบกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แล้วเขาก็ยังเป็นคนเดียว ที่เธอรู้ว่า ชอบขนมเปียกปูนที่สุดในโลกเหมือนกัน ขนมหยิบหมอนขึ้นมากอดไว้แน่น ๆ ดวงตากลมโตเป็นประกายแพรวพราวระยับ เธอยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ‘ระวังตัวให้ดีนะคะพี่กันต์...หนูไม่ใช่แค่เด็กข้างบ้านอีกต่อไปแล้ว’ ‘คราวนี้...ที่หนูกลับมา หนูจะทำให้พี่หลงหนูจนโงหัวไม่ขึ้นเลยคอยดู’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD