ตอนที่ 15
“คาสิโนนี้จะถูกสร้างบริเวณชายแดนระหว่างประเทศ กำไรทุกอย่างจะถูกแบ่งอย่างเท่าๆกัน เราแทบไม่ต้องเสียภาษี หรือค่าบำรุงอะไรทั้งนั้น เห็นๆกันอยู่ว่ากำไรร้อยเปอร์เซ็นต์” ฮ็อบส์พูดถึงธุรกิจที่ต้องการสร้างร่วมกับบุคคลที่เชิญมายังงานที่ไม่มีชื่อเรียกนี้ บุคคลเกือบยี่สิบคนในห้องต่างศึกษารายละเอียดกันอย่างขะมักเขม้น มอร์แกน ไททันและคลอเรน นั่งกันคนละมุมห้อง พวกเขาต้องการดูว่ามีใครบ้างที่จะร่วมมือกับฮ็อบส์ เพราะธุรกิจที่ฮ็อบส์พึ่งพูดถึงนั้น เป็นคาสิโนเถื่อนที่มีตำรวจและมีผู้ทรงอิทธิพลมากมายคอยหนุนหลังให้
“ผมต้องการสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ หากเรามีสมาชิกมากพอ ผมรับรองว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรเราได้ทั้งนั้น” มอร์แกนเริ่มคิดหนัก หากเขาไม่เข้าร่วมนั่นแสดงว่าเขาประกาศการเป็นศัตรูกับฮ็อบส์ แต่นั่นไม่ทำให้เขาเครียดเท่าเรื่องอันนา
“ผมให้เวลาทุกๆคนได้ตัดสินใจ งานนี้เป็นงานใหญ่ ผมหวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันนะครับ และคืนนี้ผมจัดปาร์ตี้ให้กับทุกๆคน เชิญมาสนุกกันให้เต็มที่ เพื่อชับชนะที่ยิ่งใหญ่ของเรา” เสียงปรบมือดังขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกไม่มีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ ฮ็อบส์เดินตรงมาหาเขาทันทีหลังจากลงเวที
“มอร์แกนช่วยพาหนูอันนามางานนี้ด้วยสิ” เขาไม่สบอารมณ์นัก ถึงแม้ฮ็อบส์จะเป็นผู้อาวุโสในวงการธุรกิจก็ตาม
“ไม่จำเป็นหรอกมั้งครับ เธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานนี้”
“จำเป็นสิ ไหนๆก็พามาแล้ว แค่มาร่วมงานปาร์ตี้เอง คงไม่ยากเกินไปหรอกนะ” ฮ็อบส์กำลังขู่เขาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย เขารับรู้ได้ว่าฮ็อบส์เองก็ไม่พอใจที่เขาปฏิเสธแบบนั้น
“ถ้าไม่มีอะไรปิดบังกัน หวังว่าฉันจะได้เห็นหญิงสาวคนนั้นนะ” ฮ็อบส์ตบบ่าเขาเบาๆก่อนจะเดินไปที่อื่น คลอเรนและไททันเดินเข้ามาหาเขาก่อนจะสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“มีอะไร” คลอเรนถามขึ้น
“ป่าว” เขาตอบปัดๆ
“งานนี้คงไม่ง่ายเท่าไหร่ มีคนคิดจะร่วมเครือข่ายนี้เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์” ไททันเอ่ยขึ้น ทำเอาเพื่อนทั้ง สองไปต่อไม่เป็น
“ตอนนี้ยังมีเวลาคิด แต่ฉันยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่ยอมให้ฮ็อบส์ยืมมือฉันสร้างธุรกิจผิดกฎหมายนี่แน่” มอร์แกนยังยืนคำพูดเดิม
“สิ่งที่เราต้องคิด คือจะรับมือฮ็อบส์ยังไง หลังเราปฏิเสธเขาต่างหาก” ไททันพูดพลางมองหน้าผู้ร่วมวงสนทนา
“ถึงธุรกิจเราจะไม่ต้องพึ่งฮ็อบส์ แต่เขาก็สามารถทำลายเราได้โดยไม่ต้องพึ่งใครเหมือนกัน” คลอเรนพูดพร้อมทำหน้าเซ็ง
“คงต้องหาข้อมูลเพิ่มอีกเยอะเลยล่ะ ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำลายสิ่งที่ฉันสร้างง่ายๆหรอก” มอร์แกนพูดขึ้น
“ดูเหมือนตอนนี้เราจะถูกจับตามองอยู่ด้วย” ไททันพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไป คลอเรนหันไปหยิบไวท์ก่อนกระดกจนหมดแก้วแล้วเดินออกไปอีกคน มอร์แกนเดินกลับมายังห้องพัก ตลอดทางเดินเขาคิดไม่ตกว่าจะจัดการปัญหาอย่างไร ดูเหมือนทางไหนก็จะเจอกับอุปสรรคทั้งสิ้น เขารู้จักฮ็อบส์มาตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่ฮ็อบส์กำลังทำนั้นไม่ถูกต้อง เขาไม่จำเป็นต้องเห็นดีเห็นงามด้วย และตอนนี้ฮ็อบส์คงจะจำอันนาได้ว่าเขาคือลูกสาวของโรมัน ถ้าฮ็อบส์จะมายุ่งกับอันนา เขาก็คงยอมไม่ได้เช่นกัน
มอร์แกนเปิดประตูเข้ามาก็เห็นร่างเล็กยืนอยู่ริมระเบียง เธอกำลังทอดสายตามองไปยังชายหาด ท้องฟ้าข้างนอกมืดครึ้มราวฟ้าจะถล่มลงมา
“เวลาท้องฟ้าไม่สดใส ทะเลก็ดูหน้ากลัวขึ้นมาเลยนะคะ” เธอพูดเมื่อชายหนุ่มมายืนอยู่ข้างๆ
“จะให้ท้องฟ้าสดใสอยู่ตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ”
“ทำได้สิคะ แค่หลับตาแล้วลองนึกดู” เขามองหน้าหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้ม
“เวลาฉันไม่สบายใจ ฉันก็จะหลับตาแล้วนึกแต่สิ่งดีๆ ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นนะคะ” ดวงตากลมโตมองมายังชายหนุ่ม เขามองหน้าหญิงสาวอยู่เนิ่นนาน เขาไม่อยากให้รอยยิ้มบนใบหน้าเธอหายไปเลย
“มีอะไรรึป่าวคะ”
“ฮ็อบส์ให้ฉันพาเธอไปงานปาร์ตี้คืนนี้” อันนาดูแปลกใจเล็กน้อย
“ฉันหรอคะ” มอร์แกนพยักหน้าให้
“ถ้าเธอไม่อยากไป ฉันก็จะไม่ให้เธอไป”
“ฉันควรไปไหมคะ” เธอทำหน้าฉงน มอร์แกนนิ่งเงียบไปจนเธอเองเริ่มไม่สบายใจ
“ฉันไม่อยากไปค่ะ” เธอตอบออกไปเพื่อเป็นการตัดปัญหา ถ้าเธอไปอาจจะสร้างปัญหาให้เขาเปล่าๆ ถ้าฮ็อบส์จำได้ว่าเธอคือลูกสาวของโรมัน แล้วจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ เธอเองก็สงสัยเหมือนกัน เพราะที่เธอจำได้ ฮ็อบส์เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ หรือไม่ใช่กันแน่นะ เธอเองเริ่มลังเลใจ เพราะมอร์แกนดูไม่อยากให้เธอไปเจอเขาสักเท่าไหร่ ไหนจะท่าทีของฮ็อบส์ที่มีต่อเธออีก
“ไปเถอะ แต่ต้องอยู่ข้างฉันตลอดเวลาเข้าใจไหม” อันนาพยักหน้ารับ ท่าทีของมอร์แกนดูเป็นกังวลเล็กน้อย ทำให้เธออดห่วงไม่ได้
“ฉันจะอยู่ข้างๆคุณ ไม่ไปไหนแน่นอนค่ะ” เธอชูสามนิ้วเป็นการสาบาน ชายหนุ่มลูบหัวเธอเบาๆก่อนจะกอดเธอเอาไว้
“อ้อ ฉันมีเรื่องจะถามคุณมานานแล้วค่ะ”
“ว่ามาสิ”
“คุณรู้จักคุณฮ็อบส์ แถมรู้จักคนในวงการธุรกิจมากมาย คุณเคยรู้จักพ่อฉันไหมคะ” ชายหนุ่มคลายกอดจากหญิงสาว เขาจะตอบเธอย่างไรดี ถ้าหากบอกว่ารู้จัก เธอคงจะถามเขาต่ออีกแน่ๆ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะต้องรับรู้อะไรมากนัก เพราะยิ่งรู้มากเธอก็จะตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น ยิ่งเรื่องการล้มละลายของที่บ้านเธอนั้น ยังเป็นที่สงสัย ไหนจะการตายของพ่อเธออีก เขาคงยังให้เธอรู้เรื่องทุกอย่างตอนนี้ไม่ได้
“ไม่” เขาตอบออกไปสั้นๆ
“นั่นสิคะ พ่อเสียไปตั้งนานแล้วด้วย ฉันนี่ถามอะไรโง่ๆ” เขากอดร่างเล็กเอาไว้อีกครั้ง เขาหลับตาเอาคางเกยไหล่หญิงสาวเบาๆ
“ถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่ ฉันจะบอกความจริงทุกอย่างแกเธอนะ อันนา” ชายหนุ่มนึกในใจ
งานปาร์ตี้จัดขึ้นในแบบฉบับของผู้ใหญ่ มันเรียบง่าย มีเสียงเพลงคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศ มอร์แกนควงร่างเล็กเดินเข้ามาภายในงาน หญิงสาวเขินอายเล็กน้อย แต่คนไม่มากนักทำให้เธอเบาใจไปหน่อย แต่เมื่อเห็นคลอเรนและไททันเดินเข้ามาในงาน เธอก็แทบจะมุดโต๊ะหนีทันที และตอนนี้สองคนนั้นกำลังเดินเข้ามาหาเขาทั้งสองคน คลอเรนมองเธอแล้วยิ้มร่า ส่วนไททันแทบไม่สบตาเธอเลยด้วยซ้ำ
“ไม่นึกว่าแกจะพาสาวสวยคนนี้มางานด้วย” คลอเรนพูดขึ้น ทำเอาเธอใจหล่นไปตาตุ่ม มอร์แกนไม่เคยรู้เลยว่าเธอกับคลอเรนเคยพบกันมาก่อน
“แกเคยเจออันนามาก่อนรึไง” มอร์แกนว่าพลางส่งสายตาดุดันมายังเธอ
“อันนาหรอ” คลอเรนทวนชื่อหญิงสาว คิ้วของเขาเริ่มผูกเป็นปม
“นี่เธอเคยเจอมันมาก่อนหรอ” เขาหันมาเค้นคำตอบจากเธอ หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ เธอกลัวว่ามอร์แกนจะดุเธอเอาอีก
“เธอบอกว่าชื่อแองจี้ด้วยล่ะ” คลอเรนฟ้อง
“พอเถอะน่า” ไททันปราม
“แองจี้อีกแล้วหรออันนา” เธอทำหน้าหงอเล็กน้อย เหมือนว่าตอนนี้เธอจะโดนจับได้ทุกทางเสียแล้ว
“ฉันมีเหตุผลนะคะ”
“ถ้าฟังไม่ขึ้นเธอโดนแน่” ชายหนุ่มดุเธอเบาๆ เขาจับอันนาให้อยู่ห่างคลอเรนและไททันในทันที ศึกภายในเริ่มสงบลง เมื่อศึกใหญ่กำลังจะมาถึง ฮ็อบส์เดินตรงเข้าหาพวกเขา ในมือถือแก้วไวท์ รอยยิ้มของเขาส่งมายังเบื้องหน้า
“ดีใจที่ได้เจอเธอที่นี่อีกนะหนูอันนา” เขาเอ่ยทักอันนาในทันทีที่เดินมาถึง ทำเอาคลอเรนและไททันประหลาดใจไม่น้อย
“ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ มอร์แกนจับมือเธอเอาไว้แน่น
“ไม่ต้องเกร็งนะ คุยกับฉันสบายๆได้เลย” ฮ็อบส์เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นร่างเล็กดูท่าทางไม่ค่อยดีนัก
“ไม่ยักกะรู้เลยนะครับว่าคุณเองจะรู้จักหญิงสาวคนนี้” คลอเรนว่า พลางมองทั้งสองคนสลับไปมา
“ฉันรู้สึกว่าเธอเหมือนใครบางคนที่ฉันรู้จัก เลยอยากทำความรู้จักเอาไว้ เผื่อในวันข้างหน้า เธออาจจะเป็นคนสำคัญขึ้นมาก็ได้” อันนามองไปที่ฮ็อบส์ คำพูดของเขาดูเหมือนมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง
“เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แค่นั้นเอง” มอร์แกนเอ่ยเสียงเรียบ
“คงไม่ธรรมดาแล้วล่ะมั้ง” ฮ็อบส์ตอบกลับ สายตาของทั้งสองมองกันราวเสือที่เจอศัตรูตัวฉกาจ
“ผมว่าเรามาชนแก้วกันหน่อยไหมครับ” คลอเรนพูดทำลายบรรยากาศที่หน้าอึดอัดนี้ เขายกแก้วไวท์ขึ้นเป็นการเชิญชวน
“เอาสิ” แก้วไวท์ทั้งห้าแก้วชนกันเบาๆก่อนจะถูกกระดกเข้าปาก มีเพียงอันนาที่จิบมันเบาๆ
“ไว้เราค่อยคุยกันต่อนะ ขอให้สนุกกับปาร์ตี้ล่ะ” ฮ็อบส์พูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไปจากวงสนทนา
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ” หญิงสาวเดินออกไปโดยไม่รอใครอนุญาต มอร์แกนทำท่าจะเดินตามไปแต่คลอเรนพูดดักเอาไว้
“แกกับฮ็อบส์มีอะไรกันวะ” คลอเรนเปิดคำถามแรกออกไป ไททันและคลอเรนดูจะสงสัยกับคำพูดของฮ็อบส์ เพราะต่างเค้นให้เขาพูดออกมา
“ดูเหมือนจะเกี่ยวกับอันนาด้วยนะ” ไททันเปิดคำถามตาม
“ห้ามยุ่งกับเธอเด็ดขาด”
“ก็ได้” คลอเรนยักไหล่ให้มอร์แกนก่อนเดินออกไปบ้าง
“ฉันรู้ว่าอันนาคือลูกสาวของโรมันกับไอยรา” ไททันตัดสินใจพูดออกไป มอร์แกนมองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก
“แกมารู้จักกับอันนาได้ยังไง”
“ไอยรากับอนันต์ เคยขโมยของในโรงแรมฉัน ฉันตามไปที่บ้าน เลยได้เจอกับอันนา ฉันเลยให้เธอไปงานคลาวไนท์กับฉัน วันนั้นทำให้เธอเจอฮ็อบส์ แต่เธอบอกเขาว่าเธอชื่อแองจี้ แต่วันนี้ฮ็อบส์เรียกเธอว่าอันนา คงมีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกสินะ” ไททันพูดออกไป อย่างน้อยก็ช่วยให้มอร์แกนเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้มากขึ้น
“ฉันกำลังสงสัยเรื่องการล้มละลายของบริษัท RM Group และการตายของโรมัน พ่อของอันนา”
“อย่าบอกนะว่าแกสงสัยฮ็อบส์”
“ใช่” ไททันแสดงสีหน้านิ่งเมื่อได้รับคำตอบจากมอร์แกน
“อันนารู้เรื่องนี้รึป่าว”
“ไม่” เขาตอบออกไป
“ตอนนี้ฉันกำลังสืบเรื่องนี้อยู่ และฉันไม่อยากให้อันนารู้เรื่องนี้”
“ทำไม”
“ถ้าอันนารู้ว่าที่บริษัทล้มละลายไม่ใช่เพราะการบริหารของพ่อเธอ แต่เป็นเพราะมีคนอยู่เบื้องหลัง เธอคงไม่อยู่เฉยแน่ และถ้ารู้ว่าการตายของพ่อเธอเป็นฝีมือของใครบางคนที่พ่อเธอไว้ใจ เธอก็คงไม่อยู่เฉยเหมือนกัน”
“สักวันเธอก็ต้องรู้”
“แกห้ามบอกอันนาเด็ดขาด ถือว่าฉันขอ อย่างน้อยก็เห็นแก่อดีตเพื่อนรัก” แม้เขายังคงโกรธแค้นไททันอยู่ แต่จะปล่อยให้เรื่องนี้หลุดออกไปไม่ได้
“ฉันจะไม่บอกใคร ไม่ใช่เพราะเห็นแก่อดีตเพื่อนอย่างแก แต่เป็นเพราะอันนาต่างหาก” ไททันยักคิ้วให้เขาก่อนจะเดินออกไป เขาอยากจะชกหมัดหนักๆลงใบหน้ากวนประสาทนั่นซะจริงๆ
ร่างเล็กยืนส่องกระจกอยู่สักพัก คำพูดของฮ็อบส์ทำเอาเธอคิดหนักอยู่เหมือนกัน เธอส่ายหัวสบัดความคิด ป่านนี้มอร์แกนคงรอเธออยู่ เพราะเธอก็หายมาสักพักใหญ่ๆแล้ว หญิงสาวเดินออกมาก่อนจะเจอฮ็อบส์ที่ยืนรออยู่ด้านหน้า
“ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ หวังว่าหนูจะไม่รังเกียจนะ” อันนาดูหนักใจเล็กน้อย แต่เธอเองจะปฏิเสธก็คงไม่ได้
“ไม่รังเกียจหรอกค่ะ”
“ไปคุยทางด้านโน่นได้ไหม คุยตรงนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่” เธอเดินตามเขาไป ก่อนจะมาหยุดที่สวนดอกไม้บริเวณข้างโรงแรม
“ฉันเห็นเธอแล้วรู้สึกคิดถึงใครบางคนจริงๆนะ”
“คุณหมายถึงใครคะ”
“ดวงตาเธอ เหมือนพ่อเธอไม่มีผิด” หญิงสาวตกใจเล็กน้อย เขาจำเธอได้จริงๆด้วย
“คุณ...จำหนูได้หรอคะ”
“ตั้งแต่โรมันจากไป ฉันได้ข่าวว่าไอยราติดการพนันอย่างหนัก เธอเองคงลำบากมากสินะ” เขามองมายังหญิงสาว เธอแสดงความกังวลให้เขาเห็นอย่างชัดเจน
“คุณต้องการอะไรคะ”
“ตอนนี้เธอทำงานอะไร พักอยู่ที่ไหนกันล่ะ”
“ฉันถามว่าคุณต้องการอะไร” เธอไม่อยากเสียเวลามากกว่านี้แล้ว ฮ็อบส์เองดูเปลี่ยนไปมาก สายตาที่เคยอบอุ่นของเขาในตอนนั้น บัดนี้มันแข็งกร้าวดูหน้ากลัว
“เธอมันดื้อเหมือนพ่อเธอไม่มีผิด”
“คุณกำลังจะสื่ออะไรกันแน่คะ”
“ฉันแค่อยากจะช่วยเธอ ช่วยแม่เธอ ก็แค่นั้นเอง” เขาพูดออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ แต่ฉันกับแม่ เราดูแลตัวเองได้”
“ดูแลตัวเองได้งั้นหรอ เฮอะ เอาเถอะ วันนี้เธออาจจะยังเด็กเกินไป แต่วันข้างหน้ามันอาจจะไม่เป็นเหมือนตอนนี้ ฉันยังเป็นฮ็อบส์คนเดิม ฉันยังจำวันที่เธอบอกกับฉันได้ ว่าเธออยากเก่งเหมือนพ่อ เอาเป็นว่า ฉันรอดูวันนั้นอยู่นะ..อันนา” หญิงสาวมองชายตรงหน้า เธอเดาไม่ออกเลยว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ดูท่าทางจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
“คุณ...”
“ฉันเป็นห่วงเธอนะ”
“ผมดูแลเธอได้ครับไม่ต้องเป็นห่วง” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้น มอร์แกนเดินเข้ามาหาเธอก่อนจะโอบไหล่เธอเอาไว้
“ความรักของหนุ่มสาว ช่างน่าประทับใจจริงๆนะ” เขาส่งยิ้มให้ทั้งสองคน
“กลับกันเถอะค่ะ” เธอบอกมอร์แกน ขืนอยู่ต่อคงมีเรื่องแน่ๆ
“งานปาร์ตี้สนุกมากครับ ผมชอบมาก ไว้คราวหน้าคงได้มาอีกนะครับ” สิ้นเสียง เขาจับมือหญิงสาวเดินออกจากตรงนั้น ทั้งคู่เดินกลับมายังห้องพักทันที
“เกิดอะไรขึ้น” เขาจับหญิงสาวให้เผชิญหน้าตรงๆก่อนจะถามโพล่งออกไป
“เขาแค่มาถามอะไรฉันนิดหน่อยค่ะ” เธอไม่อยากบอกความจริงแก่เขาสักเท่าไหร่ แค่นี้ก็เกิดเรื่องมากพอแล้ว
“อันนา เธอไว้ใจฉันได้ ฮ็อบส์พูดอะไรกับเธอ” เขาถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“....”
“อันนา”
“เขาแค่ถามว่าฉันทำงานอะไร พักอยู่ที่ไหน แค่นั้นเองค่ะ”
“เธอแน่ใจนะ” หญิงสาวพยักหน้าให้เขา มอร์แกนดูจะไม่เชื่อเท่าไหร่
“จริงๆค่ะ เราคุยกันได้แปปเดียว คุณก็โผล่มาเลย”
“ถ้ามีอะไรเธอต้องรีบบอกฉัน เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ” เธอส่งยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ” หญิงสาวปลีกตัวออกมา ชายหนุ่มมองร่างเล็กแล้วอดห่วงไม่ได้ เธอคงไม่รู้ตัวสินะว่าตัวเองโกหกไม่เก่ง ฮ็อบส์คงไม่หยุดแค่นี้แน่ และถ้าอันนายังไม่ยอมบอกความจริงกับเขาแบบนี้ เธอเองจะยิ่งตกอยู่ในอันตราย ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับเธอ เขาคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่