@มหาวิทยาลัยXXX
“ฟ้า! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!” เสียงตวาดดังลั่นของชายหนุุ่มดังขึ้นเรียกเสียงฮือฮาและสายตานับสิบคู่ที่อยู่บริเวณนั้นให้หันมามอง “ฟ้ามีคนใหม่ใช่ไหม! บอกไม้มาสิว่ามันเป็นใคร” มือใหญ่เขย่าต้นแขนเล็กของแฟนสาวแรง ๆ ด้วยความโมโหเมื่อได้ยินข่าวลือบางอย่างมา
“เจ็บนะ! ฟ้าเจ็บ!” เพียะ! ใบหน้าคมคายหันไปตามแรงตบเมื่อแฟนสาวสะบัดตัวออกจากมือใหญ่แล้วตวัดมือเรียวเข้าหาแก้มสากแรง ๆ “ไม้จะตะโกนทำไม อยากให้คนในมหาลัยรู้หรือไงว่าเรามีปัญหากัน” ริมฝีปากบางเอ่ยออกมาก่อนจะกระตุกท่อนแขนใหญ่ให้เดินไปคุยกันในมุมที่ไม่มีใครมองเห็น
“คนอื่นรู้แล้วมันยังไง ตั้งแต่มาเรียนที่นี่นอกจากไม้กับฟ้าแล้วมีใครอีกไหมที่รู้ว่าเราเป็นแฟนกะอุ๊บ!” มือเรียวปิดปากชายหนุ่มไว้แน่นเมื่อเขาพูดถึงสถานะที่รู้กันแค่สองคน “ทำไม? เป็นดาวคณะแล้วมีแฟนมันผิดตรงไหน” ชายหนุ่มเอ่ยต่อเมื่อปัดมือแฟนสาวออก
ไม้กับฟ้าทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่มัธยมปลายและสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันหากแต่เรียนกันคนละคณะ ด้วยว่าความสวยของแฟนสาวทำให้ผู้คนมากมายสนใจเธอและนั่นก็ทำให้เธอได้เป็นดาวคณะ แต่พอมีคนสนใจมากขึ้นสาวน้อยปีหนึ่งที่เพิ่งเคยมีผู้คนมากมายมาให้ความสำคัญและติดตามเป็นแฟนคลับราวกับเธอเป็นคนดังก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเธอกับไม้ถูกเปิดเผยออกไป ด้วยว่าไม้เป็นแค่คนธรรมดาที่แทบจะไม่มีใครรู้จักและไม่เป็นที่สนใจของใคร ไหนจะคณะที่เรียนก็ไม่ใช่คณะยอดฮิตของหนุ่มสาวในมหา’ลัยแต่เป็นคณะเกี่ยวกับโบราณคดี ดูรวม ๆ แล้วไม้ไม่มีอะไรคู่ควรกับดาวเด่นอย่างเธอ สาวน้อยที่เพิ่งจะดังคิดอย่างนั้น
“บอกทุกคนว่าตัวเองโสด บอกทุกคนว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วลบรูปคู่ออกจนหมด แล้วตอนนี้ยังทำเหมือนเราไม่รู้จักกันอีก ชวนไปไหนก็ไม่อยากไป มันไม่ใช่แค่ตำแหน่งดาวคณะกลัวแฟนคลับจะหายอย่างเดียวหรอกใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามแฟนสาวเมื่อคุมสติตัวเองได้
“มีคนทาบทามฟ้าให้ไปเป็นนางแบบ” ประโยคถัดมาของแฟนสาวทำให้ไม้ถึงกับแค่นหัวเราะออกมา “มันเป็นความฝันของฟ้าไม้ก็รู้ แล้วถ้าทุกคนรู้ว่าฟ้ามีแฟนแล้ว แฟนคลับก็ต้องลดลงแล้วใครจะอยากจ้างงานฟ้า”
“เป็นนางแบบแล้วทำไมจะมีแฟนไม่ได้ นางแบบดังตั้งมากมายก็ควงแฟนไปเดตออกข่าวตั้งเยอะแยะ ไม้ก็เห็นว่าเขายังมีงานทำอยู่”
“ไม้ไม่เข้าใจ” แฟนสาวเอ่ยก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่มีคำพูดอะไรมาโต้แย้ง “เราเลิกกันเถอะ” หากแต่ประโยคถัดมาของแฟนสาวก็ทำให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเงียบไป ถึงจะทำใจไว้บ้างแล้วว่าจะต้องจบแบบนี้เพราะตั้งแต่ที่เริ่มเข้ามหา’ลัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป เหมือนไม้พยายามอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอด อีกคนวิ่งตามส่วนอีกคนวิ่งหนีมันเลยไปไม่ถึงกันเสียที
“ฟ้า อยู่ที่นี่เองพี่โทรหาก็ไม่ติด” ทว่าเสียงทุ้มของคนมาใหม่ก็ทำให้สองคนที่ยืนเงียบอยู่ต้องหันไปมองพร้อมกัน คนถูกเรียกชื่อทำหน้าเลิ่กลั่กราวกับกลัวว่าไม้จะพูดอะไรกับอีกฝ่าย
“มีคนใหม่ก็บอกดี ๆ สิ โตแล้วไม้คุยรู้เรื่อง” ชายหนุ่มแค่นยิ้มออกมาก่อนจะเดินหนีออกไปทิ้งให้คนมาใหม่เดินไปหาอดีตแฟนสาวก่อนจะจูงมือกันเดินออกไปอีกทาง
ข่าวลือที่ว่าแฟนสาวของเขากับอดีตเดือนคณะรุ่นพี่กำลังดูใจกันอยู่เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง ยิ่งแฟนคลับของทั้งคู่คอยเชียร์และสนับสนุนให้คบกันเพราะความเหมาะสมทางหน้าตาแล้วคงเป็นเรื่องยากที่ฟ้าจะปฏิเสธ เพราะเธอเองก็กลัวแฟนคลับจะเลิกติดตามเหมือนกัน
* * * * * * * * * *
“ไม้ มึงเดินเข้าบ้านไหวปะเนี่ย” บาสเอ่ยถามเพื่อนรักเมื่อขับรถมาส่งไม้ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ซึ่งไม้เคยบอกเอาไว้
“ไหว ๆ กูไหว” น้ำเสียงหย่อนยานของคนเมาเอ่ยบอกเพื่อนรักที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งหลังจากนั่งฟังเขาปรับทุกข์เรื่องความรักตั้งแต่บ่ายจนถึงมืดค่ำ แถมยังโดดเรียนเป็นเพื่อนเขาอีกเพราะทั้งคู่เรียนคณะเดียวกันเอกเดียวกัน
“มึงแน่ใจนะว่าบอกบ้านกูถูกหลังอะ ไม่ใช่ว่าจำผิดหลังนะมึง”
“เออ ไม่ผิดหรอกหลังนี้แหละ บ้านกูที่มีผีเจ้าที่สวย ๆ อะ มึงอยากเจอปะ” คนเมาพูดกับเพื่อนพลางดันประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ออกไปด้วย
“อย่ามาล้อเล่นนะมึง เกิดได้เมียเป็นผีจริง ๆ คราวนี้มึงไม่มีสิทธิ์เลิกนะ” บาสเอ่ยทีเล่นทีจริง
“ไม่ต้องเลิกกันก็ดีสิวะ จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อเหล้า”
“เออ ๆ ยังไงมีอะไรก็โทรหากูแล้วกัน กูกลับก่อน พรุ่งนี้เรียนบ่ายนะมึงอย่าเสือกไปเช้าล่ะ”
“เค ๆ” สองหนุ่มโบกไม้โบกมือให้กันก่อนจะแยกย้ายกันไป สองขาแกร่งเดินโซซัดโซเซเข้ามาในตัวบ้านที่ตอนนี้มีแสงไฟสว่างจ้าเปิดรออยู่
แกร๊ก!
เสียงบานประตูถูกเปิดออกด้วยมือใหญ่ของใครบางคนทำให้ดวงวิญญาณสาวที่นั่งอยู่โซฟาหน้าทีวีต้องหันไปมอง
“คุณไม้กลับมาช้านัทเลยเปิดไฟรอ แล้วก็เตรียมข้าวไว้รอดะว๊าย!” เสียงหวานของดวงวิญญาณสาวหายไปในท้ายประโยคก่อนจะร้องด้วยความตกใจเมื่อร่างใหญ่เซถลาเข้ามาโผกอดเธอไว้แน่น “คุณไม้… เมาเหรอคะ?” ณัชชาเอ่ยถามผู้เป็นเจ้าของบ้านก่อนจะดันคนตัวใหญ่กว่าออกห่าง ดีที่เขาล้มลงมาตรงโซฟาที่เธอนั่งอยู่เลยไม่ต้องเจ็บตัว
“คุณไม้...” มือเรียวเขย่าแขนคนที่ไม่ได้สติแรง ๆ หากแต่เจ้าของใบหน้าคมคายกลับแน่นิ่ง “ทำไมเมากลับมาแบบนี้ล่ะ ไหนว่าไปเรียนไง...” เสียงหวานพึมพำก่อนจะจัดแจงท่านอนของคนตัวใหญ่กว่าให้เข้าที่เข้าทาง
วันนี้ณัชชาตั้งใจว่าจะพยายามทำความรู้จักกับไม้ เธออยากให้ไม้เชื่อใจเธอและอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยกันอย่างสงบโดยที่เธอเองก็ไม่ต้องคอยระแวงว่าไม้จะทำอันตรายเธอวันไหน เธอเพียงแค่อยากเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันกับน้องชายของผู้เป็นนายหญิงเท่านั้น
“นัทเคยเห็นในละครนางเอกจะเช็ดตัวให้พระเอกเวลาเมา งั้นเดี๋ยวคุณไม้รอนัทก่อนนะนัทจะไปเตรียมของมาเช็ดตัวให้” ณัชชาเอ่ยบอกคนที่นอนอยู่ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าครัวไป “แต่นัทไม่อยากเป็นนางเอกหรอกนะ แค่จะเช็ดตัวให้เฉย ๆ” เสียงหวานพึมพำก่อนจะถือกะละมังใบเล็กกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กติดมือออกมา
“อื้อ~” น้ำเสียงอู้อี้ของคนเมาดังขึ้นเมื่อถูกรบกวนขณะนอนหลับ มือใหญ่ปัดมือเรียวที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกก่อนจะนอนแน่นิ่งไปตามเดิม
“อึ๊บ” คนตัวเล็กออกแรงขยับท่อนแขนแกร่งเมื่อถูกขัดขวางการเช็ดตัว เสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวถูกวางบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ข้างกันนั้นมีเข็มขัดนักศึกษากับถุงเท้าสีดำวางอยู่ด้วยกัน
“ฟ้า~” น้ำเสียงหย่อนยานของคนไม่ได้สติเรียกหาใครบางคน ทำเอาคนที่กำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ฟ้า~ กลับมาหาไม้ก่อน ไม่ต้องให้ใครรู้ว่าเราเป็นแฟนกันก็ได้~ ฟ้า~”
“อ่า… อกหักแน่นอนอาการแบบนี้” ณัชชาพึมพำเมื่อเข้าใจแล้วว่าตอนนี้ไม้เป็นอะไร
ถึงเธอจะไม่เคยมีความรักแต่การอยู่ในโลกวิญญาณมานับพันปี คอยเฝ้ามองดูการเปลี่ยนแปลงของหลายสิ่งหลายอย่างรวมถึงเธอเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงความคิด การกระทำและการวางตัวให้เข้ากับยุคสมัย เธอก็พอจะเข้าใจว่าอาการของไม้ในตอนนี้คืออะไร
“ถ้าย้อนกลับไปสมัยโน้นคุณไม้คงถูกพาไปอาบน้ำมนต์แน่นอน” ณัชชาว่าก่อนจะวางผ้าเช็ดตัวผืนเล็กลงบนกะละมังบนโต๊ะกระจก “เดี๋ยวนัทพาไปนอนในห้องนะ” คนตัวเล็กเอ่ยบอกก่อนจะพยุงร่างใหญ่ให้ลุกนั่ง ริมฝีปากน้อยบริกรรมคาถาพร้อมกับหลับตาลงเพื่อพาคนตัวใหญ่หายตัวเข้าห้องนอนไป
วูบ〜