ฉันเตือนเธอแล้ว

1524 Words
ตุบ! ร่างใหญ่ถูกพยุงมานอนบนเตียงกว้างด้วยฝีมือของดวงวิญญาณสาว มือเรียวดึงท่อนแขนแกร่งของคนที่หลับไหลให้อยู่ในท่าทางที่สบายขึ้นก่อนจะจัดการเปิดเครื่องปรับอากาศภายในห้องให้เรียบร้อย “ฟ้า~” หมับ! เสียงหย่อนยานของคนเมาเรียกหาอดีตแฟนสาว มือใหญ่จับข้อมือเล็กของณัชชาไว้แน่นเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินออกไป “ฟ้า~ กลับมาหาไม้ก่อน~” คนที่นอนอยู่ปรือตาขึ้นมามองร่างอรชรที่เห็นเป็นอดีตแฟนสาว “คุณไม้...” เสียงหวานของร่างเล็กเอ่ยขึ้นขณะทิ้งตัวนั่งลงข้างคนตัวใหญ่กว่า ดวงตาคู่สวยจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นอนอยู่อย่างคิดไม่ตก “นัทไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อฟ้า คุณไม้นอนก่อนเดี๋ยวตื่นขึ้นมาค่อยไปง้อคุณฟ้าก็ได้” ร่างบางเอ่ยบอกก่อนจะบิดข้อมือเรียวออกจากการเกาะกุมของมือใหญ่ “...” ดวงตาคู่สวยจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่หลับอยู่ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ก่อนจะกรีดกรายนิ้วเรียวไปมาตามกรอบหน้าคมคายเบา ๆ “หล่อจัง...” เสียงหวานพึมพำพลางคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมาก่อนจะรีบละมือเรียวออกเมื่อตั้งสติได้ “นี่เราคิดอะไรน่ะ” ศีรษะทุยสะบัดไปมาแรง ๆ ราวกับเรียกสติตัวเองให้กลับมาก่อนจะลุกออกจากเตียงกว้าง ทว่ายังไม่ทันที่สองขาเรียวจะได้ก้าวออกจากห้องนอน สมองสองซีกน้อย ๆ ของดวงวิญญาณสาวก็คิดอะไรออก ตึก ตึก ตึก สองเท้าเดินเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานที่อยู่อีกมุมของห้องก่อนจะสอดส่องสายตาหาอะไรบางอย่าง “อยู่นี่เอง...” ริมฝีปากบางพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองยังเตียงกว้างที่มีร่างใหญ่นอนแน่นิ่งอยู่ แล้วหันกลับมามองกระเป๋าสีดำที่วางอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ “ถึงจะคุยกันแล้วแต่นัทก็ไม่ไว้ใจคุณไม้อยู่ดี” ริมฝีปากบางพึมพำ “ต้องกำจัดของในกระเป๋านี้ให้ได้ เราจะได้สบายใจว่าคุณไม้จะไม่ทำร้ายเรา” ดวงวิญญาณสาวว่าก่อนจะเอื้อมมือไปแตะกระเป๋าสีดำที่วางอยู่ “อ๊ะ!” ทว่าเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสกับกระเป๋าสีดำตรงหน้ามือเรียวสวยก็ชักกลับอย่างรวดเร็ว “ระร้อนจังเลย...” “ขึ้นชื่อว่าผีนี่ก็ต้องหลอกเก่งสินะ” “คุณไม้!” ดวงวิญญาณสาวร้องเสียงหลงขณะหันไปสบตากับเรือนร่างกำยำที่ยืนกอดอกอยู่ไม่ห่างจากเธอนัก ดวงตาคมกริบของหมอผีหนุ่มจ้องมองดวงวิญญาณสาวด้วยแววตาเรียบเฉย ท่าทางของไม้ตอนนี้ต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง “คุ...คุณไม้ไม่ได้เมาหรอกเหรอคะ” “เป็นผีแล้วหลอกคนสนุกไหม เมื่อกี้ฉันลองหลอกผีดูก็สนุกดีนะ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ดวงวิญญาณสาว ร่างบางมองคนตรงหน้าด้วยแววตาหวาดกลัวก่อนจะถอยกรูไปด้านหลังเมื่อสองขาแกร่งเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้ “นะนัทไม่ได้หลอกอะไรคุณไม้นะคะ...” เรียวปากบางเอ่ยหากแต่ดวงตานั้นจ้องมองไปยังบานประตูห้องที่ปิดสนิทอยู่ “จะวิ่งหนีฉันไปมันไม่ง่ายนะ เธอก็รู้นี่” คนที่เดินเข้ามาใกล้เอ่ย แววตาเรียบเฉยนั้นจ้องมองดวงหน้าน้อยของดวงวิญญาณสาวอย่างไม่ละสายตา “เธอจะทำอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถาม “นัท… นัทเปล่านะคะ” ปึก! “อ๊ะ” ร่างบางตอบกลับก่อนจะสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจเมื่อแผ่นหลังชนกับเก้าอี้ที่มีกระเป๋าสีดำวางอยู่ ด้วยอำนาจของสิ่งของที่อยู่ด้านในทำเอากายหยาบของดวงวิญญาณสาวถึงกับร้อนผ่าวราวกับถูกไฟเผาเมื่อเธอเข้าใกล้มัน “จะเอาชีวิตพี่สาวฉันไปทำไม? ตัวตายตัวแทน?” คิ้วเข้มของคนตัวสูงเลิกขึ้นขณะเอ่ยถามก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ดวงวิญญาณสาวและกักขังคนตรงหน้าไว้ด้วยสองแขนแกร่ง “นัทไม่เคยคิดทำร้ายคุณมัดหมี่นะคะ” เรียวปากบางเอ่ยบอกหากแต่ไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้า ด้วยว่าใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมานั้นอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบ หากเงยหน้าขึ้นไปตอนนี้คงไม่ดีแน่ “เวลามีคนโกหกเธอรู้ไหมว่าคนคนนั้นจะไม่กล้าสบตากับคนที่ตัวเองกำลังโกหกอยู่ ผีอย่างเธอก็เป็นเหมือนกันเหรอ” “ตะแต่นัทไม่ได้โกหกนะ!” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพลางเงยหน้าไปมองคนตัวใหญ่กว่า วินาทีนั้นเองที่ปลายจมูกโด่งคมสัมผัสกับปลายจมูกเรียวของดวงวิญญาณสาว ทำเอาใบหน้าขาวเนียนของคนตัวเล็กกว่าถึงกับเห่อร้อนขึ้นมาจนต้องรีบเบือนหนีไปทางอื่น “เลิกยุ่งกับพี่สาวฉันแล้วไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ” เสียงเรียบของหมอผีหนุ่มเอ่ย “อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอยังวนเวียนอยู่ที่นี่อีก ไม่งั้นฉันจะจับเธอขังไว้ในหม้อแล้วทรมานเล่น” “นัทไม่เคยคิดไม่ดีกับคุณมัดหมี่นะ นัทไม่เคยคิดจะเอาชีวิตคุณมัดหมี่แล้วนัทก็จะไม่ออกไปจากที่นี่ด้วย!” “พวกผู้หญิงนี่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือผีก็โกหกเก่งเหมือนกันสินะ” ร่างใหญ่เอ่ยขึ้น “แต่ตอนนี้ฉันไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว!” พลันนั้นเสียงตวาดของหมอผีหนุ่มก็ดังก้องห้องทำเอาหัวใจดวงน้อยของคนฟังถึงกับสั่นไหว นอกจากท่านปู่แล้วณัชชาก็ไม่เคยเกรงกลัวน้ำเสียงของใครอีกเลยกระทั่งมาเจอเขา… “คุณไม้อย่าเอานัทไปเปรียบเทียบกับคุณฟ้าสิ นัทกับคุณฟ้าไม่เหมือนกันสักหน่อย ถูกคนนึงทำร้ายมาก็อย่าคิดว่าทุกคนจะทำร้ายตัวเองสิ” ดวงวิญญาณสาวเอ่ยพลางจ้องมองดวงตาดำขลับกลับแม้ว่าจะหวาดกลัวเขาก็ตาม “ผีอย่างเธอจะรู้อะไร” “คนอย่างคุณไม้นั่นแหละที่ไม่รู้อะไร นัทอยู่มาตั้งพันปีทำไมแค่นี้จะมองไม่ออกว่าคุณไม้กำลังมีปัญหากันคุณฟะ.. / อย่าเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนั้นให้ฉันได้ยินอีก!” เสียงทุ้มเอ่ยแทรกทันควันทำเอาเรียวปากบางต้องหุบลง “ออกไปจากบ้านฉันซะ” “นัทไม่ไป! นัทไม่ได้ทำอะไรผิด!” “ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วจะมายุ่งกับของของฉันทำไม” “เพราะนัทไม่ไว้ใจคุณไม้ต่างหากล่ะ ถ้าวันนึงคุณไม้ทำร้ายนัทขึ้นมาจะทำยังไง” “ถ้าเธอไม่คิดร้ายกับพี่สาวฉันเธอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร ของพวกนี้ฉันลงอาคมไว้ให้มีผลต่อคนที่เคยคิดร้ายต่อพี่สาวฉัน” ดวงตาคมกริบของหมอผีหนุ่มจ้องมองใบหน้าซีดเผือดของดวงวิญญาณสาวทำเอาคนถูกมองถึงกับสั่นระริก “มะหมายความว่ายังไงคะ” “เธอบอกว่าไม่เคยคิดร้ายกับพี่สาวฉัน ถ้ามันเป็นความจริงตามที่เธอว่าเธอจะแตะต้องของพวกนี้ได้ไม่ว่าเธอจะเป็นคนหรือผีก็ตาม แต่ทำไมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่เธอพยายามแตะต้องมัน เธอถึงแตะมันไม่ได้สักทีล่ะ… คิดว่าไง?” ประโยคถัดมาของหมอผีหนุ่มทำเอาดวงวิญญาณสาวถึงกับสั่นระริก ณัชชาไม่เคยคิดทำร้ายมัดหมี่นั่นคือเรื่องจริง แต่ในโลกวิญญาณเธอก็โกหกไม่ได้เหมือนกันว่าครั้งหนึ่งเคยคิดจะหลอกมัดหมี่เพื่อให้เธอย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ตามคำสั่งของท่านปู่ ไม่คิดมาก่อนว่าแค่เรื่องนั้นเรื่องเดียวจะทำให้เธอแตะต้องของในกระเป๋านี้ไม่ได้ “นัทแค่...” “จะโกหกอะไรอีก” มุมปากหนาแค่นยิ้มออกมา เขาเคยลังเลเรื่องนี้เลยปล่อยณัชชาไปเพราะคิดว่าอาคมของเขาอาจทำงานผิดพลาด แต่มาวันนี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าณัชชาคือวิญญาณร้ายที่จะตามเอาชีวิตของพี่สาวเขา “กล้าสาบานไหมว่าเธอไม่เคยคิดร้ายกับพี่สาวฉัน” “...” ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันแน่นเมื่อไม้เอ่ยประโยคนั้นออกมา หากวิญญาณอย่างเธอสาบานไปแล้วคงต้องแดกดับเป็นแน่ เพราะครั้งนึงเธอกับเพื่อนเคยคิดจะหลอกมัดหมี่ให้กลัวเหมือนผู้อาศัยคนอื่น หมับ! “คุณไม้!” เป็นอีกครั้งที่ดวงวิญญาณสาวร้องเสียงหลง วงแขนแกร่งที่กักขังเธอไว้ตวัดร่างเธอให้ขึ้นมานั่งบนโต๊ะทำงาน ก่อนที่ร่างใหญ่จะเข้ามายืนแทรกกลางหว่างขาแล้วโน้มตัวลงมากักขังเธอไว้ด้วยสองแขนแกร่งตามเดิม “จะ จะทำอะไรคะ” “กลัว?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD