“กลัว?” เสียงทุ้มเอ่ยถามหากแต่ริมฝีปากหนาแค่นยิ้มออกมา “ฉันไม่พิศวาสผีอย่างเธอหรอกถ้ากำลังคิดอะไรบ้า ๆ อยู่ก็เลิกคิดซะ” เพราะท่วงท่าของเขาและเธอในตอนนี้ทำให้ดวงวิญญาณสาวอดคิดอะไรแปลก ๆ ไม่ได้
“ไม่ได้คิดก็ดีแล้วค่ะ” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยเสียงเบาก่อนจะถีบหน้าท้องแกร่งของคนตรงหน้าแรง ๆ จนร่างใหญ่เซไปด้านหลัง
ผลัก!
“ณัชชา!”
“คุณไม้อย่าตามมานะ นัทจะอยู่แค่ในศาลไม่ออกมาให้เห็นอีก” เสียงห้วนตวาดตามหลังเมื่อดวงวิญญาณสาวกระโดดลงจากโต๊ะทำงานวิ่งไปทางประตูห้อง ร่างเล็กพยายามเปิดประตูออกพร้อมกับหันไปมองใครบางคนที่กุมท้องของตัวเองเอาไว้ด้วยความหวาดระแวง
หมับ!
“ว๊ายย! / จะหนีไปไหน” สองขาแกร่งตามมายกร่างเล็กพาดไหล่กว้างเอาไว้ก่อนจะก้าวขาฉับ ๆ ไปยังเตียงกว้างแล้วทุ่มลงกับเตียงแรง ๆ
ตุบ!
มือเรียวกุมท้องของตัวเองเอาไว้ราวกับจุกหลังจากโดนทุ่มลงก่อนจะยันกายหนีไปด้านหลังเมื่อเห็นว่าร่างใหญ่ตามขึ้นมาบนเตียง
“คุณไม้อย่าเข้ามานะ”
“เธอนี่เป็นผีเจ้าเล่ห์จริง ๆ นะณัชชา” เสียงทุ้มของคนที่ตามมาคร่อมดวงวิญญาณสาวไว้เอ่ยขึ้น เพียงแค่เขาเรียกชื่อเธอหัวใจดวงน้อยก็เต้นระส่ำ “ทำตัวเหมือนลูกหมาตัวน้อย หวาดกลัวฉันแต่ลับหลังก็แยกเขี้ยวใส่ฉัน”
“ก็คุณไม้จะทำร้ายนัทก่อนนี่คะ อ๊ะอย่านะ ไม่เอา!” เพราะนิสัยชอบเถียงของเธอมันทำให้ไม้หงุดหงิด สองมือใหญ่คว้าข้อมมือเรียวเข้าหากันก่อนจะบริกรรมคาถาบทหนึ่ง พลันนั้นเชือกอาคมก็ปรากฏขึ้นในมือใหญ่ ดวงวิญญาณสาวเห็นแบบนั้นก็เบิกตาโพรงด้วยความกลัว เพราะไอ้เจ้าเชือกนี่มันจะทำให้ข้อมือของเธอแตกหากเธอขัดขืน
“ฉันจะปราบผีร้ายอย่างเธอยังไงดีนะ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะควงเชือกอาคมเล่นราวกับข่มให้วิญญาณร้ายได้หวาดกลัว “จับลงหม้อแล้วถ่วงน้ำดีไหม”
“ยะอย่านะคะ”
“หรือจะสะกดเธอเอาไว้ใช้งานเหมือนหมอผีคนอื่น ๆ ดีนะอื้อ...” ยังไม่ทันที่หมอผีหนุ่มจะเริ่มบริกรรมคาถา มือเรียวสองข้างก็รั้งท้ายทอยของคนที่คร่อมตนอยู่ลงมาใกล้ก่อนจะป้อนจูบหวานล้ำให้หมอผีหนุ่มแทนอาคมแกร่งที่เขากำลังจะร่าย
“อื้ออ!” ทว่าเสียงร้องท้วงในลำคอตอนนี้กลับเป็นเสียงของเธอซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ริมฝีปากหนาขยี้เรียวปากบางซ้ำ ๆ จนคนใต้ร่างรีบดันแผงอกแกร่งออกเมื่อถูกเรียวลิ้นสากลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากบาง “อื้ออ!”
“หึ” ร่างใหญ่แค่นยิ้มด้วยความพอใจเมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างกำลังดิ้นพล่าน มือเรียวทุบแผ่นหลังกว้างแรง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มระคายผิวแม้แต่น้อย
“อืมม” เสียงคลอเบา ๆ ในลำคอหนาดังขึ้นเมื่อเรียวปากน้อยเผยอออกอย่างว่าง่าย รสจูบร้อนแรงทำให้ดวงวิญญาณสาวถึงกับสติหลุดจนเคลิ้มตามไปกับเขา กลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยออกมาจากโพรงปากหนาก็พลอยทำให้ดวงวิญญาณสาวหลงไหลไปกับมัน
“อื้ออ” เจ้าของเรียวปากบางสะดุ้งโหยงเมื่อฟันคมขบลงบนเรียวปากน้อยเบา ๆ ราวกับเรียกสติเธอให้กลับมา ทว่ายังไม่ทันที่ดวงวิญญาณสาวจะใช้จังหวะที่คนตัวใหญ่เผลอนั้นหลบหนี มือเรียวก็ต้องชะงักกึกเมื่อความรู้สึกคับแน่นปนเจ็บปวดนั้นเล่นงาน
“คุณไม้!” เสียงหวานร้องด้วยความตกใจเมื่อรู้ตัวอีกทีข้อมือสองข้างก็ถูกเชือกอาคมพันธนาการไว้กับหัวเตียงแล้ว
“ตกใจทำไม ฉันก็เห็นว่าเธอเข้ากับมันได้ดีนะ ตอนมัดให้ก็ดูเคลิ้มดีออก” คนที่คร่อมอยู่พูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “คิดจะทำให้ฉันเคลิ้มตามแล้วใช้โอกาสนั้นหนีมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ อยู่บนโลกนี้มาก็นานทำไมไม่รู้ว่ามุกแบบนั้นมันโบราณแล้ว เธอนี่เป็นผีที่โง่เหมือนกันนะ”
“คุณไม้ว่านัทโง่เหรอ!” เสียงหวานว่า หากแต่เพียงแค่เธอขยับตัวเชือกอาคมที่พันธนาการข้อมือไว้กับหัวเตียงก็รัดแน่นขึ้นจนร่างบางต้องนอนนิ่ง ๆ
“ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่แกล้งทำเหมือนเคลิ้มตาม เธอจะให้มันจบตรงไหน” คำถามของหมอผีหนุ่มทำให้คนใต้ร่างถึงกับเงียบไป
“...” ณัชชาเพียงแค่จูบไม้เพราะไม่อยากให้เขาร่ายอาคมสะกดเธอ และหากเขาเคลิ้มตามเธอจะใช้โอกาสนั้นหนีออกจากห้องไป แต่เหมือนไม้จะฉลาดกว่าที่คิด เขามองเธอออก...
“สาบานกับฉันว่าเธอจะออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วไม่กลับเข้ามาอีก สาบานกับฉันว่าเธอจะไม่ทำร้ายพี่สาวฉันแล้วฉันจะปล่อยเธอไป สาบานต่อหน้ามีดเล่มนี้” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะหยิบมีดอาคมเล่มเล็กออกมาจากลิ้นชักข้างเตียงพลางปรายตามองเรือนร่างอรชรของคนที่นอนอยู่ด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“...ไม่ นัทสาบานไม่ได้” เพราะหากเธอสาบานเธอก็จะแตกดับทันที จะให้ผีบ้านผีเรือนสาบานว่าจะไม่กลับบ้านกลับเรือนได้ยังไงกัน แบบนั้นมันผิดกฏโลกวิญญาณนะ
“ฉันจะปล่อยเธอไปจนกว่าเธอจะเอ่ยคำสาบานกับฉัน ฉันจะทรมานเธอไปเรื่อย ๆ จนกว่าเธอจะออกไปจากบ้านหลังนี้” พูดจบมือใหญ่ก็วางมีดอาคมลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะทาบริมฝีปากหนาลงกับเรียวปากบางไม่ยอมให้คนใต้ร่างได้ตั้งตัว
“อื้ออ” ร่างเล็กดิ้นพล่านด้วยความตกใจหากแต่ก็ต้องแน่นิ่งไปเพราะเชือกอาคมกำลังรัดข้อมือเธอ วงแขนแกร่งตวัดเอวบางมาสวมกอดไว้ด้วยแขนเพียงข้างเดียวก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากหนาลงมาขบเม้มตามซอกคอบางแรง ๆ
“...” ดวงวิญญาณสาวนอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่ใต้ร่างใหญ่อย่างคนไม่มีสติเพราะสัมผัสแปลกใหม่จากเขาทำให้เธอรู้สึกคล้ายกับวิญญาณกำลังออกจากร่าง ทั้งที่เธอนั้นเป็นวิญญาณ
“รู้ไหมว่าเวลาหมอผีจับผีสาว ๆ มาได้นอกจากจะเก็บไว้ใช้งานแล้วยังเก็บไว้ทำอย่างอื่นด้วยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยพลางถลกชุดกระโปรงสีขาวขึ้นเผยให้เห็นบราเซียร์ตัวบางกับแพนตี้ตัวน้อยที่ปกปิดของสงวนเอาไว้
“คุณไม้อย่านะ นัทเป็นผีแต่คุณไม้เป็นคนนะ”
“แล้วผีไม่อยากรู้หรือไงว่ารสชาติของคนเป็นยังไง ฉันยังอยากรู้เลยว่ารสชาติของผีอย่างเธอจะเป็นยังไง”
“...” ร่างเล็กสั่นระริกเมื่อสบตากับคนตรงหน้า หากเธอเพ่งจิตหาใครสักคนในโลกวิญญาณได้ก็คงดี แต่เธออยู่ในห้องนี้เธอใช้อาคมหรือทำอะไรอย่างผีไม่ได้เลย “ไหนว่าไม่พิศวาสไง” เสียงหวานว่าพลางขยับตัวหนีหากแต่ยิ่งหนีเชือกอาคมก็รัดแน่นขึ้น
“สาบานสิว่าจะออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วฉันจะไม่ทำอะไรเธอ”
“...ไม่อื้ออ” พูดจบริมฝีปากหนาก็ทาบจูบลงบนเรียวปากบางอีกครั้ง รสจูบร้อนแรงทำให้เรียวปากบางเจ็บระบมก่อนจะเคลื่อนลงไปขบเม้มตามซอกคอบางแรง ๆ
“คุณไม้มีแฟนแล้วนะ จะทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้นะ อื้ออ เจ็บ!” เพราะเขาไม่อยากได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับฟ้าอีกชายหนุ่มจึงฝังคมเขี้ยวลงบนเนินอกอวบจนเกิดรอยแดง ร่างเล็กดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวดเมื่อหมอผีหนุ่มรุนแรงกับเธอ ทั้งเชือกอาคมที่พันธนาการข้อมือเอาไว้ก็บีบรัดข้อมือเล็กราวกับว่าจะทำให้แตกสลาย
“อื้ออ ยะอย่านะ อ๊าา” มือใหญ่ปลดบราเซียร์ออกก่อนจะดูดดึงยอดอกน้อย ๆ ที่กำลังแข็งเป็นไตด้วยความหลงไหล ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้หน้าท้องแบนราบเบา ๆ จนคนใต้ร่างขนลุกซู่ พลันนั้นดวงวิญญาณสาวจึงดิ้นพล่านอีกครั้งเมื่อมือใหญ่เคลื่อนเข้าไปสัมผัสดอกไม้งามเบื้องล่างในแพนตี้ตัวน้อย
“คุคุณไม้อย่าา อื้ออ”
“สาบานสิว่าจะออกไปจากบ้านหลังนี้” ริมฝีปากหนาเอ่ยบอกก่อนจะพรมจูบลงบนหน้าท้องแบนราบพลางตวัดปลายลิ้นชื้นแฉะไปมา เรียวลิ้นสากลากลงต่ำเรื่อย ๆ ทำเอาหัวใจดวงน้อยของผีบ้านสาวสั่นไหว
“คุณไม้อ๊าา” มือใหญ่รูดแพนตี้ตัวน้อยลงตามเรียวขาขาวเนียนช้า ๆ ขณะที่ปลายจมูกโด่งฝังลงตามเนินเนื้อขาวเนียนไปด้วย สัมผัสแปลกใหม่ทำให้ดวงวิญญาณสาวร้อนรุ่มไปทั้งตัว ทั้งความรู้สึกเสียวซ่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนก็ทำให้เธอแทบสติหลุด