11 ช่วยหนูด้วย
@เช้าวันถัดมา
แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดห้องได้แต่ส่ายหน้าเมื่อเห็นคราบเลือดบนผ้าปูที่นอน ต้องมีอะไรกันรุนแรงขนาดไหนถึงเลือดออกเยอะแบบนี้ แล้วดูนั่นสิ คราบน้ำสีขาวเลอะเต็มที่นอน แสดงว่าเมื่อคืนคงไม่ได้จบแค่รอบเดียว
เพิ่งรู้ว่าเจ้านายเป็นคนซาดิสต์ขนาดนี้
“สงสัยวัยรุ่นสมัยนี้ชอบใช้ความรุนแรง” นางพูดพร้อมกับก้มลงรื้อผ้าปูที่นอน แต่ทันใดนั้นหางตาก็เหลือบไปเห็นเท้าของใครบางคนยื่นออกมาจากประตูห้องน้ำ “ว้ายตาเถร! นั่นใคร”
นางส่งเสียงร้องเรียก แต่คนที่นอนอยู่ไม่ขยับ ทำให้นางเริ่มใจคอไม่ค่อยดี รีบวิ่งเข้าไปดู ปรากฏเป็นร่างเปลือยของหญิงสาวรายหนึ่งนอนขดอยู่ในห้องน้ำ
“คุณ!!” นางรีบประคองร่างขาวซีดขึ้นวางศีรษะไว้บนหน้าตาก ทำให้รู้ว่าร่างกายของเธอเต็มไปด้วยไอร้อน พื้นห้องน้ำก็เย็นเฉียบขนาดนี้ทำไมถึงไปนอนได้ “ตื่นสินังหนู ตื่น!”
แต่ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น ตอนนี้นางรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้กำลังถูกพิษไข้รุมเร้าจนไม่ได้สติ ได้แต่นึกสงสัยว่าเธอเป็นใคร ทำไมถึงมานอนอยู่ตรงนี้ แต่พอเห็นร่องรอยเขียวช้ำตามเนื้อตัว ก็พอจะรู้แล้วว่าเธอคนนี้น่าจะเป็นคนที่ทิ้งร่องรอยพวกนั้นบนเตียง แต่เจ้านายของนางรุนแรงกับผู้หญิงขนาดนี้เชียวหรือ ถึงได้เนื้อตัวชอกช้ำจนแทบไม่อยากจะคิดว่าจริงๆแล้วเธอคนนี้ถูกข่มขืนมาต่างหาก
นางรีบหยิบผ้าขนหนูมาพ้นรอบตัวแล้วลากร่างเล็กออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะนำผ้าห่มมาพันอีกรอบเพื่อไล่ความหนาวเหน็บ
“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนังหนู แล้วดูสภาพสิ…” ดวงตาของนางเต็มความสงสารสุดหัวใจ ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ช่างน่าเวทนาจริงๆ จะตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ตัวร้อนจี๋เลย”
ถ้าไม่รีบรักษาเธอคนนี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดก็ได้ แต่นางก็แก่เกินจะแบกร่างของผู้หญิงคนนี้ออกไป
ทันใดนั้นเองโจนาธานได้เดินผ่านมาพอดี นางจึงวานให้เขาช่วยอุ้มร่างของผู้หญิงคนนี้ไปที่ห้องของนางเพราะที่นั่นพอมียารักษาอยู่บ้าง แม้จะขัดคำสั่งของคนเป็นเจ้านาย แต่โจนาธานเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ที่เจ้านายกระทำกับผู้หญิงรุนแรงเกินไป ถึงเธอจะเป็นน้องสาวของทัชกรแต่เธออาจจะไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงขนาดไม่ได้ใหญ่มากภายในห้องของคนรับใช้
“ถ้านายรู้เข้าคงไม่พอใจแน่ๆที่เราสองคนพาเธอออกมา” โจนาธานพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“แต่เราจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ตายไปต่อหน้าต่อตาหรอ ดูร่องรอยพวกนี้สิ เจ้านายของเรา…เอ่อ….ไม่ได้ข่มขืนเธอใช่ไหม”
“…” โจนาธานเงียบ เอาแต่ถอนหายใจพรืดใหญ่ “ผมว่ามากกว่าข่มขืน”
“คุณอิคารัสไม่น่าทำแบบนี้เลย หน้าตาก็ดี อยากได้ผู้หญิงสักคนก็ไม่เห็นต้องไปข่มขืนเขาเลย”
“เธอคนนี้คือน้องสาวของไอ้ทัชกร มือปืนที่ฆ่าคุณมาเชลโล่”
“ตายจริง! แบบนี้…เอ่อ….เธอจะโดนฆ่าทิ้งหรือเปล่า”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ” โจนาธานปลายตามองร่างเล็กด้วยความส่งสาร “เธอคนนี้คงอยู่อย่างคนตายทั้งเป็น”
เขาเริ่มรู้สึกผิดที่เป็นคนต้นคิดจับน้องสาวของทัชกรมา แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้านายจะทำกับเธอถึงขนาดนี้ เมื่อคืนลูกน้องที่เฝ้าหน้าห้องเล่าให้ฟังว่าเสียงกรีดร้องของเธอดังระงมจนทนฟังไม่ไหว
“ถ้างั้นเราโทรเรียกหมอมาตรวจไหม ขืนปล่อยไว้แบบนี้เธอต้องแย่แน่ๆ”
“ผมว่าอย่าเลยดีกว่าครับ แค่นี้เราสองคนก็เสี่ยงมากพอแล้ว”
“บอกว่าป้าเป็นคนโทรเรียกหมอมาก็ได้ ป้าไม่อยากให้เธอตาย คุณอิคารัสคงไม่กล้าว่าอะไรป้าหรอก เพราะป้าคือลูกสาวแม่นมของเขา” นางพูดอย่างมีความหวังเพราะรู้ว่าอิคารัสคงไม่กล้าทำอะไรนางแน่นอน เพราะมารดาของนางเคยเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กๆ
“เอางั้นก็ได้ครับ นายกลับมาตอนเย็น ผมคิดว่าน่าจะทัน”
โจนาธานรีบโทรเรียกหมอประจำตระกูลมาที่นี่ทันที ก่อนจะส่งลูกน้องไปรอรับที่ท่าเรือ ไม่นานคุณหมอก็มาพร้อมอุปกรณ์การตรวจครบครัน
แต่พอเห็นสภาพของคนไข้ คุณหมอถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก เพราะสภาพนี้ไม่ต่างอะไรจากถูกข่มขืนมา แต่เขาก็ไม่กล้าถามต่อเพราะรู้ว่าอิคารัสเป็นคนยังไง ทำได้แค่ตำหนิชายหนุ่มในใจ ไม่คิดว่าจะรุนแรงกับผู้หญิงตัวเล็กๆได้ขนาดนี้
“เธอเป็นยังไงบ้างคุณหมอ”
“เธอมีไข้เพราะแผลติดเชื้อครับ หมอฉีดยาฆ่าเชื้อและเข้าน้ำเกลือให้เธอแล้ว อีกหน่อยอาการน่าจะดีขึ้น” คุณหมออธิบายให้ฟังหลังจากทำการตรวจเสร็จ ร่องรอยที่ปรากฏตามเนื้อตัวใครเห็นเป็นต้องสงสารทุกคน ขนาดเขาเองที่เป็นหมอรักษาคนไข้มาทุกรูปแบบยังรู้สึกหดหู่ใจกับการกระทำของอิคารัสเลย
“ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะที่เสียสละเวลามา ถ้าไม่ได้คุณหมอ เธอต้องแย่แน่ๆ”
“มันคือหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับ แต่หมอต้องรีบกลับแล้ว เดี๋ยวคุณอิคารัสมาก่อน หมอไม่อยากซวย” คุณหมอรีบเก็บอุปกรณ์เข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว เพราะการมาที่นี่โดยไม่ได้บอกอิคารัส อาจจะทำให้เขาซวยก็ได้
“ป้าจะให้คุณโจนาธานไปส่งนะคะ ขอบคุณคุณหมอมากๆที่ช่วยชีวิตเธอ” นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กทุยของคนป่วยด้วยความสงสาร แม้ว่านางไม่เคยมีลูกมาก่อน แต่กลับรู้สึกเอ็นดูผู้หญิงคนนี้อย่างบอกไม่ถูก
ตัวก็เล็กแค่นี้ ดูไม่ได้มีพิษมีภัยเลยด้วยซ้ำ อิคารัสไม่น่าทำถึงขนาดนี้เลย
“รอดแล้วนะนังหนูเอ้ย แต่ไม่รู้จะรอดได้กี่วัน หนูเป็นน้องสาวของทัชกร ป้าแทบไม่อยากจะคิดเลยว่าคุณอิคารัสจะทำอะไรกับหนูบ้าง”
นางเคลื่อนผ้าห่มคลุมร่างเล็กอย่างเบามือเพราะอยากให้คนป่วยพักผ่อน แต่ทันใดนั้นดวงตากลมโตร้อนผ่าวก็ค่อยๆเปิดขึ้น เธอปล่อยโฮออกมาทันทีที่ฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เจอปีศาจร้าย
“อ่าวนังหนู! ตื่นแล้วหรอ”
“คุณป้า ฮึก…” บัวบูชาเอื้อมมือสั่นเทาไร้เรี่ยวแรงไปกุมมือของนางอย่างมีความหวัง
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ปวดหัวไหม”
“ไม่แล้วค่ะ” บัวบูชาร้องไห้สะอึกสะอื้น อยากลุกขึ้นนั่งแต่ก็ทำไม่ได้เพราะร่างกายปวดหนึบไปแทบทุกส่วน “ช่วยหนูด้วย เขาทำร้ายหนู ฮื้อๆๆ”
“จะให้ป้าช่วยยังไงล่ะ ป้าเองก็จนปัญญาเหมือนกัน แค่โทรเรียกหมอมารักษาหนู ป้าก็เสี่ยงมากแล้วนะ”
“พะ…พาหนูออกจากที่นี่ได้ไหมคะ แล้วหลังจากนั้น ฮึก! หนูจะหาทางหนีเอง”
“หนูหนีไปไหนไม่ได้หรอก ยังไงคุณอิคารัสก็ตามตัวหนูเจออยู่ดี”
“คะ…คุณอิคารัส? เขาเป็นใครหรอคะ”
“อ่าว เขาก็คือคนที่ทำร้ายหนูไง นี่หนูไม่รู้จักเขาเลยหรอ”
“ไม่รู้ค่ะ ฮึก! หนูไม่รู้อะไรทั้งนั้น หนูอยากกลับบ้าน ฮื้อๆๆ” เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นชวนน่าสงสาร นางทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดปลอบร่างสั่นเทาเพราะถ้าอิคารัสไม่อนุญาต ใครก็ออกจากที่นี่ไม่ได้
“ป้าก็จนปัญญานังหนูเอ้ย ทำใจซะนะ บางทีคุณอิคารัสอาจจะเมตตาหนูก็ได้”
“คนแบบนั้นไม่มีทางเมตตาใครหรอกค่ะ สักวันเขาจะได้รับกรรม!”
“ป้าก็อยากให้เขาได้เรียนรู้ความเจ็บปวดเหมือนกัน คนอย่างอิคารัส…ถ้าไม่เจอด้วยตัวเอง จะไม่มีวันรู้สึก”
นางเชื่อว่าสักวันอิคารัสจะได้รับบทเรียน เพราะเขาไม่เคยเห็นใจใคร ไม่เคยสงสารใคร นางไม่ได้เข้าข้างอิคารัสเลยสักนิด ดูการกระทำของเขาสิ มันไม่ใช่การกระทำของลูกผู้ชายเลยด้วยซ้ำ คนแบบนี้อีกไม่นานเดี๋ยวกรรมก็ตามทัน
------------