หลายวันผ่านมาแล้ว
ตั้งแต่ซ่งซือหลานบุตรสาวจวนราชครูซ่งบังเอิญพลัดตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง นางไร้สมองก็แล้วไปเถอะแต่นี่ถึงกับเลอะเลือน กล้าออกไปเดินเล่นริมทะเลสาบในวันหนาวจัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ทั่วเมืองหลวงผู้ใดไม่รู้บ้าง ราชครูซ่งมีบุตรสาวไม่เอาไหนก็คือซ่งซือหลาน นอกจากไม่สามารถร่ำเรียนเขียนอ่านยังเป็นเด็กหัวช้า อายุใกล้ถึงวัยปักปิ่นนางยังเอ่ยวาจาออกมาไม่ถึงวันละยี่สิบคำ ต่อให้นางเป็นบุตรสาวสายตรงราชครูซ่งผู้ล้ำเลิศ แต่ดันเกิดมามีสติปัญญาถดถอยเช่นนี้ สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาธรณีประตูจวนสกุลซ่งถึงได้ไร้เงาแม่สื่อก้าวผ่าน
เรื่องที่คุณหนูซ่งตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง ผู้ที่ร้อนใจหาใช่ราชครูซ่งหรือมารดาเลี้ยงอย่างหร่วนซื่อ [1] แต่กลับกลายเป็นบ่าวรับใช้อย่างชุนหลัน
ทันทีที่เห็นแพขนตาผู้เป็นนายขยับ ชุนหลันร้องตะโกนบอกบ่าวปัดกวาดด้านนอก “คุณหนูฟื้นแล้ว รีบไปแจ้งท่านราชครูเร็วเข้า”
ซ่งซือหลานเพิ่งฟื้นไข้ ได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นหัวคิ้วพลันขมวดมุ่น หากแต่นางไร้เรี่ยวแรงจะลืมตาตื่น น้ำในทะเลสาบทำนางเจ็บหนักเพียงนี้เชียว หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นอยู่แล้วยิ่งผูกกันเป็นปม
ได้ยินเสียงฝีเท้ามั่นคงเดินเข้ามาใกล้ ราชครูซ่งมองใบหน้าแดงก่ำของบุตรสาวในใจนึกเวทนาขึ้นมา “หลานเอ๋อร์ฟื้นแล้วหรือ”
“เมื่อครู่บ่าวเห็นคุณหนูฟื้นแล้ว ขอนายท่านรีบตามหมอมาดูคุณหนูเถอะเจ้าค่ะ”
ชุนหลันคุกเข่าเอ่ยวาจาอยู่ข้างเตียงนอนผู้เป็นนาย ซ่งเหลียงสังเกตเห็นแพขนตาบุตรสาวขยับเช่นกัน ราชครูซ่งพยักหน้าให้บ่าวรับใช้ไปตามหมอมาดูอาการ
“นายท่านเจ้าคะ คุณหนู....”
“เจ้าอย่าเพิ่งพูดเลย รอหมอมาดูอาการนางก่อน”
“เจ้าค่ะ”
วาจามากมายของชุนหลันไม่อาจเอ่ยออกมาเพราะเหตุนี้ สาวใช้รู้ดีหากนางไม่อาศัยจังหวะที่หร่วนซื่อยังไม่มาพูดกับนายท่าน คุณหนูของนางจะต้องทนกล้ำกลืนความอยุติธรรมเป็นแน่
“ท่านหมอมาแล้ว รีบเข้ามาเถอะ” ซ่งเหลียงถอยไปด้านข้างรอฟังอาการบุตรสาว โชคดีจวนสกุลซ่งมีหมอประจำจวน พอให้คนไปตามถึงได้มาถึงเร็วนัก ท่านหมอตรวจดูครู่ใหญ่สีหน้าผ่อนคลายต่างจากวันก่อนลิบลับ ซ่งเหลียงระบายลมหายใจ
“เรียนใต้เท้า คุณหนูตกลงไปในทะเลสาบฟื้นขึ้นมาได้นับว่าสวรรค์เมตตา จากนี้ต้องบำรุงร่างกายดื่มยาอย่าให้ขาด รับรองไม่เกินสองเดือนก็หายดี”
“หลานเอ๋อร์ได้ยินแล้วหรือไม่ ต่อไปเจ้าต้องดูแลตัวเองอย่าได้ทำตัววุ่นวายอีก”
ดวงหน้าแดงก่ำเพราะพิษไข้พยักหน้าเงียบเชียบ ซ่งเหลียงคล้ายเห็นดวงตาบุตรสาวเอ่อคลอดหยาดน้ำตา แต่วาจาท่านหมอพูดมาไม่เกินจริง ดรุณีน้อยอย่างซ่งซือหลานพลัดตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็งกลางฤดูเหมันต์เช่นนี้ รอดมาได้นับว่าสวรรค์เมตตาแล้ว
“...ข้า......ข้าตกลงไปใน...น้ำแข็ง....” น้ำเสียงแหบแห้งจากร่างบนเตียงเอ่ยวาจาออกมา ซ่งเหลียงก้มลงลูบศีรษะบุตรสาว
“พ่อรู้แล้ว หลานเอ๋อร์ไปเที่ยวเล่นกับบ่าวรับใช้จนพลัดตกลงไป ต่อให้บ่าวรับใช้ดูแลเจ้าไม่ดีแต่ข้างนอกหนาวเพียงนั้นเจ้าไม่ควรออกจากจวน”
สาวใช้อย่างชุนหลันตาแดงก่ำ ไม่อาจเงียบวาจาอีกต่อไป “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ ทะเลสาบนั่นแผ่นน้ำแข็งหนายิ่งกว่าอะไร ลำพังกำลังบ่าวใช้แรงงานยังลงแรงอยู่นานกว่าจะทำให้แตกได้ หากไม่มีคนจงใจจัดฉากไว้ก่อนคุณหนูจะบังเอิญตกลงไปได้อย่างไร”
ฝ่ามือราชครูซ่งลูบเรือนผมบุตรสาวแผ่วเบา “เรื่องเป็นมาอย่างไรกันแน่ หลานเอ๋อร์เล่าให้พ่อฟังสักรอบ”
ซ่งซือหลานน้ำเสียงสั่นเครือ “บ่าวสองคนบอกว่า ท่านแม่เรียกข้าไปพบเจ้าค่ะ”
“เป็นความจริงหรือ?”
ชุนหลันอดทนต่อไปไม่ไหว “ท่านราชครูเจ้าคะ วันนั้นคุณหนูออกจากจวนไปแต่เช้าบอกว่าจะไปพบฮูหยิน ทำอย่างไรก็ไม่ยอมให้ตามไปด้วย คุณหนูรีบร้อนวิ่งออกไป ข้าเกรงว่าคุณหนูจะหนาวเลยหยิบเสื้อคลุมตัวโปรดของคุณหนูตามไป พอไปถึงก็เห็นคุณหนูตกลงไปในน้ำแล้วเจ้าค่ะ”
ชุนหลันเอ่ยวาจายืดยาว ที่หน้าประตูเรือนจวี๋อิ่งตอนนี้ปรากฏเงาร่างหร่วนซื่อเดินเข้ามา กระโปรงปักลายวิหคของหร่วนซื่อวันนี้ขลิบขนจิ้งจอกขาวงดงาม
ทันทีที่นางยกชายกระโปรงเดินเข้ามา ราวกับทั่วเรือนจวี๋อิ่งอบอุ่นสว่างไสว ใบหน้าหร่วนซื่อดูเป็นสตรีอบอุ่นอ่อนโยน ดวงตาโค้งลงรับกันกับหางคิ้วเรียว สตรีท่วงท่าเช่นนี้มีแต่จะทำให้ผู้พบเห็นรักถนอม ถ้อยคำเมื่อครู่ของชุนหลันมีหรือหร่วนซื่อจะไม่ได้ยิน
“ข้าได้ยินว่าหลานเอ๋อร์ฟื้นแล้วก็รีบมาทันทีเจ้าค่ะ หลานเอ๋อร์เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
ซ่งซือหลานมองดูสตรีที่เข้ามาใหม่ ดูเหมือนนางได้เห็นโฉมหน้าภรรยาอีกคนของท่านพ่อชัดเจนก็วันนี้ สตรีรูปร่างผอมบางโครงหน้าเรียวเล็กหางคิ้วหางตาโค้งลง มิน่าเล่าสตรีผู้นี้มีใบหน้าชวนให้ผู้คนนึกเอ็นดู เช่นนี้เองหร่วนซื่อถึงได้ซ่อนกรงเล็บแหลมคมมิดชิดนัก
“...วันนั้น...ข้ารอพบท่านแม่อยู่นาน”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” หร่วนซื่อนั่งลงข้างเตียงซ่งซือหลาน “จำได้ว่าวันนั้นอากาศหนาวเย็นนัก แม่เกรงว่าเจ้าออกจากเรือนมาจะจับไข้เอาได้ ถึงได้ให้คนเร่งมาบอกเจ้าที่เรือนไว้พวกเราไปกันวันหลัง กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้”
[1] คำว่า ซื่อ หมายถึง สกุลเดิม ใช้เรียกต่อท้ายชื่อสกุลเดิมผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว