ตอนที่ 4 พี่สายหยอด น้องไหวไหม

1804 Words
เพราะลูกชายคนเล็กของตระกูลซุกเมียเอาไว้โดยไม่ได้บอกครอบครัว ทางบิดามารดาของชายหนุ่มจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรสู่ขอลูกสะใภ้คนเล็กจากครอบครัวให้ถูกต้องตามประเพณี พวกเขาได้โทรคุยกับคุณมุ่งมั่นซึ่งเป็นบิดาของหญิงสาวและกำหนดวันที่จะไปสู่ขอเสร็จสรรพ ทำให้เคนและคะนึงนิจต้องเลื่อนการเดินทางกลับกรุงเทพออกไปจนกว่าเรื่องของคินและขนมเบื้องจะเรียบร้อย เช้านี้หลังจากกินข้าวกันเสร็จสองผู้อาวุโสได้เดินทางไปเยี่ยมคนรู้จักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไร่มากนัก ส่วนสองหนุ่มก็แยกไปคุยงานในห้องทำงานของคินแล้วปล่อยให้สองสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง ขนมเบื้องในฐานะภรรยาเจ้าของไร่จึงชวนคะนึงนิจมานั่งคุยกันตรงระเบียงชั้นสองของบ้านที่สามารถเห็นวิวไร่ส้มได้อย่างชัดเจน “ว้าวววววว สวยมากเลยขนม แบบนี้ต้องถ่ายรูปเก็บไว้” ด้วยความเป็นคนกรุงมาแต่กำเนิดทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของคะนึงนิจ เบิกกว้างด้วยความชอบใจ แล้วรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกความสวยตรงหน้ารัว ๆ “ตามสบายเลย วันนี้เราไปขี่จักรยานแถวท้ายไร่ไหมน้องเพื่อน แถวนั้นสวยมากเหมือนกัน เผื่อเก็บบรรยากาศเอาไปแต่งนิยาย” เห็นเพื่อนใหม่ตาวาวกับความเขียวขจีของต้นไม้ขนมเบื้องจึงอดแนะนำสถานที่สวย ๆ ในไร่ไม่ได้ คะนึงนิจบอกว่ามีอาชีพเป็นนักเขียนทำให้สนใจสิ่งรอบตัวเป็นพิเศษ เธอเลยอยากลองพาไปดูเผื่อไร่ส้มของสามีจะได้ไปอยู่ในนิยายบ้าง “จริงเหรอ ไป ๆ เราอยากไป แต่เราขี่จักรยานไม่เป็นน่ะสิ” “เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เดี๋ยวซ้อนท้ายเราไปก็ได้” “งั้นตกลงเลย เราจะไปตอนไหนดี” “ช่วงเช้าเลยดีไหม ช่วงบ่ายมันร้อน” “อืม ก็ดีเหมือนกัน” เนื่องจากวันพรุ่งนี้เธอต้องไปร่วมงานสู่ขอขนมเบื้องจึงไม่ต้องการตากแดดตากลมเดี๋ยวจะไม่สวย เห็นอย่างนี้เธอก็รักสวยรักงามเหมือนกัน เว้นอย่างเดียวน้ำหนักเกินมาตรฐานไปหน่อย “เดี๋ยวเราไปบอกพี่คินก่อนนะ” “จ้า เรารออยู่ตรงนี้นะ ไม่หายไปไหนแน่นอน” “โอเค แป๊บนะ เดี๋ยวเรามา” จากนั้นภรรยาของเจ้าของบ้านก็หายไปครู่ใหญ่ ๆ ปล่อยให้แขกสาวนั่งมองวิวอยู่เพียงลำพัง เธอปล่อยใจปล่อยกายไปกับสายลม และแสงแดดทำให้ไม่รู้ถึงการมาของใครอีกคน เคนเปิดโอกาสให้น้องชายกับน้องสะใภ้ได้คุยกันตามลำพัง ส่วนตนเองก็เดินออกมาหาคะนึงนิจ เห็นเธอสนใจแต่วิวจึงอยากกลั่นแกล้ง เขาค่อย ๆ ย่องเข้าไปหาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวข้าง ๆ เธอพร้อมกับเรียกชื่อ ทำให้อีกฝ่ายตกใจหันมาทางต้นเสียงอย่างอัตโนมัติ ปากกระจับสีสวยจึงไปสัมผัสบนแก้มสากด้วยความไม่ตั้งใจ สร้างความตกตะลึงแก่เจ้าตัวและชายหนุ่มเป็นอย่างมาก “อุ๊ย ขะ… ขอโทษค่ะ พะ… เพื่อนไม่ได้ตั้งใจ” เธอรีบดึงใบหน้าออกห่างจากแก้มของเขาแล้วเขยิบหนีพร้อมกับเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ตั้งใจก็ได้นะครับ พี่ไม่ถือ” เขาพูดอย่างนั้นก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปด้วยหัวใจเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานนับแต่เลิกรากับแฟนเก่า ทั้ง ๆ ที่เขาอยากลงโทษเธอด้วยการปั่นหัวเล่นแต่ทำไมความรู้สึกของเขาถึงได้หวั่นไหวเสียเอง ชายหนุ่มจึงเอามือขึ้นมาลูบตรงอกด้านซ้ายในขณะเดินห่างออกมา ส่วนหญิงสาวก็นั่งอ้าปากค้างตาโตเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เคนพูดและงงกับหัวใจของตนเองที่อยู่ดี ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมา 'เห็นทีหลังจากกลับกรุงเทพเธอต้องไปตรวจร่างกายสักหน่อย หมู่นี้หัวใจเต้นแปลก ๆ ตลอด' หญิงสาวคิดในขณะหันไปมองแผ่นหลัง ของเคนที่กำลังเดินจากไป เมื่อจักรยานทั้งสองคันปั่นมาถึงจุดชมวิว ความสวยงามของดอกไม้ตรงหน้าเกือบทำให้คะนึงนิจกรี๊ดออกมาแล้ว โชคดีที่เธอสามารถยับยั้งความตื่นเต้นได้ทำให้ไม่ปล่อยไก่ต่อหน้าชายหนุ่มและเพื่อนใหม่ หลังจากจักรยานที่นั่งซ้อนท้ายโดยมีคนตัวโตเป็นคนปั่นจอดสนิท นักเขียนตัวกลมก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งให้เพลย์บอยหนุ่มทันทีอย่างไม่เกรงใจ ส่วนขนมเบื้องก็เดินไปสำรวจทุ่งดอกไม้ตรงหน้าด้วยความหลงใหล 'ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เขาควรทำตัวมีประโยชน์ด้วยการถ่ายรูปเธอและขนมเบื้อง' “นี่ค่ะพี่เคน ช่วยถ่ายรูปเพื่อนกับขนมด้วย” “ใช้พี่เหรอ” คนไม่เคยถูกสั่งเลิกคิ้วพร้อมกับชี้มาที่ตัวเอง “ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าเพื่อนไม่ใช้พี่ แล้วเพื่อนจะใช้ใคร เพื่อนอยากถ่ายรูปกับขนม” “อืม ๆ ก็ได้ ๆ เดี๋ยวพี่ค่อยเก็บค่าจ้างทีหลัง” “โหยยยยย รวยอย่างพี่เคนยังจะเก็บค่าจ้างอีก ไหนข่าวซุบซิบบอกว่าประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่างคุณเคน อัครโภภาคิน เป็นเพลย์บอยสายเปย์ไง ข่าวมั่วปะเนี่ย” เธอจ้องหน้าเขาพลางขมวดคิ้วถาม “แล้วใครบอกว่าพี่อยากได้เงิน” “แล้วพี่เคนอยากได้อะไรคะ” 'นั่นน่ะสิ ไม่อยากได้เงินแล้วเขาอยากได้อะไร' ชายหนุ่มคิดก่อนจะอ้าปากตอบ “พี่อยากได้.../น้องเพื่อนมาเร็ว ๆ ตรงนั้นผีเสื้อเต็มเลย” ยังไม่ทันจะเอ่ยความต้องการออกไป ขนมเบื้องก็วิ่งกลับมาหาทั้งคู่แล้วชวนเพื่อนใหม่ไปดูผีเสื้อที่มีนับร้อย ๆ ตัวด้วยความตื่นเต้น คะนึงนิจพยักหน้าหงึก ๆ แล้วเดินไปทันที ทิ้งให้เคนยืนอยู่คนเดียวตามลำพัง ชายหนุ่มจึงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่มุมปากจะยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของอีกฝ่าย จากนั้นขาทั้งสองข้างก็รีบก้าวตามหญิงสาวทั้งสองคนพร้อมกับทำหน้าที่เก็บภาพตามคำสั่ง “พี่เคนถ่ายสวย ๆ เลยนะคะ เพื่อนจะเอาไปลงเฟสอวดชาวโซเชียล เนอะขนม” “ครับเจ้านาย กระผมจะถ่ายให้สวยสุดฝีมือเลย” เขาประชดพลางกดโทรศัพท์รัว ๆ “พี่เคนอยากถ่ายด้วยไหมคะ เดี๋ยวหนูถ่ายให้เอง” ขนมเบื้องถามชายหนุ่มด้วยความมีน้ำใจ “เอาครับเอา ฝากด้วยนะครับ” ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธน้องสะใภ้ จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ขนมเบื้องทำหน้าที่ตากล้องแทน ส่วนตัวเองก็ไปยืนชิดคะนึงนิจเหมือนคู่รักก็ไม่ปาน ในจังหวะที่หญิงสาว กำลังเงยหน้าขึ้นมาหมายจะบอกให้ชายหนุ่มขยับออกไปสักนิด เป็นจังหวะเดียวกับที่เคนก้มลงมามองเธอ ดวงตาของทั้งคู่จึงประสานกันอย่างไม่ตั้งใจ ขนมเบื้องเห็นว่าท่าทางของนายแบบและนางแบบสวยดีจึงรีบกดโทรศัพท์บันทึกรูปเอาไว้ รูปที่ดูอย่างไรก็เหมือนคนเป็นแฟนกันมาถ่ายพรีเวดดิ้ง เสียอย่างเดียวชุดที่ใส่มาไม่ใช่ชุดแต่งงาน วันถัดมาขบวนรถตระกูลอัครโภภาคินก็มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของขนมเบื้องซึ่งมีเจ้าบ้านอย่างคุณมุ่งมั่นพร้อมด้วยสาวใช้ยืนรอต้อนรับ พวกผู้ใหญ่ทำความรู้จักกันเรียบร้อยบิดาของหญิงสาวก็เชิญให้ทั้งหมด ไปคุยกันต่อในห้องรับแขก ในระหว่างเดินคะนึงนิจที่แต่งตัวสวยไม่แพ้ว่าที่เจ้าสาวเกิดอาการปวดฉี่จึงกระซิบกระซาบถามถึงห้องน้ำกับเจ้าของบ้าน ขนมเบื้องจึงอาสาพาไปเองเพราะบ้านของเธอหลังใหญ่ กลัวว่าอีกฝ่ายจะหลงเอาได้ “ห้องนี้เลยจ้ะน้องเพื่อน” เพราะคนอื่นเรียกเพื่อนใหม่ของเธอว่า น้องเพื่อน ขนมเบื้องจึงเรียกคะนึงนิจว่าน้องเพื่อนด้วยคนทั้งที่อายุเท่ากัน “ขอบใจนะจ๊ะขนม ไม่ต้องรอเราก็ได้ เดี๋ยวเรากลับไปเอง” คะนึงนิจเอ่ยด้วยความเกรงใจในขณะบิดตัวไปมาเพราะอั้นฉี่นาน “ไม่เป็นไรเรารอได้ น้องเพื่อนไม่ต้องรีบ ทุกคนรออยู่ อิอิ” “ขนมอะอย่ากดดันเราสิ” ด้วยความที่สองสาวมีนิสัยใจคอคล้าย ๆ กันทำให้สนิทกัน อย่างรวดเร็ว คะนึงนิจรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความไวแสงเมื่อรู้สึกว่าเขื่อนกำลังจะแตกแล้วปล่อยให้เพื่อนใหม่รออยู่หน้าห้องน้ำคนเดียว ในระหว่างที่ขนมเบื้องกำลังยืนรอแขกสาวอยู่ ๆ ก็รู้สึกเสียววาบตรงแผ่นหลังของตนเองจึงรีบหันกลับไปมอง “ไปกับพี่ดี ๆ ดีกว่าค่ะ ถ้าคุณหนูไม่อยากเจ็บตัว” น้ำเสียงสั่น ๆ ของสาวใช้ดังขึ้นมาเบา ๆ เมื่อเห็นหนทางที่จะนำตัวเจ้านายไปให้เพลงพิณซึ่งเป็นอดีตแม่เลี้ยงใจร้ายของขนมเบื้อง จันทร์วาดเป็นสาวใช้ที่มาทำงานในบ้านหลังนี้หลายปีแต่พักหลัง ๆ เกิดปัญหาด้านการเงินเนื่องจากติดการพนันออนไลน์ แม่เลี้ยงของขนมเบื้องบังเอิญไปรู้เรื่องเข้าจึงเสนอให้เธอมาเป็นพรรคพวกของตนเองแลกกับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ คอยรายงาน ความคืบหน้าของคนในบ้านหลังนี้ และครั้งนี้ก็เสนอเงินก้อนโตแลกกับตัวขนมเบื้อง ซึ่งเธอก็ยินดีที่จะทำตามข้อเสนอ “พี่จันทร์” เพราะมีดปลายแหลมที่จ่ออยู่ตรงเอวขนมเบื้องจึงไม่กล้าเปล่งเสียงดัง ๆ ออกมาทำให้คนที่กำลังทำธุระเสร็จไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น จันทร์วาดบังคับเจ้านายสาวให้เดินไปตามทิศทางที่มุ่งหน้าไปยังประตูหลังบ้านพร้อมด้วยคำขู่ เพื่อความปลอดภัยหญิงสาวจึงไม่กล้าเสี่ยง ยอมเดินไปกับสาวใช้แต่โดยดี และอีกอย่างเธอไม่อยากให้คะนึงนิจเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ทางด้านสาวอวบเมื่อทำธุระเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นหลังของเพื่อนใหม่เลี้ยวไปอีกทางซึ่งไม่ใช่ทางที่เดินมาก็ตัดสินใจ จะเดินตามไป แต่ไม่ทันได้ก้าวขาออกก็ได้ยินเสียงของเคนเสียก่อนจึงหยุดชะงักแล้วขานรับเสียงเรียก ชายหนุ่มอาสามาตามสองสาวเพราะผู้ใหญ่รอนานแล้ว “ขนมเบื้องไปไหนครับน้องเพื่อน” “ไม่รู้ค่ะ เห็นเดินไปทางนั้น” หญิงสาวชี้ไปตามทางที่ขนมเบื้องหายไป เคนคิดจะเดินตามแต่เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมาเสียก่อนจึงเอาขึ้นมาดู เมื่อเห็นเป็นเบอร์ของน้องชายก็รีบกดรับทำให้รู้ว่าเกิดเรื่องกับน้องสะใภ้แล้ว คินฝากให้เขาช่วยดูแลทางนี้ส่วนเรื่องขนมเบื้องเขาจะไปจัดการเอง เพราะหญิงสาวถูกจับตัวไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD