ตอนที่ 1 เลือกใครดี เคน หรือ คิน

1956 Words
เสียงคีย์บอร์ดดังขึ้นรัว ๆ เมื่อสาวน้อยที่มีอาชีพเป็นนักเขียนได้เริ่มสร้างสรรค์ผลงานเรื่องใหม่หลังจากเรื่องเก่าจบบริบูรณ์ คะนึงนิจพิมพ์ชื่อเรื่องและชื่อนางเอกเสร็จเรียบร้อยก็นึกถึงพระเอกของเรื่องซึ่งมีด้วยกันถึงสองคนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ เคน อัครโภภาคิน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อยากตัด คิน อัครโภภาคิน ออก เพราะทั้งคู่มีบุคลิกที่น่าสนใจมาก ถ้าได้เอามาเป็นพระเอกนิยายสักเรื่องรับรองสาว ๆ ต้องติดเรื่องนี้งอมแงม  แต่ปัญหาคือ เธอจะเลือกใครดีระหว่าง เคน หรือ คิน ทั้งสองคนเป็นพี่น้องท้องเดียวกันที่มีบุคลิกแตกต่างกัน  เคนคือเพลย์บอยตัวพ่อทั้งยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ส่วนคินค่อนข้างเงียบและเก็บตัว เป็นเจ้าของไร่ส้มอันดับหนึ่งของประเทศ กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ ดังขึ้นมารบกวนสมาธิของนักเขียนตัวน้อย คะนึงนิจจึงแสดงอาการเซ็งออกมาทันทีเพราะสมองกำลังแล่น แต่เมื่อเห็นชื่อที่โชว์ขึ้นมาเท่านั้น มือของเธอก็รีบกดรับแล้วตอบรับด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมทันที “สวัสดีค่ะคุณป้า” “สวัสดีจ้ะน้องเพื่อน หนูว่างคุยกับป้าไหมลูก” “ว่างค่ะ คุณป้ามีอะไรให้เพื่อนรับใช้คะ” “รับชงรับใช้อะไรกันเด็กคนนี้ ป้ามีเรื่องจะคุยด้วยแต่อยากคุย ต่อหน้า เย็นนี้หนูมากินข้าวกับป้าได้ไหมลูก” “ได้ค่ะ เดี๋ยวเย็นนี้หนูไปหาค่ะคุณป้า” “จ้า แล้วเจอกันนะลูก เดี๋ยวป้าให้พี่เคนเข้าไปรับ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เกรงใจ เพื่อนไปเองดีกว่า” “เกรงใจอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น ป้าให้พี่เคนเข้าไปรับนะลูก” “ก็ได้ค่ะ แต่เกรงใจพี่เคนจัง” “ไม่ต้องเกรงใจหรอก คอนโดหนูเป็นทางผ่านของพี่เขาอยู่แล้ว” “งั้นก็โอเคค่ะ เจอกันเย็นนี้นะคะคุณป้า” “จ้า แล้วเจอกัน ป้าวางสายนะลูก” “ค่ะ สวัสดีค่ะคุณป้า” หญิงสาววางสายเรียบร้อยใบหน้าขาวใสไร้สิวก็แย้มรอยยิ้มออกมา น้อยครั้งนักที่เธอจะได้เจอเคนจึงดีใจเป็นพิเศษ เพราะการนั่งรถ ไปกับชายหนุ่มครั้งนี้จะช่วยให้เธอตัดสินใจเลือกพระเอกนิยายของตนเองได้ พอเลือกเสร็จเธอก็จะเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ เพื่อเก็บข้อมูลก่อนที่จะลงมือเขียนนิยายจริง ๆ ตกเย็นรถคันหรูของเคนก็ขับมารับคะนึงนิจตามคำสั่งของมารดา หลังจากที่หญิงสาวขึ้นรถเรียบร้อยเขาก็หันมาถามเธอตามประสาคนรู้จักกัน แต่พักหลัง ๆ ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเพราะตนเองยุ่งวุ่นวายทั้งเรื่องงานและเรื่องคู่ควง “เป็นไงบ้างเรา ไม่ได้เจอตั้งนาน” ชายหนุ่มหันมามองหน้า สาวน้อยที่มีอายุห่างกับตนเองค่อนข้างมากแล้วยิ้ม ก่อนที่จะถามสารทุกข์สุกดิบ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเจอเธอครั้งสุดท้ายตอนไหน น่าจะประมาณห้าหกเดือนก่อน แต่สิ่งเดียวที่เธอมีอยู่ไม่เคยเปลี่ยนคงเป็นเรื่องของน้ำหนัก คะนึงนิจในวันวานเจ้าเนื้อแค่ไหนปัจจุบันก็เจ้าเนื้ออยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง แต่แปลกที่เขากลับรู้สึกว่ามันน่ารักดี “ก็สบายดีค่ะ ตามประสาคนโสด” เธอตอบกลับด้วยท่าทาง สบาย ๆ เหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ของชีวิต ต่างกับบางคนที่คิดว่าการมีคู่ คือเรื่องสำคัญจนลืมไปว่าคนเรามีความสุขได้ด้วยตนเอง “โสดน่ะดีแล้ว สบายจะตาย” “พูดเหมือนพี่เคนโสดเลยนะคะ” “ตามนั้น หึหึ” ก็เขาโสดจริง ๆ จะให้ตอบว่ามีได้อย่างไร ส่วนผู้หญิงที่ควงด้วยก็คบเพื่อฆ่าเวลาตามประสาคนไม่มีพันธะ แต่เชื่อเถอะเมื่อไรที่ตนเอง เจอแม่ของลูก จากเสือจะกลายเป็นแมวให้เมียลูบหัวเล่น ชายหนุ่มคิดแล้วยิ้มบาง ๆ ตรงมุมปากในขณะฟังแขกของมารดาพูดต่อ “โสดแต่ไม่สดใช่ไหมคะ ฮ่า ๆๆๆ เพื่อนเห็นข่าวพี่ควงสาวออกจะบ่อย ถ้าสดนี่แปลกมาก” “พี่ไม่สดแต่พี่แซ่บ สาว ๆ ติดใจกันทั้งนั้น” เขาพูดพร้อมกับยักคิ้วให้คะนึงนิจไปหนึ่งทีด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจทำให้หญิงสาวอายม้วน แก้มทั้งสองข้างแดงอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อจินตนาการไปไกลในช่วงเวลาที่เคนอยู่บนเตียงแล้วมีผู้หญิงสวย ๆ นอนอยู่ใต้ร่างกำยำไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ ก่อนที่สติจะกลับมาแล้วส่ายหน้าอย่างแรง “อี๋ พูดมาได้ไม่อายปาก” “หึ ว่าแต่เราเถอะ ไม่ได้เจอกันนานพูดเก่งขึ้นเยอะมาก กล้าต่อปากต่อคำกับพี่ด้วย ไม่เหมือนเมื่อก่อน เงียบพอ ๆ กับเจ้าคินเลย” “โธ่พี่เคน ก็เวลาเปลี่ยน เพื่อนก็ต้องเปลี่ยนบ้างสิ พี่จะให้เพื่อน นั่งนิ่งเงียบ ๆ เหมือนสมัยก่อนได้ยังไง เดี๋ยวไม่มีข้อมูลหรอก” เธอเผลอหลุดปากเรื่องเก็บข้อมูลทำให้เคนหันมาถามด้วยความสงสัย “ข้อมูล? ข้อมูลอะไร” “อ้อ ก็เป็นข้อมูลทั่ว ๆ ไป ไม่มีอะไรค่ะ แล้วพี่คินเป็นยังไงบ้าง เพื่อนไม่ได้เจอพี่คินนานมากแล้ว” “ก็สบายดี เห็นว่าไร่ส้มไปได้สวย” “แล้วพี่คินโสดไหมคะ พี่เคนรู้ไหม” “น่าจะโสดมั้ง ไม่เห็นคุณแม่พูดอะไรเลย ทำไม สนใจคินมันเหรอ” “สนใจค่ะ สนใจมากด้วย” สนใจสิ ใครไม่สนใจกัน นั่นพระเอกนิยายของเธอเชียวนะ  ถ้าได้ข้อมูลของคินจากปากพี่ชายอย่างเคน  เธอจะได้เลือกถูกว่าจะเอาคนพี่หรือคนน้อง อีกฝ่ายจึงเอ่ยทีเล่นทีจริงเพราะคิดว่าลูกสาวของเพื่อนแม่ชอบน้องชายของตนเองพลางยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้สมกับฉายาเพลย์บอย “พี่ก็โสด เราไม่สนใจบ้างเหรอ” “ใครว่าไม่สน พี่เคนน่าสนใจกว่าพี่คินอีก หล่อ รวย โสด  แถมสายเปย์อีกต่างหาก คุณสมบัติพร้อม” “ฮ่า ๆๆๆ งั้นพี่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” “ยินดีรับฝากค่ะ” หล่อนยิ้มตาเป็นรูปสระอิด้วยความยินดี แม้เคนจะเข้าใจผิดแต่เธอไม่อยากอธิบายเพราะไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญคือชายหนุ่มทั้งสองยังโสด แล้วแบบนี้เธอจะเลือกใครมาเป็นพระเอกดีแต่ดูแล้วพี่เคนน่าสนใจกว่า หญิงสาวคิดในใจขณะที่รถเลี้ยวเข้าไปในรั้วบ้านตระกูลอัครโภภาคิน บ้านหลังใหญ่ที่เธอคุ้นเคยดีนับตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไปช่วงสองปีก่อน บนโต๊ะอาหารภายในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลอัครโภภาคินมีเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยไม่ขาดสายทำให้แขกสาวรู้สึกอุ่นใจทุกครั้ง ที่ได้มาบ้านหลังนี้ ไม่เหมือนกับบ้านของเธอที่เต็มไปด้วยความอ้างว้างจนเธออยู่ไม่ได้แล้วพาตัวเองออกมาอยู่ในคอนโดคนเดียว เหมือนคนไร้ญาติขาดมิตรก็ไม่ปาน “น้องเพื่อนคิดอะไรอยู่ลูก ทำหน้าเศร้าทำไมกัน มีเรื่องอะไรบอกป้าได้นะลูก” น้ำเสียงอาทรของคุณกรรณิการ์ทำให้คะนึงนิจได้สติ ก่อนที่เธอจะตอบก็ได้ยินเสียงของคุณคิงส์แทรกเข้ามาคล้ายหยอกเย้าภรรยาคู่ชีวิต “นั่นน่ะสิ น้องเพื่อนไม่อยากบอกป้าก็บอกลุงได้ เดี๋ยวลุงไปบอกป้าอีกที” “คืนนี้คุณพี่อยากนอนนอกห้องใช่ไหมคะ” ภรรยายังสาวค้อนควักสามีเล็กน้อยทำให้เคนและคะนึงนิจอดยิ้มตามไม่ได้ ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยาตัวอย่างจริง ๆ แต่งงานกันมาเป็นสิบปีแต่ความรักไม่เคยจืดจาง หาได้ยากนักกับคู่ชีวิตในปัจจุบัน “ฮ่า ๆๆๆ ดูสิ พูดแค่นี้ก็งอนแล้ว ถ้าเป็นตอนสาว ๆ เจ้าเคน กับเจ้าคินมีน้องเป็นโขยงแน่” “ผมเห็นด้วยครับคุณพ่อ” “พูดอะไรกันหนุ่ม ๆ เกรงใจน้องเพื่อนบ้างสิ” “ไม่เป็นไรค่ะ ตามสบายเลย ปกติเพื่อนอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้คุยกับใคร เห็นแบบนี้แล้วคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ขึ้นมา” เธอพูดในขณะที่สมองหวนคิดถึงอดีตของตนเองยามที่พ่อและแม่มีชีวิต ในช่วงนั้นชีวิตของเธอ ราวกับเจ้าหญิง อบอุ่นใจตลอดเวลา คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นจะพรากพ่อแม่ไปจากเธออย่างไม่มีวันกลับ “อย่าคิดมากเลย น้องเพื่อนยังมีลุงกับป้า พี่เคน พี่คิน ถ้ามีอะไรบอกพวกเราได้ตลอด” “ขอบคุณค่ะคุณป้า เห็นพี่เคนบอกว่าคุณป้าจะไปหาพี่คินที่ไร่เหรอคะ” เพราะไม่อยากให้คนที่นั่งร่วมโต๊ะรู้สึกเศร้าไปด้วย หญิงสาว จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “ใช่แล้วลูก ป้าให้หนูมาหาเพราะเรื่องนี้แหละ ป้ากับลุงอยากชวนหนูไปด้วย ถือว่าไปพักผ่อนหลังเรียนจบ” “อ้าว เราเรียนจบแล้วเหรอ พี่คิดว่าเพิ่งเข้าปีหนึ่ง” เคนเอ่ยถามด้วยความตกใจ คะนึงนิจหน้าตาอ่อนเยาว์มาก คาดไม่ถึงเลยว่า เธอจะเรียนจบมหาลัยแล้ว “พี่เคนก็ เพื่อนหน้าเด็กขนาดนั้นเลยเหรอคะ” คนถูกชมยิ้มตาหยีด้วยความภาคภูมิใจในความอ่อนเยาว์ของใบหน้า ถ้าลดน้ำหนักให้น้อยลงกว่านี้ก็คงจะดี เธอได้แต่คิด พลางก้มมองพุงน้อย ๆ ของตนเองและนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีใครเข้ามาจีบล่ะมั้ง สาวอวบน้ำหนักห้าสิบแปดกับความสูงเกือบ ๆ ร้อยหกสิบ ไม่สมส่วนเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ซีเรียส  โสดก็มีความสุขดีไม่เห็นต้องสนใจใครเลย “จริง ถ้าไม่บอกไม่รู้เลย ใช่ไหมครับคุณแม่” “จ้า พ่อคนปากหวาน น้ำตาลเรียกพี่ น้องเพื่อนว่าไงลูก ไปด้วยกันไหม” “ไปค่ะ เพื่อนไม่ได้เจอพี่คินมานาน อยากเจอพี่คินเหมือนกัน” “เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ งั้นเราไปมะรืนนี้เลยก็แล้วกันเนอะ เคนไปส่งน้องกลับคอนโดด้วย” “รับทราบครับคุณแม่ กระผมจะดูแลว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณแม่เป็นอย่างดี” “พี่เคนพูดอะไรกัน สะภงสะใภ้ที่ไหน” “แต่ป้ายินดีนะลูก ถ้าหนูจะมาเป็นสะใภ้” “คุณป้าอย่าพูดเล่นสิคะ เดี๋ยวเพื่อนคิดจริง ๆ พี่เคนกับพี่คิน จะเดือดร้อน คิกคิก” “ป้าไม่ได้พูดเล่น แต่ป้ายินดีมาก ใช่ไหมคะคุณพี่” “ใช่จ้ะ ลุงเองก็ยินดีมาก เลือกเอาเลยลูก พี่เคนก็โสด พี่คินก็โสด แต่ลุงว่าเอาพี่คินดีกว่า รายนั้นสาว ๆ ไม่ห้อมล้อมเหมือนคนนี้ ปวดหัวตายเลย” “คุณพ่อครับ ผมเคนลูกพ่อนะครับ” จบประโยคของลูกชายคนโตคนเป็นแม่ก็หัวเราะออกมาด้วยความขบขันไม่เว้นแม้กระทั่งคะนึงนิจ ตอนนี้หัวใจของเธอเอนเอียง ไปทางเคนแล้ว แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้ในตอนนี้ ต้องรอเจอคินเสียก่อน ระหว่างเจ้าของไร่ส้มกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ใครกันจะได้เป็นพระเอกนิยายของตนเอง “แล้วเจอกันนะคะพี่คิน” หญิงสาวคิดในขณะนั่งฟังสามคนพ่อแม่ลูกคุยหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน โดยหารู้ไม่ว่าผู้ชายที่เธอสนใจอีกคนไม่ได้โสดตั้งนานแล้ว เพราะโดนเด็กสาวรายหนึ่งจับทำสามีเรียบร้อย แต่พ่อแม่และพี่ชายของคินไม่รู้เท่านั้นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD