ร้อยรักเมียเบอร์2 บทที่5.

1599 Words
น้ำอิงน้ำตาตก คำหวานหู เหมือนคมมีดที่กรีดบนก้อนเนื้อหัวใจของเธอ เขาไม่มีทางเป็นสามี เป็นพ่อของลูกเธอได้ ถนนที่เธอเดิน กับถนนที่ภีรพลเดินมันคนละเส้นทางกัน ต่อให้เธอนึกฝันเอาเอง มันก็จะเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ น้ำอิงแค่นยิ้มหยันตัวเอง พลางยกมือดันแผ่นอกแน่นตึงของภีรพล ชายหนุ่มปัดมืออ่อนนุ่มนั่น เขาเอื้อมรั้งเสื้อสีเรียบบนร่างกายอวบอุ่น ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความผิดบาป เมื่อกาม ราคะ บังหูบังตาจนมืดมัว... ภีรพลดันเรือนกายอวบงามของน้ำอิงจนล้มคว่ำไปบนเตียงนอน หล่อนรีบพลิกตัวกลับ ปรามบุตรชายเจ้าของบ้านเสียงสั่น “คุณภีคะ!” “เงียบได้แล้วอิง หรือเธอจะให้คนงานในบ้านรู้เรื่องของเราทุกคน” ชายหนุ่มตะคอก กระโจนเข้ารวบร่างอวบอัด พร้อมทั้งตะโบมจูบแบบไม่นับครั้ง ฟอนเฟ้นความครัดเคร่งด้วยสองมือ จนน้ำอิงผวาเยือก ลำตัวแข็งทื่อ “อย่าใช้ลูกไม้นี้ไม่ได้ผลหรอกนะอิง” ชายหนุ่มกระซิบริมใบหู เขาฉกปลายลิ้นเลียไล้จนน้ำอิงขนลุกซู่!! “อย่าทำแบบนี้กับอิง ได้โปรดเถอะค่ะ” หญิงสาวพยายามวิงวอน เรื่องน่าอดสูนี่ไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำ ที่แล้วไปแล้วน้ำอิงจะถือว่ามันเป็นกรรม แต่ความต่ำตมนั่น ไม่ควรเกิดขึ้นอีกครั้ง หากเขายังมีความเป็นมนุษย์!! ภีรพลพลิกกายน้ำอิงนอนคว่ำ รั้งสะโพกผายให้กระดกขึ้น ก่อนจะแทรกความแข็งขึงที่พรั่กพร้อม เขาดันบั้นเอวช้าๆ สูดปากครางแผ่วๆ เมื่อความคับแคบรูดรัดแก่นกายแข็งชัน “อ่าว์! เยี่ยม เธอยังแน่นเหมือนเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่มีผิด” เสียงคำรามเยี่ยงสัตว์ป่าดังก้องห้องนอนแคบๆ น้ำอิงซุกใบหน้ากับที่นอนนุ่ม ปล่อยสายน้ำอุ่นร้อนไหลปริ่มออกจากดวงตา ในขณะที่สัดส่วนความเป็นหญิงถูกกระทุ้งหนักๆ เธอกัดฟันกรอดๆ เจ็บร้าวจนน้ำหูน้ำตาเล็ด น้ำตารินไหลเงียบๆ เรี่ยวแรงอันน้อยนิดหดหาย เธอไม่มีแรงมากพอที่จะจะทานกำลังคนหื่นไว้ได้ ทำได้แค่เพียงนอนนิ่งๆ ปล่อยให้ภีรพลข่มเหงจนพอใจ เวลากว่าสามสิบนาทีเป็นนรกสำหรับน้ำอิง แต่สำหรับภีรพลมันคือสรวงสวรรค์ เขาได้ปลดปล่อยความกำหนัด สุขซ่านในรสสัมผัสที่ห่างเหินไปนาน “หากเธอไม่กลัวว่าคุณแม่ฉันจะเสียใจ เธออยากบอกใครก็ได้นะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้น่ะ” ชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม หลังอิ่มเอมในรสวาทแสนหวานจากคนคุ้นเคยจนพอใจ ภีรพลปรายตามองเรือนกายเปลือยเปล่าที่นอนคว่ำอยู่กลางเตียงด้วยความพึงพอใจ เด็กในบ้าน หน้าตาขี้ริ้ว ตัวดำ ผอมเกร็ง ผมบนศีรษะสกปรกจนต้องเบือนหน้าหนี เนื่องจากไม่มีใคร ไม่มีคนในบ้านใส่ใจ...ไม่คิดว่าพอโตเป็นสาว ความสวยจะเตะตา แม้จะไม่เคยประทินผิว หรืออบน้ำปรุง อบสมุนไพรเหมือนลูกหลานคนมีสตางค์ น้ำตาคือเพื่อนปลอบใจในยามนี้ น้ำอิงกลั้นสะอื้น ยกมืออุดปากไว้ เมื่อไม่ต้องการให้เสียงร่ำไห้สะดุดหูของภีรพล เขาไม่ได้เวทนาเธอ หากแต่จะซ้ำเติมเธอเสียอีก พร่างฟ้านั่งตากลมอยู่ที่ระเบียง คงเป็นเพราะไม่คุ้นหลายๆ อย่าง เธอปรับตัวไม่ทันเรื่องเวลา...มันเลยทำให้เธอข่มตาหลับไม่ลง ทั้งๆ ที่อ่อนเพลียและอยากพักผ่อน หญิงสาวเพิ่งวางสายจากบิดา คุยกันในหลายๆ เรื่องเจ้าสัวประกาศก็ยังเหมือนเมื่อก่อนไม่ผิดเพี้ยน ท่านตามใจและเห็นชอบ หากสิ่งนั้น เธอทบทวนดีแล้ว มีคำติงเล็กๆ พลอยให้พร่างฟ้าเก็บมาคิด ถึงภีรพลจะไม่มีรอยตำหนิให้เธอเห็น แต่เธอก็ยังสะดุดใจไม่ได้ บิดาที่รักลูกยิ่งชีพ แบบเจ้าสัวประกาศบิดาของเธอ ท่านจะไม่พูดอะไรก็ตามที่ทำร้ายจิตใจบุตรสาว แต่ครั้งนี้ มีคำพูดแฝงแง่คิดให้พร่างฟ้าเอามานั่งทบทวน ‘แน่ใจเหรอ...ว่าไอ้หนุ่มนั่นไม่ได้ซุกใครไว้ข้างหลัง’ นับตั้งแต่รู้จักภีรพลมา เขาออกแนวหนุ่มรักสนุก เที่ยวเตร่เฮฮาในหมู่เพื่อน และค่อนข้างเฟิร์ต แต่หลังจากที่เขาแสดงตัวว่าจะตั้งหน้าตั้งตาจีบเธอ พฤติกรรมเหล่านั้น เธอก็ไม่เคยเห็นอีก พร่างฟ้าจึงวางใจ ยอมคบกับภีรพลในฐานะเกินเพื่อนสนิท และวันที่เธอแน่ใจ คือวันที่เขาตัดสินใจรอ...รอให้เธอกลับบ้านเกิดพร้อมเขานั้นเอง ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ แพ้การตื๊อแบบสู้ไม่ถอย อีกทั้งภีรพลทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย เขาไม่เคยมีความลับ ทุกอย่างที่เขาเคยผ่าน ประสบการณ์ที่เขาเคยผจญ รายละเอียดเหล่านั้น ถูกเล่าให้เธอฟังจนหมด พร่างฟ้าจึงเชื่อใจ แต่เพราะคำเตือนของบิดา...ทำให้เธอคิดใหม่อีกที เธอวางใจคนเจ้าชู้...ได้จริงเหรอ? กำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็มาสะดุดเพราะเห็นอะไรบางอย่าง เงา ของใครบางคนเดินตะคุ่มๆ ตามแนวร่มไม้ ใช้ความมืดกำบังกาย ก่อนจะเปิดประตูด้านข้างเข้ามาด้านใน เท่านั้นเอง...พร่างฟ้าก็รู้แล้ว ว่าคนที่ทำลับๆ ล่อๆ นั่นคือใคร? บนตึกใหญ่ส่วนของเจ้านาย นอกจากหวายแล้ว...จะไม่มีลูกจ้างคนใดเข้ามายุ่มย่ามหากไม่มีคำสั่ง นั่นคือคำบอกเล่าของภีรพลระหว่างที่นั่งรอคุณหญิงพวงผกามารดาของเขาตื่นตอนบ่าย เวลาหลายชั่วโมงนั่น ทำให้เธอรู้จักกฎเกณฑ์ในบ้านจันธกาจเป็นอย่างดี เรียวคิ้วโก่งขมวดแน่น...เธอมีเวลาหลายวัน สำหรับการสืบเรื่องนี้ หากไม่มีความกระจ่าง การตัดสินใจของเธออาจจะเปลี่ยนไป พร่างฟ้ายึดตามแบบบิดา-มารดา ทั้งสองท่านเป็นต้นแบบที่เธอเคารพและรักยิ่ง เจ้าสัวประกาศ ไม่เคยหยุดรักมารดาของเธอสักนาที แม้คุณประไพมารดาจะจากโลกนี้ไปตั้งแต่เธอ เริ่มเข้าสู่วัยสาว ด้วยโรคยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่มักจะเป็น มันเป็นเพราะวิวัฒนาการที่เติบโตไปอย่างรวดเร็ว ระบบธรรมชาติถูกบิดเบือน มีสิ่งปนเปื้อนในอาหารการกิน มันจึงทำให้สิ่งเหล่านั้นเข้าไปสะสมในร่างกาย และแสดงผลออกมาตอนที่ร่างกายอ่อนแอ... คำสอนของแม่ ดังก้องอยู่ในรูหู คนที่รักเราจะไม่มีวันทำให้เราเสียใจ เพราะหากคนที่รักเสียใจ ตัวต้นเหตุควรเสียใจยิ่งกว่า บิดาของเธอทำให้เห็น พร่างฟ้าจึงเชื่อถือเรื่องความรัก ผัวหนึ่ง เมียหนึ่ง ชีวิตคู่ถึงจะไม่มีปัญหา หากมีมือที่สามแทรกเข้ามา ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมาเช่นกัน เพราะทันทีที่เธอยอม...มีสามได้ สี่ ห้า ก็จะตามมา เมื่อมันเป็นสันดานของคนมักง่าย ความคิดต่ำๆ เรื่องใต้สะดือจะนำพาหายนะมาสู่ครอบครัว หญิงสาวกัดริมฝีปากล่าง...ที่นี่คืออาณาจักรของภีรพล หากเธอต้องการสืบ คงต้องหาแนวร่วม ก๊อกๆ “ฟ้าๆ นอนหรือยังครับ?” แสงไฟส่องลอดใต้บานประตู ภีรพลเลยต้องทดสอบเรียกสาวคนรัก หล่อนนอนหลับจนลืมปิดไฟ หรือเพราะว่ายังนอนไม่หลับ และอาจจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้าก็ได้ “...” ไม่มีเสียงตอบรับ ภีรพลลองแตะลูกบิด แต่มันล็อกจากภายใน ชายหนุ่มเลยพอยิ้มออก สันนิษฐานเอาง่ายๆ พร่างฟ้าคงแปลกที่เลยนอนทั้งๆ ที่ไฟ้ฟายังเปิดสว่างแจ้ง... หญิงสาวตะแคงหูฟัง เธอได้ยินเสียงผิวปาก กับเสียงย่ำเท้าเบาๆ ก่อนที่เสียงเปิดปิดประตูจะดังตามมา??? งงในงง?? คำถามมากมายวิ่งชนกันวุ่นวายในหัวสมอง ภีรพลลงไปทำอะไรข้างล่าง ทั้งที่เขาบอกเธอว่าง่วงและอยากนอน พร่างฟ้าเข้าใจว่าเพราะความอ่อนเพลียที่นั่งเครื่องบินมาหลายชั่วโมง แต่คนนอนง่าย ปรับตัวเร็วอย่างภีรพลเวลาเลยไม่มีผล แต่สิ่งที่เธอเห็นล่ะคืออะไร? จากที่เห็นสาวใช้วัยรุ่นในจันธกาจมีหลายคน และเธอคิดว่าการหาสมัครพรรคพวกคงไม่ใช่เรื่องยาก หญิงสาวเลยเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเตียง หลังคิดแผนการจับผิดอยู่ค่อนคืน น้ำอิงตื่นเวลาเดิม แม้ร่างกายจะยังปวดร้าวอยู่ไม่น้อย เธอรีบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมมื้อเช้าให้คุณหญิงพวงผกา กับการเตรียมเอกสารที่ท่านต้องใช้ตอนไปทำงาน ทุกย่างก้าวตอนขยับตัว จุดซ่อนเร้นประท้วงเธอหลายครั้ง มันเจ็บแปลบจนต้องนิ่วหน้า เมื่อภีรพลไม่ได้ออมแรง เขาย่ำยีเธอโดยไม่คิดถนอม เกล็ดน้ำตาเอ่อท้นขึ้นมาทันใด น้ำอิงรีบยกมือกรีดรอยน้ำตานั่น พร้อมๆ กับการมองเห็นเงาร่างผู้หญิงอีกคนของภีรพลเดินตรงมาหา “น้ำอิงใช่มั้ยจ้ะ” เสียงหวานถามแบบสุภาพ “ค่ะ มีอะไรจะใช้อิงเหรอคะคุณฟ้า?” น้ำอิงเสหลบตา แสร้งทำเป็นวุ่นวายกับการจัดอาหารใส่ถุง “หวายบอกว่าอิงใส่บาตรแทนคุณหญิงแม่ทุกเช้า ขอฟ้าไปใส่บาตรด้วยคนนะ” สาวสูงศักดิ์ยิ้มประจบ...เธอห่างเหินการทำบุญสุนทาน เมื่อมีโอกาสเลยไม่อยากรั้งรอ “ได้สิคะ” น้ำอิงยิ้มรับแบบจริงใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD