ตึง!
‘นี่มัน… เรื่องอะไรกัน?!!’ เสียงคุ้นเคยของใครสักคนกังวานเข้ามาในหัวสมองที่กำลังหนักอึ้งของฉัน ก่อนจะตามมาด้วยฝ่ามือเย็นเฉียบพยายามฉุดเรียกสติเพื่อให้ฉันลืมตาขึ้น เสียงเดิมโวยวายและพยายามปลุกฉันอย่างวุ่นวาย นั่นทำให้ฉันจำใจต้องฝืนลืมตาขึ้นมา แม้มันจะยากลำบากเพียงไหนก็ตาม
‘อื้อ… อะไรอ่ะม้า บีจะนอน’ ว่าจบก็พลิกตัวหนีไปอีกทางด้วยความงัวเงีย จังหวะนั้นแขนของฉันพาดลงบนที่นอนที่ควรจะว่างเปล่า หากทว่ากลับมีอะไรบางอย่างเข้ามาแทนที่ บางอย่างที่ฝ่ามือของฉันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและนุ่มลื่น คล้ายกับผิวกายของแผ่นหลังใครสักคน ซึ่งมันไม่ควรจะมาอยู่ตรงนี้
พรึ่บ!
ฉันถลันตัวลุกขึ้นนั่งบนที่นอนด้วยความเร็วแสง สองตาเบิกกว้างมองตรงไปทางร่างเล็กของผู้เป็นแม่ ใบหน้าที่ยังเค้าความสวยเฉียบเต็มไปด้วยความกังวล และตื่นตกใจ
อะไร… กะ… เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ
‘มะ ม้า…’ น้ำเสียงแหบแห้งเปล่งออกมาเบา ๆ สายตาจับจ้องดวงตาคมเฉี่ยวที่กำลังหลุบมองอะไรบางอย่างข้างกายฉัน ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ไม่กล้าจะมองตามสายตาของแม่เลย ตอนนี้ดูเหมือนสมองของฉันเริ่มกลับมาทำงานแล้ว และมันโคตรจะไม่โอเคเลยกับความรู้สึกแบบนี้
‘บี… นี่ลูก…’
‘อะ อะไร… คะม้า…’ ฉันกะพริบตาปริบ ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเลย สองมือที่กำลังรวบผ้านวมแนบอกเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ฉันไม่อยากคิดไปเองหรอกนะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหวิว ๆ ตามร่างกายแปลก ๆ มันโล่ง ๆ คล้ายกับไม่ได้สวมใส่อะไรเลย
‘นั่นใช่… นาฑีหรือเปล่า?’
หะ! อะไรนะ?!
คำถามของแม่เหมือนหมัดน็อคเอ้าท์กันกลางอากาศ มันช่วยตอกย้ำให้รู้ว่าบนที่นอนแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ร่างอันเปลือยเปล่าของฉันคนเดียว แต่ยังมีร่างของใครอีกคนนอนอยู่ข้างกันด้วย เขาที่ฉันไม่กล้าหันไปมอง
ไม่จริง… นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉัน… เมื่อคืนฉันเมาหนักมากจนแทบไม่เหลือสติเลยด้วยซ้ำ จำไม่ได้ว่าเข้ามานอนที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้
เมื่อสัมผัสถึงความอึดอัดและความกดดันจากสายตาของแม่ ฉันจึงจำใจหันกลับมามองด้านข้างตัวเอง แผ่นหลังเปลือยเปล่าของผู้ชายคนหนึ่งทอดกายอยู่ตรงนั้น ลมหายใจของฉันติดขัดขณะจับจ้องรอยสักลวดลายสวยงามบนเรือนร่างของเขา ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อย สายตาเลื่อนขึ้นมาหยุดลงตรงเส้นผมสีดาร์กช็อกโกแลตแสนคุ้นตา
ไม่… เป็นไปไม่ได้… มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ!!
‘นั่น… เวฬาไม่ใช่เหรอ?’
‘…’
‘ผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงลูกคือเวฬาใช่ไหมบีลีฟ?!!’
และโลกของฉันก็พังลงนับตั้งแต่เช้าวันนั้น…
.
.
.
หลายวันต่อมา…
‘อะไรนะม้า! แต่งงาน?! ม้าจะให้บีแต่งงานกับใครนะคะ?!’ ฉันวางเสื้อกาวน์ในมือลงบนโซฟาแล้วหันกลับมาสบตากับแม่ตรง ๆ พ่อเดินลงจากบันไดบ้านมาหยุดยืนข้างแม่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แม้แต่เจ้ลันตาที่นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ยังหันมามองพวกเรา
‘ม้าจะให้บีแต่งงานกับเวฬา’
วะ… ว่าไงนะ…
‘ทำไมคะ?! ทำไมบีต้องแต่งงานกับหมอนั่นด้วย?! บีกำลังจะหมั้นกับเฮียฑีนะม้า!’ ฉันโวยวายเสียงดังใส่แม่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เจ้ลันตาลุกขึ้นมาจับไหล่ฉันเบา ๆ คล้ายเรียกสติ พ่อมองฉันสลับกับแม่สักพักก็เดินเข้ามาลูบผมฉันด้วยความอ่อนโยน
‘ใจเย็น ๆ นะคะคนเก่งของป๊า ฟังเหตุผลของม้าก่อนนะลูก ถึงป๊าจะไม่ชอบใจนัก แต่มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้’ พ่อกาฬวาตของฉันยังคงความอบอุ่นทุกสถานการณ์เสมอ และมันสามารถดับไฟร้อนลงได้อย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนอารมณ์ของฉันจะเย็นลงกึ่งหนึ่งทันที
‘ทางออกอะไรกันคะป๊า ให้บีไปแต่งงานกับแฝดน้องในขณะที่กำลังจะหมั้นกับแฝดพี่เนี่ยนะคะ?’ ฉันถามอย่างไม่เข้าใจมาก ๆ พ่อกับแม่เป็นอะไรไป ทำไมอยู่ ๆ ถึงมาพูดแบบนี้กับฉัน
‘แต่แฝดน้องที่บีกำลังพูดถึงน่ะ เขา…’ แม่เม้มปากเล็กน้อย สีหน้าลำบากใจที่จะพูด ‘เขานอนกับบีแล้วนะลูก’
‘อะไรนะคะ?’ ฉันชะงักไปกับคำพูดของแม่ พ่อเบือนหน้าหนีไปอีกทางเหมือนยังรับกับเหตุการณ์นั้นไม่ได้ ฉันเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันทีเลย เข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ถึงเปลี่ยนใจกะทันหันแบบนี้ แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ พ่อกับแม่จะทำแบบนี้ไม่ได้ ‘ไม่เอานะ บีไม่แต่งกับเขา บีไม่ได้รักเขานะม้า’
‘ไม่แต่งไม่ได้นะบีลีฟ ลูกเป็นของเวฬาไปแล้ว เขาต้องรับผิดชอบลูก’
‘แต่บีไม่ต้องการค่ะ! บีไม่อยากแต่งกับเวฬา!’
ไม่ได้เด็ดขาด… แม่จะบังคับฉันแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดนะ! ฉันกำลังจะหมั้นกับนาฑีแล้วแท้ ๆ ความฝันของฉันกำลังจะสมหวังอยู่แล้ว…
ทำไมล่ะ… ทำไมเรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้!
‘แต่บีต้องแต่ง…’
‘…’
‘ม้าจะไม่ยอมให้บีท้องไม่มีพ่อเด็ดขาด!!’
.
.
.
เฮือก!
สองตาอันแสนเหนื่อยล้าลืมขึ้นโพล่งท่ามกลางความมืดมิดภายในห้องอันเย็นเฉียบ แรงหายใจหอบเหนื่อยสร้างความอึดอัดให้กับฉันอย่างมาก ร่างกายเหมื่อยล้าอ่อนเพลียไปทั่วทุกส่วน เมื่อวานฉันคงเมามากไปหน่อยสินะ ดื่มหนักทีไรร่างพังแบบนี้ทุกทีเลย
เดี๋ยวนะ… ว่าแต่ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
หลังจากเรียกสติกลับมาจนเกือบครบ สองมือพยุงตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สายตากวาดมองไปทั่วห้อง ความรู้สึกหนัก ๆ ตรงช่วงหน้าท้องเรียกความสนใจจากฉัน สองตาหลุบต่ำมองอะไรบางอย่างที่กำลังวางพาดอยู่บนร่างกายตัวเองก่อนจะนิ่งงันไปราวถูกสะกด
นี่มัน… ท่อนแขนของใครกัน… ใครกำลังนอนกอดฉันอยู่?
สายตาเลื่อนจากท่อนแขนเปลือยเปล่าไล่ไปตามรอยสักสวยงามลามไปยังแผ่นหลังแกร่ง หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งกับความใกล้ชิดราวกับเดจาวู เรือนผมสีดาร์กช็อกโกแลตปรากฏให้เห็นพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาครึ่งเสี้ยวที่กำลังหลับใหล
เหมือนกับในความฝันเลย… มันเหมือนกับคืนบ้า ๆ นั่นไม่มีผิด… จะผิดก็ตรงที่สถานะระหว่างเราตอนนี้เปลี่ยนไป…
พลั่ก!