EP.06 #ฆ่าเชื้อด้วยไฟ

1173 Words
เฮือก!! หากทว่า… ฉันคิดยังไม่ทันจบ ร่างทั้งร่างกลับต้องขนลุกชันทั้งตัวเมื่อถูกริมฝีปากกรุ่นร้อนซุกไซ้ลงมาอย่างถือวิสาสะ เวฬากดจูบหนัก ๆ ลงบนลำคอและเนินอกของฉันราวกับคนอดอยากปากแห้งเหลือเกิน สัมผัสของเขาสร้างความปั่นป่วนให้กับสมองของฉันมาก มันวาบหวามและร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก พาลให้สติสัมปชัญญะของฉันจะดับลงเสียดื้อ ๆ บ้าจริง! ไม่นะ! ห้ามเคลิ้มเด็ดขาดเลยนะบีลีฟ! ฉันสะบัดความว้าวุ่นแสนวาบหวามนั่นออกจากสมองพร้อมกับพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อผลักดันร่างสูงออกไป มันช่างไม่ต่างจากการใช้มือเปล่าผลักก้อนหินยักษ์เลย เวฬาแทบไม่สะเทือนสักนิดจนเรี่ยวแรงของฉันเกือบจะหมดลงก่อนสมองจะกลับมาทำงานอีกครั้ง พร้อมกับแผนการบางอย่างผุดเข้ามาในหัว “อื้อ… นุ่มนวลกับฉันหน่อยสิเวฬา” ฉันครางเสียงต่ำขณะลูบไล้ฝ่ามือเล็กลงบนท่อนแขนแกร่งช้า ๆ เวฬาหยุดชะงักริมฝีปากที่กำลังขบเม้มเนินอกของฉันเล็กน้อย สีหน้าของเขาแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดกับท่าทีเปลี่ยนไปของฉัน และเมื่อเห็นว่าเขายังคงนิ่งงัน ฉันจึงจัดการพลิกร่างสูงนอนลงก่อนตัวเองจะขึ้นมาทาบทับเขาจากด้านบนแทน… แหม… มันช่างเป็นท่าที่ติดเรตอะไรเยี่ยงนี้ “นี่เธอ…” “ชู่ว… นายชอบให้รุกไม่ใช่เหรอ…” ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนริมฝีปากหนาเบา ๆ เพื่อหยุดเสียงพูด ฉันงัดมารยาหญิงร้อยกระบวนท่าขึ้นมาอ่อยเวฬาอย่างที่ไม่คิดว่าชาตินี้ชีวิตนี้ฉันจะทำ แต่เพื่อการเอาคืนที่เหนือกว่าฉันจึงต้องจำใจงัดมันขึ้นมาใช้ สงสัยฉันจะติดเชื้อขี้อ่อยมาจากยัยเนตรแน่ ๆ “ซี๊ด…” เสียงคำรามต่ำดังขึ้นพร้อมกับปลายนิ้วเรียวเล็กที่เริ่มซุกซนลงบนหน้าท้องแกร่ง ชายเสื้อตัวบางถูกถลกขึ้นช้า ๆ จนมันหลุดออกจากร่างหนาสุดฮอต ฉันกรีดยิ้มอย่างพึงพอใจที่สามารถทำให้ผู้ชายใต้ร่างคล้อยตามโดยง่าย เสื้อหนังในมือถูกม้วนก่อนจะโยนมันลงบนพื้น เวฬาเหลือบมองเล็กน้อยแต่ฉันไม่ปล่อยโอกาสให้เขารู้ตัวหรอก “อ่า…” มือเล็กแกะเข็มขัดออกพร้อมกับค่อย ๆ ปลดกางเกงยีนตัวหนาของเขาออกช้า ๆ ฉันจ้องตากับนัยน์ตามังกรแสนร้ายด้วยความเย้ายวนสุดฤทธิ์ ฝ่ามือค่อย ๆ ลูบไล้สัมผัสหน้าท้องแกร่งที่แน่นไปด้วยซิคแพคแน่นขนัดของเขาเพื่อปั่นป่วนสติอันเหลือน้อยนิดให้มันกระเจิงไปมากกว่าเดิม ฉันลากไล้ปลายนิ้วอยู่อย่างนั้นสักพักก็สามารถปลดกางเกงของเขาออกจนพ้นตัวได้สำเร็จ แล้วจัดการโยนมันลงไปกองกับเสื้อหนังของเขาอีกตัว จากนั้นค่อย ๆ ผละตัวออกจากร่างหนาช้า ๆ เพื่อถอยลงมายืนบนพื้น “เธอทำอะไรน่ะบีลีฟ… ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ” เขาเว้าวอนฉันทางสายตา สีหน้าของเวฬาตอนนี้โคตรจะว้อนท์ฉันเลย เห็นแล้วอยากจะถ่ายคลิปเอาไว้จริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าภารกิจของฉันมันยังไม่จบอะนะ เขากำลังต้องการฉันมาก และนั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการให้เขาเป็นเช่นกัน “แหม ใจเย็น ๆ สิ ฉันยังไม่ได้ถอดเลยนะ” ฉันกรีดยิ้มเซ็กซี่ขณะสองมือบรรจงเปิดเสื้อกาวน์บนร่างกายตัวเองออกช้า ๆ เวฬาจับจ้องทุกการกระทำของฉันด้วยสายตาร้อนแรงจนแทบจะแผดเผาทั้งร่างของฉันได้เลย ฉันเห็นริมฝีปากหนาเม้มนิด ๆ ราวกับกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ดิบของตัวเองเพื่อไม่ให้พุ่งใส่ฉัน มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกชนะ ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชาย… อารมณ์มักอยู่เหนือเหตุผลเสมอ… และนั่นคือความพ่ายแพ้ของเวฬาในวันนี้! “อ่า… ฉันอายจัง นายอย่าจ้องแบบนั้นสิเวฬา” “อายทำไม ฉันยังไม่เห็นอายเลย” ย่ะ ก็นายมันหน้าด้านไง! ฉันก่นด่าเขาในใจขณะใบหน้ายังคงยิ้มหวานให้ “นี่ฉันอายจริง ๆ นะ นายหลับตาก่อนสิ” ฉันอ้อนเขาด้วยสายตาและน้ำเสียง “นะ… ฉันจะได้รีบถอดเร็ว ๆ ไง” เวฬามองฉันชั่วครู่ก่อนจะยอมหลับตาลงอย่างว่าง่าย นั่นเรียกรอยยิ้มร้ายกาจจากฉันได้ในทันที สองเท้าก้าวไปทางด้านข้างพลางก้มหยิบกองเสื้อผ้าของเวฬาขึ้นพร้อมขวดแอลกอฮอล์ที่ฉันเล็งเห็นเมื่อครู่ ก่อนจะเดินไปทางอ่างล้างหน้าซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียง เสื้อผ้าของเขาถูกโยนลงในอ่าง ตามด้วยการเปิดขวดแอลกอฮอล์แล้วเทราดมันลงไปในนั้นจนหมดขวด “บีลีฟ! นั่นเธอจะทำอะไรวะ?!” น้ำเสียงตื่นตกใจดังมาจากด้านหลัง ฉันรีบหันกลับไปมองเวฬาซึ่งกำลังจะลุกจากเตียงด้วยสภาพบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว รอยยิ้มร้ายกรีดบาง ๆ พร้อมกับยื่นมือไปทางอ่างก่อนจะ… กริ๊ก… “ฆ่าเชื้อด้วยไฟหน่อยดีไหมเวฬา?” “ทำบ้าอะไรวะ! เธอจะเผาเสื้อฉันเหรอ! นั่นมัน Lanvin เลยนะเว้ย!” ใช่แล้ว ตามที่เขาพูดเลย ฉันกำลังจะเผาเสื้อผ้าของเวฬาด้วยไฟแช็กกับแอลกอฮอล์ซึ่งไวต่อไฟมาก เพียงแค่ฉันปล่อยไฟแช็กในมือลงบนอ่างน้ำ เสื้อผ้าของเขาก็จะถูกเผาภายในพริบตา อ้อ… มีอย่างหนึ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้คือ นอกจากเวฬาจะรักความเร็วแล้วเขายังรักการสะสมเสื้อหนังมาก แถมสนนราคาของมันแต่ละตัวก็เหยียบแสนเลยด้วยสิ นี่จึงถือว่าเป็นการแก้แค้นที่แสนคุ้มค่าอย่างที่สุด… ฮึ! “แย่หน่อยนะเวฬา พอดีว่าฉันเป็นโรคกลัวเชื้อโรคน่ะ อยู่ใกล้นายทีไรฉันขยะแขยงตัวเองทุกทีเลย” ฉันจีบปากจีบคอพูดอย่างน่าตบ ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมีโมเม้นต์แบบนี้ด้วย แต่ก็เอาเถอะ ฉันโกรธหมอนี่มากจริง ๆ มันช่วยไม่ได้ถ้าฉันจะร้ายใส่เขา เขาเป็นคนบังคับฉันเอง “แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่าลำพังแค่น้ำยาฆ่าเชื้อมันคงจะฆ่าไม่ได้” “…” “เชื้อโรคอย่างนายมันต้องฆ่าเชื้อด้วยไฟถึงจะสาสม!” พรึ่บ! “เฮ้ย!! บีลีฟ!!” เวฬารีบพุ่งตัวเข้ามาหาเสื้อผ้าตัวเองด้วยความรวดเร็ว ขณะที่เพลิงสีสวยลุกไหม้ไปแล้ว เขาหมุนเปิดก๊อกน้ำเพื่อดับไฟอย่างลนลาน ปากก็สบถคำหยาบคายออกมาอย่างหัวเสียสุด ๆ ถามว่าฉันควรจะอยู่สนใจหมอนี่ต่อไปไหม?... ฮึ! อยู่ต่อก็ควายแล้วค่ะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD