“เวรเอ๊ย!! นี่เธอจะฆาตกรรมผัวตัวเองหรือไงวะ ยัยเมียใจมาร!!”
ฉันแปะสำลีปิดรอยเข็มก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองผู้ชายตรงหน้า สรรพนามที่เขาพูดออกมานั้นมันเป็นความจริงที่ฉันไม่อยากจะยอมรับเลยสักวินาทีว่าคนคนนี้คือ… สามีตามกฎหมายของฉัน!
และใช่… ฉันแต่งงานแล้ว!
มันเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งกว่าโคตรผิดพลาดสำหรับชีวิตฉัน ส่วนมันผิดพลาดได้ยังไงนั้น เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกันนะ เพราะตอนนี้มีอะไรที่สำคัญกว่าเรื่องนั้นมาก นั่นคือการรีบทำแผลให้ผู้ชายใจปลาซิวนี่ให้เสร็จ ก่อนที่ความอดทนของฉันจะหมดลงจนอารมณ์อยู่เหนือจรรยาบรรณ ไม่เช่นนั้น… ไม่ฉันก็เขาได้พังกันไปข้างแน่ ๆ!
“เลิกโวยวายสักห้านาทีได้ป่ะ น่ารำคาญ” ปากฉันก็บ่นเขา มือก็ทำแผล ส่วนเวฬาน่ะเหรอ… ก็นั่งจ้องหน้าฉันจนตาแทบจะถลนเลยไง
“เธอทำฉันเจ็บนะเว้ย ฉันมีสิทธิ์จะแหกปากป่ะ!”
“อย่าทำสำออยดิ เจ็บแค่นี้ไม่ตาย ถ้ากลัวมากนักคราวหลังก็ระวังให้มากกว่านี้สิ” ฉันพูดโดยไม่คิดอะไร แต่เหมือนมันไปสะกิดต่อมบ้าอะไรของเวฬาเข้าไม่รู้ เพราะเขาเปลี่ยนสีหน้ามายิ้มกริ่มแทบจะในทันที
หมอนี่มัน 5G จริง ๆ!
“ห่วงฉันล่ะสิ โอ๊ย! มันเจ็บนะบีลีฟ!” เวฬาแหกปากอีกรอบพร้อมส่งสายตาดุเดือดมาให้ ฉันยักไหล่เบา ๆ อย่างไม่ยี่หระ ก็แค่จิ้มแอลกอฮอล์ลงบนหัวคิ้วเขาแรง ๆ เอง ทำสำออยไปได้
“ก็จะปลุกไง นึกว่านายกำลังฝันอยู่”
“เหอะ! เธอนี่มันโคตรใจมาร ใจปีศาจ ใจหิน ใจ…”
“ด่าฉันอีกคำ นายเจอแทงด้วยเข็มฟอร์มาลีนแน่” ฉันไม่ได้ขู่นะ พูดจริงทำจริงพร้อมคว้าเข็มขึ้นมาฉีดน้ำยาฟอร์มาลีนเข้าหลอดต่อหน้าต่อตาเขาเลย เวฬาเริ่มจะรู้ตัว เขาจึงเลิกด่าฉันด้วยปาก แต่ด่าด้วยสายตาแทน “ด่าในใจฉันก็นับนะ”
“โหยเธอ มากไปป่ะ!” เขาจิ๊ปากขัดใจ แต่ก็ยอมนั่งนิ่ง ๆ ให้ฉันทำแผล “แล้วนี่ไม่คิดจะถามหน่อยเหรอว่าผัวไปทำอะไรมาถึงได้เจ็บขนาดนี้อ่ะ?”
“ไม่อยากรู้ ไม่ได้สำคัญกับชีวิตฉันนิ”
“ตอบได้เย็นชามาก ฮึ!” แล้วเขาก็ทำเสียงกระแทกกระทั้นใส่
อะไร? ฉันผิดตรงไหนไม่ทราบ ก็มันไม่สำคัญจริง ๆ นี่นา จำเป็นไหมที่ต้องสน?
“ว่าแต่ไอ้เวรนั่นเป็นไงบ้างล่ะ ตายยัง?”
“ใคร?” ฉันถามขณะปิดปลาสเตอร์บนหัวคิ้วให้เขา เป็นจังหวะที่ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันพอสมควร พอสบตากับนัยน์ตามังกรฉันก็รีบผละตัวออกแล้วพูดต่อ “ถ้าหมายถึงผู้ชายอีกคนที่มาพร้อมกับนาย เขายังอยู่ดี สภาพแย่กว่านายไม่เท่าไหร่”
“ฮึ! ดวงไม่ถึงฆาตสินะ ก็ดี เก็บไว้ตายคาตีนฉันนี่!” ไม่พูดเปล่าแต่หลุบตามองเท้าไปด้วย
แหม เก่งเหลือเกินนะพ่อคุณ
“เธอรู้ป่ะ วันนี้ฉันลงแข่งแต่ถูกไอ้เวรนั่นเล่นไม่ซื่อ โชคดีนะที่ฉันประคองรถไว้ทันเลยไม่ได้ล้มรุนแรงเท่าไหร่”
“เหรอ เสียดายนะ” ฉันตอบรับสั้น ๆ แบบกำกวม เวฬาจึงต่อท้ายคำให้
“จะบอกว่าเสียดายรถล่ะสิ”
“เปล่า เสียดายที่นายไม่ตาย เพราะถ้านายตายทะเบียนสมรสคงจะเป็นโมฆะ” ความเย็นชานี้ฉันกลั่นกรองมาจากใจเลย จริงใจล้วน ๆ เลยนะ
“เธอนี่มัน…” เวฬาจ้องตาฉันอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฉันรู้ว่าเขาเตรียมสรรหาคำมาด่ากันอีกแล้ว เข็มฉีดยาซึ่งมีฟอร์มาลีนอัดแน่นเต็มหลอดถูกตบลงบนเตียงข้างกายเขาทันที และนั่นทำให้ประโยคหลังของเวฬาเค้นออกมาอย่างกัดฟันสุดฤทธิ์ “น่ารัก… น่ารักจริง ๆ เลยผู้หญิงคนเนี้ย”
แหม ชมกันขนาดนี้ ลอยติดก้อนเมฆแล้วค่ะ!
หลังจากทำแผลเสร็จเรียบร้อยฉันก็เตรียมเก็บอุปกรณ์เพื่อจบหน้าที่นี้ลงโดยไม่ลืมหันไปไล่เวฬาให้กลับบ้านได้ เพราะอาการของเขามันไม่ได้หนักหนาอะไรมาก แค่ทำแผลกับฉีดยาแก้อักเสบก็พอแล้ว แต่ผู้ชายร่างสูงกลับไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน ยังคงนั่งปักหลักอยู่ที่เดิม แถมยังใช้สายตาเรียวคมจ้องมองทุกการกระทำของฉันไม่ยอมละ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ไป ฉันก็เลิกใส่ใจและเป็นฝ่ายเดินออกจากห้องเอง
“เฮ้ยเดี๋ยวสิ จะไปไหน”
อย่างที่เห็น… ยังไม่ทันจะได้เปิดประตูก็ถูกผู้ชายนิสัยแย่มารั้งเอาไว้อีกแล้ว และคราวนี้เขาอัพเลเวลด้วยการใช้สองแขนโอบรอบเอวฉันอย่างถือวิสาสะสุด ๆ
“ทำบ้าอะไร ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันหันกลับมาผลักเขาแรง ๆ จนร่างสูงเซถอยหลัง แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ฉันทำต่อจากนั้นคือการมองหาเข็มฉีดยา เพราะมันคืออาวุธเพียงอย่างเดียวตอนนี้ที่เวฬากลัว!
หากทว่า…
“ถ้ามองหาไอ้นั่นละก็… ลงไปนอนอยู่ในถังขยะนู้นแล้ว” เวฬายกยิ้มมุมปากอย่างน่าตบสุด ๆ เพราะโยนเข็มฉีดยาทิ้งไปแล้วนี่เองถึงได้กล้ามากขนาดนี้ “ยอมให้ขู่บ่อย ๆ เพราะฉันอ่อยให้เธอหรอก”
“มั่นหน้า” เบะปากมองบน เหลือทนกับผู้ชายคนนี้จริง ๆ
“มีหน้าหล่อ ๆ ให้มั่น ใครจะทำไม”
“ฉันไง! มีไรก็พูด ฉันไม่ว่างมาเล่นกับนายทั้งวันหรอกนะ!”
นี่เรื่องจริงเลย วันนี้เคสอุบัติเหตุเข้าเยอะด้วย ฉันก็มีหน้าที่ต้องไปทำป่ะ ทำไมเขาต้องมาคอยรั้งไว้ตลอดเลยก็ไม่รู้
“หัวร้อนทำไม ก็แค่จะถามว่าออกเวรกี่โมง เดี๋ยวรอ”
“ไม่ต้อง โตแล้วกลับเองได้ จะไปไหนก็เชิญ” ฉันตอบพลางสะบัดหน้าหนีอย่างนึกรำคาญ เห็นหน้าเขาแล้วมันหงุดหงิดยังไงไม่รู้
“โตแล้วอ่ะใช่ แต่ไม่โสดแล้วนะรู้ยัง?”
เออรู้! จะย้ำทำพระแสงนายเหรอ!