EP.24 #ปลาใหญ่ย่อมกินปลาเล็ก

1210 Words
“เวรเอ๊ย… ยัยนั่นหายไปไหนแล้ววะ?!” ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปทางบาร์ที่ตอนนี้มีเพียงแก้วเหล้าเปล่าวางอยู่ ร่างบางเจ้าของแก้วไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว ผมคลาดสายตาจากเธอแค่แวบเดียวเอง ไม่คิดว่าเธอจะเดินไปไหนได้เร็วขนาดนี้ “มองหาอะไรเฮีย” ไอ้พีชเดินเข้ามาถามก่อนจะหันมองตามสายตาผม “อ้าว แล้วเจ้หายไปไหนแล้ว” “มึงไม่เห็นเธอเลยเหรอ?” ผมถามขณะกวาดสายตาไปรอบ ๆ บาร์ซึ่งไร้วี่แววของบีลีฟ จู่ ๆ ก็หายไปแบบนี้คิดแล้วมันน่าหงุดหงิดว่ะ! “ไม่เห็นดิ ก็เฮียไล่ผมเข้าข้างในนี่… งั้นเดี๋ยวถามไอ้กายให้” แล้วมันก็เดินไปที่บาร์เพื่อสอบถามกับบาร์เทนเดอร์ สองคนนั้นคุยกันไม่กี่คำ ไอ้พีชก็เดินกลับมา “มันบอกว่าเจ้จ่ายเงินเสร็จก็เดินออกจากร้านไปแล้วอ่ะ ท่าทางเมาหนักมากด้วยว่ะเฮีย น่าห่วง… อ้าวเฮีย! จะไปแล้วเหรอ?!” ผมไม่รอฟังจนจบก็รีบวิ่งออกจากร้านมาซะก่อน แค่ได้ยินว่ายัยผู้หญิงใจมารนั่นออกจากร้านไปด้วยสภาพเมาหนักขนาดนั้น ร่างกายผมแม่งก็ร้อนเป็นไฟแล้ว บีลีฟอวดดีอะไรขนาดนั้นกันวะ กล้าเดินในแหล่งนรกนี่ด้วยสภาพนั้นได้ยังไง อยากโดนลากไปรุมโทรมมากเลยหรือไงวะ! โว้ยยย! คิดแล้วโคตรโมโห! “ฮัลโหล! สั่งคนให้ตามหาเมียกูหน่อย เธอยังอยู่ในสนาม ด่วน!” สั่งเสร็จผมก็กดตัดสายทิ้ง สองเท้าก้าวเดินไปตามทาง สายตาสอดส่ายทุกซอกทุกมุมของบล็อกต่าง ๆ ผู้คนจำนวนมากเดินพลุกพล่านดูวุ่นวายไปหมด ผมไม่ชอบที่แบบนี้เลยให้ตาย ปกติไม่เคยมาเดินอะไรแบบนี้หรอกนะ ส่วนมากเวลามาสนามถ้าไม่ลงแข่งผมก็จะคลุกตัวเองอยู่ที่บาร์นั่นแหละ แต่วันนี้แม่งไม่ปกติไง เพราะดันมียัยผู้หญิงโง่เดินวิญญาณหลุดเข้ามาจนต้องมาเดินตามหาแบบนี้ แถมตอนนี้ไม่ได้แค่วิญญาณหลุดอย่างเดียว แต่ยังเมาหนักมากอีกด้วย คอยดูเถอะ! เจอตัวเมื่อไหร่โดนจัดหนักแน่ยัยเมียใจมาร! “รายว้า! ปายเลยไป! เอิ้ก… ม่ายยุ่งดิ๊!” สองเท้าของผมชะงักกึกแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากซอยเล็ก ๆ ซ้ายมือ น้ำเสียงหวานยานคางเหมือนคนเมาหนักกำลังขับไล่ใครสักคนอยู่ ผมรีบเปลี่ยนทิศทางวิ่งเข้าไปในซอยนั้นด้วยความรวดเร็ว เมื่อเข้าไปถึงก็พบกับร่างบางที่กำลังตามหายืนโงนเงนพิงผนังตู้คอนเทนเนอร์อยู่ตรงมุมมืดนั่น ด้านหน้าของเธอมีผู้ชายยืนดักอยู่สองคน ท่าทางพวกมันเหมือนกำลังคุกคามเธอ เห็นอย่างนั้นเลือดในกายผมเดือดพล่านอย่างกับเปลวไฟร้อนระอุทันที “อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยคนสวย เมาขนาดนี้ให้พวกพี่พาไปขึ้นสวรรค์ดีกว่า” หนึ่งในสองคนนั้นเอื้อมมือชั่ว ๆ ของมันไปจับแก้มเนียนของบีลีฟ ผมกำหมัดแน่นเตรียมจะพุ่งเข้าไปหักมือแม่ง แต่กลับต้องชะงักเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น “อ๊ากกกกกก!!” กร๊อบ! “จับมายวะ! อยากตายงายย!” ยัยขี้เมาตัวเล็กยกสองมือขึ้นจับข้อมือนั่นแล้วบิดสุดแรงจนไอ้เวรนั่นร้องลั่น ผมถึงกับอ้าปากค้างให้กับพลังอันมหาศาลของบีลีฟ เธอต้องใช้แรงมากเลยนะถึงจะทำเรื่องแบบนั้นได้ นึกไม่ถึงว่ายามที่เธอเมาแล้วจะเก๋าเกมขนาดนี้ “หนอยนังนี่! ฤทธิ์เยอะนักเหรอ!!” ไอ้เวรตัวเดิมเงื้อมืออีกข้างขึ้นจะตบเธอ ผมไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปถีบมันจนกระเด็นไปอีกทาง แล้วหันไปถีบไอ้เวรอีกตัวที่ยืนอยู่ด้านหลัง พวกมันสองคนมีสีหน้าตกใจทันทีที่เห็นหน้าผม เหอะ! ก็แน่ล่ะ! มีใครในสนามนี้บ้างที่ไม่รู้จักผมน่ะ ไอ้เวรสองตัวนี่ไม่ได้ตายดีแน่! “ฮะ เฮียเว…” “มือไหน” ผมดึงบีลีฟที่ยืนซวนเซเหมือนจะล้มเข้ามาอยู่ในวงแขนก่อนปรายตากลับไปมองไอ้เวรสองตัวนั่น พวกมันรีบลุกขึ้นจากพื้นด้วยท่าทางลนลาน “อะ อะไร… นะครับ” “มือข้างไหนที่แตะต้องเมียกู!!” “มะ ไม่นะครับ! ผมขอโทษ! พวกผมไม่รู้ว่าเธอ เอ๊ย เจ้เป็นเมียเฮีย!” พวกมันรีบก้มหัวอย่างหวาดกลัวความผิด เป็นจังหวะเดียวกับไอ้เรย์และพรรคพวกวิ่งเข้ามาในซอยพอดี “เกิดอะไรขึ้นวะ? แล้วนั่น…” ไอ้เรย์เหลือบตามองร่างบางในวงแขนผมก่อนจะขมวดคิ้วเครียด มันหันไปมองไอ้สวะสองตัวที่ตอนนี้ทรุดเข่าลงบนพื้นไปแล้วอย่างรู้ชะตากรรมตัวเอง “พวกมึงทำเหี้ยอะไรกัน?” “ปะ เปล่านะฮะ! พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเจ้… อ๊อก!” ไอ้เรย์ตรงเข้าบีบคอไอ้เวรนั่นที่พูดยังไม่ทันจบด้วยมือเดียวก่อนจะหันกลับมาถามผมเสียงเหี้ยม “จะเอาไงกับพวกแม่ง” “…” ผมปรายตามองคนอื่น ๆ ด้านหลังมันที่ทำท่าเตรียมพร้อมรุมกระทืบไอ้เวรสองตัวนี่ทันทีที่สั่ง และผมก็เกือบจะหลุดปากสั่งออกไปแล้วถ้าไม่ติดเสียงหวาน ๆ ของผู้หญิงในอ้อมกอดพึมพำออกมา “อานตะพาน… เอิ้ก… อานตะพานทั้งน้านน” ให้ตาย… เมาหนักขนาดนี้ยังไม่วายหาเรื่องด่าผมจนได้นะ แล้วนี่ไม่รู้จะดีดดิ้นทำไมนักหนา เสื้อก็ตัวเล็กฉิบหาย แถมยังบางจนแทบจะมองทะลุอยู่แล้ว! คงต้องรีบจัดการเรื่องห่าเหวนี่ให้เสร็จแล้วพาเธอออกไปจากที่นี่สักที! “ปล่อยพวกมัน…” “ขะ ขอบคุณครับเฮีย พวกผมจะไม่ทำอีกแล้ว” ไอ้เวรสองตัวนั่นรีบก้มหัวขอบคุณด้วยความดีใจ ไอ้เรย์ปล่อยมือออกจากคอพวกมันแล้วหันมองผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด มันคงไม่คิดว่าผมจะยอมปล่อยไอ้สวะสองตัวนี่ไปง่าย ๆ หรอกนะ “จัดการมือขวาของไอ้เหี้ยนั่นให้ใช้ไม่ได้สักสามสี่เดือนก็พอ… โทษฐานที่บังอาจแตะต้องเมียกู!” พูดจบผมก็ช้อนร่างบางขึ้นอุ้มแล้วเดินออกจากซอยนั้นมา เสียงโอดครวญดังโหยหวนไล่หลังมาฟังแล้วชวนอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากผุดยิ้มพึงพอใจขณะเดินผ่านสายตาอยากรู้อยากเห็นหลายสิบคู่ ความรุนแรงนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว จึงไม่แปลกที่ทุกคนไม่ตื่นตกใจและไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปช่วย เพราะมันเป็นวัฎจักร… ปลาใหญ่ย่อมกินปลาเล็ก พวกเศษสวะย่อมโดนถอนรากถอนโคนด้วยคนที่ยิ่งใหญ่กว่า… มันคือวัฏจักรของโลก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD