EP.29 #วิถีคนเลว

1151 Words
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จฉันก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดใหม่อย่างเตรียมพร้อมจะไปโรงพยาบาล ผ่านห้องนอนออกมาพบกับห้องนั่งเล่นมุมสบาย ๆ ด้านนอก กลิ่นหอมของอาหารลอยแตะปลายจมูกเรียกน้ำย่อยในท้องให้พร้อมใจกันร้องประสานเสียงทันที “ตื่นเร็วกว่าที่คิดนะ” สองเท้าชะงักเล็กน้อยพลางเบี่ยงตัวหันไปมองตามต้นเสียงซึ่งดังมาจากทางเคาน์เตอร์ครัว ภาพที่เห็นคือผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งกำลังง่วนทำอะไรบางอย่างอยู่หลังเคาน์เตอร์นั่น ดวงตาสีดำสนิทเหลือบมองกัน ริมฝีปากหนาบิดยิ้มนิด ๆ พอได้เห็นหน้าเขาก็พาลหวนคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเช้ามืดเลย ให้ตายสิ… ฉันไม่น่าเผลอหลับไปแบบนั้นเลย หลับในอ้อมกอดเขาเนี่ยนะ… บ้าชะมัด! “หิวหรือยัง มานั่งนี่สิ” เขาตบโต๊ะเรียกขณะวางจานลง ฉันเดินเข้าไปใกล้หลุบตามองอาหารบนจานนั้นอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตาสักเท่าไหร่ ผู้ชายอย่างเวฬาเนี่ยนะทำอาหารเป็นด้วย? แล้วทำไมหน้าตามันถึง… พิลึกพิลั่นขนาดนั้นกันล่ะ? “นายทำอะไร” “อาหารเช้าไง” “แน่ใจนะว่านั่นเรียกว่าอาหารน่ะ” ฉันกอดอกถามเสียงเรียบ เวฬาชะงักเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ใบหูเขาเรื่อแดงนิด ๆ ดูแล้วตลกชะมัด “มันก็แค่ไส้กรอกกับไข่ดาว ฉันทำเป็นอยู่แค่นี้นี่” เขาอธิบายพลางนั่งลงตรงหน้าจานของตัวเอง ยังไม่วายกวักมือให้ฉันนั่งลงตามด้วย ฉันหลุบตามองอาหารตรงหน้าอีกรอบ ไส้กรอกสีเหมือนไม่สุกกับไข่ดาวแอบเกรียม… ใครกินลงก็บ้าแล้ว “ทำไปทำไม?” “หิวก็ต้องทำสิ ถามแปลกนะเธอ” “ฉันหมายถึงเรื่องเมื่อคืน นายทำแบบนั้นทำไม?” ฉันยิงคำถามอย่างตรงประเด็น ส่งผลให้เวฬาชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปากนิ่ง แต่มันก็แค่แวบเดียวเมื่อเขาเลือกกินต่อโดยไม่ตอบคำถามฉัน “ไม่ได้ยินที่ถามเหรอเวฬา นายพาฉันไปที่สนามแข่งทำไม?” “ก็ฉันมีแข่ง จะให้ลงแข่งทั้งที่ยังเจ็บอยู่โดยไม่มีหมอได้ไงล่ะ” เขาตอบแบบไม่ใส่ใจ แต่ฟังก็รู้ว่าโกหก “เฮียฑีก็เป็นหมอ…” ฉันเม้มปากเล็กน้อยขณะเอ่ยชื่อเขาคนนั้น เวฬาก็เช่นกัน สีหน้าเขาเปลี่ยนตั้งแต่ฉันเปิดประเด็นนี้แล้ว “นายจงใจพาฉันไปเจอกับเขาใช่ไหม?” “…” “นายรู้มาตลอด… ตัวตนของผู้ชายคนนั้นน่ะ” “เลิกพูดแล้วกินเหอะ วันนี้ขึ้นวอร์ดไม่ใช่ไง” เวฬาพยายามเบี่ยงประเด็นด้วยการเอาเรื่องเรียนของฉันมาอ้าง ไม่รู้หรอกว่าเขารู้เรื่องตารางชีวิตของฉันได้ยังไง คนอย่างเขาถ้าลองอยากรู้อยากได้อะไรก็ไม่เกินความสามารถเขาหรอก ที่ผ่านมาเขาก็เป็นแบบนี้เสมอ ชอบวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นจนน่ารำคาญ “ทำไมต้องพาฉันไป” ถึงเขาจะพยายามยังไงก็ไม่สามารถหยุดความหงุดหงิดในใจฉันได้ ฉันยังคงยิงคำถามใส่เขาไม่หยุด จนกว่าจะได้คำตอบจากปากของเขา ฉันไม่มีทางยอมง่าย ๆ เด็ดขาด เวฬาไม่ใช่คนความอดทนสูง การที่เขาเงียบนั่นแปลว่าเขากำลังใกล้ระเบิดเหมือนกัน “ทำไมต้องให้ฉันเห็นแบบนั้น นายต้องการจะทำอะไร ตอบมาสิ!” ตึง! “ต้องการให้เธอตาสว่างไง!” และในที่สุด… ความอดทนของเวฬาก็หมดลง เขาวางช้อนลงบนโต๊ะ ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมาสบตากัน แววตาเยือกเย็นของเขาสะกดฉันให้หยุดนิ่งไปด้วย “เธอจะได้เลิกโง่ เลิกคิดว่ามันเป็นเทพบุตรสักที!” “…” “เพราะฉันรู้มาตลอดว่ามันก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันเลย แต่กลับได้รับสิ่งดี ๆ ไปทุกครั้ง” “นั่นคือเหตุผลของนายเหรอ?” สองมือของฉันกำแน่นอย่างรู้สึกกรุ่นโกรธในใจ สองตามองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตารังเกียจ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเวฬาจะมีความคิดแบบนี้กับพี่ชายฝาแฝดตัวเองด้วย ความอิจฉา… อย่างนั้นเหรอ… “…ใช่” เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบโดยหลบตาฉัน มันยิ่งตอกย้ำคำตอบในใจของฉันมากขึ้น “ไม่อยากจะเชื่อว่านายจะอิจฉาแม้แต่พี่ชายตัวเอง” “…” “รู้อะไรไหมเวฬา… นายมันโคตรน่ารังเกียจ” . . . [บทบรรยาย เวฬา] คุณเคยรู้สึกปางตายเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำไหม… ผมกำลังเผชิญกับความรู้สึกนั้นอยู่ คำพูดและแววตาของผู้หญิงตรงหน้ามันฉายชัดความรู้สึกนั้นออกมาอย่างไม่ปิดบัง ผมรู้ว่ามันโง่มากกับเหตุผลที่ผมพูดออกไป ผมไม่ได้อิจฉานาฑีเรื่องที่มันได้สิ่งดี ๆ ทุกอย่างไป แต่ผมอิจฉาที่มันได้หัวใจเธอไปต่างหากล่ะ ผมอิจฉาสายตาที่เธอมองมัน อิจฉาที่มันได้ความรักจากเธอแต่มันกลับไม่สนใจไยดี เออใช่… ผมอิจฉา! ผมเองก็เกลียดความรู้สึกนี้เหมือนกันนะ ทั้งที่ผมยอมเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นพี่ชายตัวเองมาแล้วแท้ ๆ แต่กลับได้เพียงสถานะและทะเบียนสมรสเท่านั้น ขณะที่หัวใจและสายตาของบีลีฟก็ยังคงอยู่ที่นาฑีไม่เคยเปลี่ยนแปลง… ผมเลยตัดสินใจทำเรื่องไร้ศักดิ์ศรีอีกครั้งด้วยการพาบีลีฟไปที่สนามแข่งเพื่อขายความลับทั้งหมดของนาฑีให้กับเธอ ผมยอมหักหลังพี่ชายตัวเองเพื่อต้องการให้เธอเห็นตัวตนอีกด้านของมัน เพราะแอบหวังว่าเธออาจจะยอมตัดใจจากมันสักที ผมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากมากสำหรับบีลีฟ เธอแอบรักนาฑีมาสิบกว่าปี การจะให้เธอตัดใจจากมันง่าย ๆ คงเป็นไปไม่ได้ แม้เธอจะแต่งงานกับผมแล้ว แต่มันก็แค่ในนาม แค่ทำตามหน้าที่ เธอไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลยสักนิด ผมจึงต้องทำบางอย่างเพื่อให้เธอตัดใจจากมัน ในเมื่อทำให้บีลีฟเลิกรักนาฑีไม่ได้… ผมจะทำให้เธอเกลียดมันแทน… นี่แหละวิถีคนเลวอย่างผม! “จะไปไหน?” ผมโน้มตัวไปคว้าท่อนแขนเล็กที่กำลังจะเดินหนีไปทางประตูด้วยความรวดเร็ว บีลีฟหันหน้ากลับมามองกันด้วยสายตาเย็นชาเจือความรังเกียจ มันจี๊ดนะ… แต่พอทนได้ “อย่ามายุ่ง ปล่อย” ดวงตาหวานหลุบมองมือผมเป็นเชิงสั่ง ผมลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปยืนด้านข้างเธอ บีลีฟถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อเว้นระยะห่าง ท่าทางของเธอมันช่างกระตุกหัวใจผมเหลือเกิน เหอะ! มันเจ็บดีจริง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD