“เฮ้ย ๆ ทำไมนายขี้โกงอย่างนี้ล่ะ!!” จอยเกมถูกโยนลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิดขั้นสุด เนื่องจากฉันเล่นแพ้มารอบที่ห้าแล้ว! แอลโกงฉันอ่ะ! เขาเล่นแต่ตัวใหญ่ ๆ สกิลท่าแรง ๆ ทั้งนั้นเลย แล้วตัวผู้หญิงหุ่นอ้อนแอ้นของฉันจะไปสู้อะไรกับควายธนูของเขาได้ล่ะ!
“โหยอะไร ใครโกง? แพ้แล้วอย่าหัวร้อนดิ”
“ก็นายโกงฉันจริง ๆ นี่! แน่จริงก็เล่นตัวผู้หญิงสิแอล ชุนหลีก็ได้” ฉันว่าพลางแย่งจอยเกมของแอลมากด ๆ และเลือกตัวละครผู้หญิงที่สวมชุดจีนทำผมเป็นก้อน ๆ สองก้อนบนหัว ท่าไม้ตายของตัวละครนี้คือท่าเตะรัว ๆ ซึ่งฉันใช้เล่นแล้วแพ้มาหลายรอบติดแล้ว เพราะแอลขี้โกงใช้แต่ตัวละครผู้ชายตลอดเลย
“เฮ้ยไม่เอาดิ! ฉันไม่อยากเล่นตัวผู้หญิงนะ” แอลแย่งจอยเกมกลับไปแล้วกดยกเลิกการเลือกก่อนจะหันมาขมวดคิ้วใส่กัน “เธอก็เปลี่ยนมาเล่นตัวผู้ชายดิ ฉันยกโอนิให้ก็ได้เอามะ”
“โอ๊ยไม่เอา ไม่อยากเล่นตัวผู้ชายอ่ะ! นายนั่นแหละเปลี่ยนเป็นตัวผู้หญิงสิ แน่จริงมาตบกันตัว ๆ เลย”
“ฮ่า ๆ ถึงกับท้าตบเลยเหรอเนี่ย” อยู่ ๆ แอลก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ขณะที่ฉันนั่งหน้าตึงอย่างไม่สบอารมณ์สุด ๆ
อาจจะงงว่าเรากำลังถกเถียงกันเรื่องบ้าบออะไร อธิบายให้ฟังคร่าว ๆ เลยก็คือตอนนี้ฉันกับแอลกำลังนั่งเล่นเกม Street Fighter เกมต่อสู้ในตำนานอยู่นั่นเอง และแอลก็สู้ชนะฉันมาหลายรอบแล้วด้วย เพราะเขาเล่นแต่ตัวเก่ง ๆ ส่วนฉันเล่นแต่ตัวผู้หญิงซึ่งความสามารถมันน้อยกว่าเขามาก
ความจริงมันก็แปลกดีนะที่จู่ ๆ ฉันกับผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักไม่ถึงชั่วโมงมานั่งเล่นเกมด้วยกันราวกับสนิทสนมกันมานานแบบนี้ แต่เพราะมันเบื่อ ๆ แถมเกมที่แอลกำลังเล่นอยู่ฉันก็เคยเล่นมาก่อนเมื่อสมัยละอ่อน เลยหาอะไรทำแก้ว่างระหว่างรอเวลาสักหน่อย
“อ้าว ไม่เล่นแล้วเหรอ?” แอลเงยหน้าถามเมื่อเห็นฉันวางจอยเกมลงบนโต๊ะตรงหน้าโซฟาแล้วลุกขึ้นยืน ฉันเหลือบตามองเขานิด ๆ ก่อนจะเดินไปทางตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่มโดยไม่ตอบอะไร
นี่เล่นมาเกือบชั่วโมงแล้วนะแถมยังตะโกนแหกปากแทบจะทุกตาเลยด้วย ไม่คอแห้งจะไหวเหรอ
แอลวางจอยเกมตามแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพิ่งสังเกตเหมือนกันนะว่าผู้ชายคนนี้ตัวสูงมาก เขาเดินอ้อมบาร์มายืนซ้อนด้านหลังของฉัน มันไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมาย แต่ก็รู้สึกได้ถึงความสนิทจนเกินไปนะบางที ฉันไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่หยิบแก้วน้ำแล้วเดินหลบฉากออกมา
“ทำไม… ถึงมานอนที่ห้องเจ้อิงเหรอ” ฉันชะงักเล็กน้อยกับคำถามที่ทะลุความเงียบขึ้นมา ปรายตามองคนถามนิด ๆ ขณะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “ทะเลาะกับแฟนหรือไงครับ”
“นายรู้ด้วยเหรอ?”
“อ้าว มีแฟนแล้วจริงดิ?? นี่เดาล้วน ๆ เลยนะ” สีหน้าเขาดูผิดหวังนิด ๆ นะ หรือฉันคิดไปเอง?
“ก็ไม่เชิงแฟน” แอลเดินอ้อมกลับมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน สายตาเขาวาววับแปลก ๆ ดูเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ ฉันรีบเบนสายตาหนีแล้วพูดอย่างตัดบท “ถ้าพูดให้ถูกก็คือสามีน่ะ”
“แค่ก ๆ” ถึงกับสำลักเลยเชียว ฉันอมยิ้มนิด ๆ อย่างสมน้ำหน้า ทำไมจะดูไม่ออกล่ะว่าแววตาที่แอลใช้มองฉันมันสื่อมาแบบไหน เขาตั้งใจจะม่อ ฉันรู้ดี และพ่อหนุ่มน้อยคนนี้ก็ดูจะเจ้าชู้ใช่เล่นด้วย
“ทิชชูไหม?” ปากถามมือก็ยื่นกล่องทิชชูให้ แอลรับไปก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงติดกวน
“เอามาให้เช็ดน้ำตาหรือไงครับ”
“ก็พูดไป” ฉันยกยิ้มพลางจิบน้ำแล้วถามต่อ “นายอายุเท่าไหร่เหรอ”
“ยี่สิบสาม เพิ่งเรียนจบ”
“อาหะ เด็กกว่าฉันปีเดียวเองนี่” รู้สึกแปลกใจนิด ๆ นะเนี่ย ตอนแรกคิดว่าแอลน่าจะอายุประมาณยี่สิบเสียอีก หน้าเขาดูเด็กมาก เหมือนยังไม่จบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
“เด็กกว่าแล้วไง สนใจ ‘กินเด็ก’ หน่อยไหมล่ะครับพี่สาว”
“ไม่ดีกว่า ฉันไม่นิยมกินมั่วซั่ว” ฉันเบะปากใส่แอลอย่างไม่จริงจังนัก หมอนั่นยิ้มตาหวานตอบกลับมาเห็นแล้วแอบใจสั่นเหมือนกันนะเนี่ย ฉันแพ้ทางผู้ชายน่ารักนะรู้ยัง?
แต่ก็นะ ถึงเด็กมันยั่วฉันก็ไม่หลวมตัวหรอกนะ
ไม่น่าเชื่อว่าการเล่นเกมนั่นด้วยกันจะทำให้บรรยากาศระหว่างฉันกับแอลเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ แถมยังเปลี่ยนในทางที่ดีด้วย มันดูสนิทกันทั้งที่เพิ่งเจอไม่ถึงวัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาเข้ากับคนง่าย แถมยังเป็นน้องชายของอิงฟ้าด้วย ฉันเลยไม่ค่อยถือสาอะไรเขามากมั้ง
ออด… ออด…
เสียงออดหน้าประตูห้องดังขัดบทสนทนา แอลทำท่าจะเดินไปเปิดประตูแต่ฉันยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ แล้วเป็นฝ่ายลุกขึ้นเอง เหลือบดูนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มสี่สิบห้า น่าจะใกล้ถึงเวลาที่อิงฟ้ากลับมาแล้วล่ะ ก็ดี… ฉันจะได้ใช้รถเสียที ไม่รู้ว่าป่านนี้เวฬาเป็นบ้าไปถึงไหนแล้ว ตั้งแต่ส่งโลเคชั่นให้เขาไป เขาก็เงียบหายไปเลย สงสัยคงจะถอดใจเรื่องนัดคืนนี้แล้วล่ะมั้ง…
บอกแล้วไงว่าคนอย่างเวฬาน่ะ ไม่มีทางมารับฉันหรอก
กริ๊ก…
“เวรเอ๊ย… กว่าจะหาเจอนะยัยเมียใจมาร!!”