"หุ้นส่วน?"
หลิวเหว่ยเฉิงเยาะหยัน พลางก้าวเข้ามาด้วยท่าทีเอาเรื่อง
"นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ภรรยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ควรจะอยู่! และคนอย่างคุณ... เซียวหาน ไม่คู่ควรที่จะมานั่งร่วมโต๊ะกับภรรยาของฉัน"
เม่ยหลิงวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะเสียงดังพอที่จะทำให้หลิวเหว่ยเฉิงรับรู้ได้ได้ว่าเธอไม่พอใจ
"พูดจาให้เกียรติหุ้นส่วนของฉันด้วยค่ะ ที่นี่ไม่ใช่ค่ายทหาร คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งการใคร"
"เธอเองไม่มีสิทธิ์ทำตัวเหลวไหลแบบนี้เช่นกัน"
หลิวเหว่ยเฉิงชี้ไปที่มือของเซียวหานที่ยังวางอยู่บนโต๊ะ
"การแตะต้องภรรยาของคนอื่นต่อหน้าสาธารณชน มันเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียเกียรติอย่างร้ายแรง!"
เซียวหานยิ้มอย่างท้าทาย
"ผมแค่ให้กำลังใจหุ้นส่วนทางธุรกิจเท่านั้นครับท่านรองผู้บัญชาการ หรือว่า... คุณกำลังหึงหวงภรรยาของคุณอยู่?"
"หุบปาก!"
หลิวเหว่ยเฉิงตวาดเสียงกร้าว แต่เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกที่กำลังเดือดพล่านในอกนี้คือความโกรธที่ถูกท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจของความเป็นสามีของเม่ยหลิง
เม่ยหลิงลุกขึ้นยืนอย่างสง่างาม เธอเดินเข้ามาใกล้สามีที่ไม่เคยรักของเธอคนนี้ และมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาจนหลิวเหว่ยเฉิงต้องชะงัก
"พอได้แล้วค่ะ เหว่ยเฉิง"
เสียงของเม่ยหลิงเย็นราวกับน้ำแข็งจนคนฟังรู้สึกสั่นสะท้านไหว
"คุณมาถึงที่นี่ได้ยังไงฉันไม่สนใจ แต่การที่คุณมาทำลายมื้ออาหารและสร้างความอับอายให้ฉันและหุ้นส่วน... มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง"
เม่ยหลิงหันไปทางเซียวหาน
"คุณเซียวคะ ฉันขอโทษแทนสามีของฉันด้วย วันนี้การสนทนาของเราคงต้องจบลงแค่นี้ ขอบคุณสำหรับอาหารค่ำค่ะ"
เซียวหานโค้งคำนับเล็กน้อย
"ไม่ต้องกังวลครับคุณซู ผมเข้าใจดี เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอ" เขามองหลิวเหว่ยเฉิงด้วยสายตาที่เย้ยหยันไร้ซึ่งความเกรงกลัวใด ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างสบายอารมณ์
ทันทีที่เซียวหานเดินออกไป หลิวเหว่ยเฉิงก็หันมาเผชิญหน้ากับเม่ยหลิง เขาคว้าแขนเธอไว้แน่นด้วยความโกรธ
"เธอทำบ้าอะไรลงไปเม่ยหลิง! ไปทำธุรกิจกับผู้ชายคนนั้นเพื่ออะไร? เธอต้องการทำลายชื่อเสียงของตระกูลหลิวอย่างนั้นหรือ!"
เม่ยหลิงสะบัดแขนออกอย่างรุนแรง สีหน้าของเธอนิ่งเฉยไม่ได้แสดงความเจ็บปวดใด ๆออกมา มีเพียงความเยือกเย็นและสายตาเย็นชามองเขาอย่างรังเกียจ ไม่ต่างจากที่เขาเคยใช้สายตาแบบนี้มองเธอในชาติที่แล้ว
"ชื่อเสียง? คุณพูดถึงเรื่องชื่อเสียงอย่างนั้นหรือ รองผู้บัญชาการหลิว"
เธอใช้สายตาประเมินมองสามีจากหัวจรดเท้า
"ถ้าคุณเป็นห่วงเรื่องชื่อเสียงจริง ๆ คุณควรจะสนใจว่าตัวเองไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นนานแค่ไหนแล้วในแต่ละสัปดาห์! คุณคาดหวังให้ฉันอยู่บ้านเป็นเพียงตุ๊กตาที่รอคุณกลับมาอย่างนั้นหรือ? ซูเม่ยหลิงคนนั้นตายไปแล้วค่ะ"
หลิวเหว่ยเฉิงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง
"แต่เธอคือภรรยาของฉัน! และเธอต้องรู้ขอบเขตของตัวเอง!"
"ขอบเขต?"
เม่ยหลิงหัวเราะเบา ๆ
"ถ้าอย่างนั้น เรามาสร้างขอบเขตที่ชัดเจนที่สุดกันเลยดีไหมคะ"
เม่ยหลิงเดินไปหยิบกระเป๋าถือของเธอออกมา และหยิบซองเอกสารสีขาวออกมาจากด้านใน เธอยื่นมันให้กับหลิวเหว่ยเฉิง
"นี่คือเอกสาร การหย่าร้างค่ะ"
หลิวเหว่ยเฉิงมองซองเอกสารนั้นด้วยความตกตะลึง สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นความไม่เชื่ออย่างรุนแรง
"เธอกล้าดียังไง..."
"ฉันกล้ามากพอแล้วค่ะ"
เม่ยหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
"ฉันไม่ต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับผู้ชายที่ไม่เคยรักฉัน และฉันก็ไม่ต้องการทำตัวเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ให้กับสามีที่นอกใจฉันมาตลอดหลายปี"
"เธอไม่มีสิทธิ์มาเสนอเรื่องหย่า!"
หลิวเหว่ยเฉิงบีบซองเอกสารนั้นอย่างแรงจนมันยับยู่ยี่
"เธอรู้ไหมว่าการหย่าร้างจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของฉันแค่ไหน! ตระกูลหลิวจะมองเธออย่างไร! ท่านนายพลซูจะว่าอย่างไร!"
เม่ยหลิงมองเขาด้วยความสมเพช
"คุณยังคงสนใจแต่ตำแหน่งและเกียรติยศของตัวเอง"
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
"สำหรับผลกระทบต่อท่านนายพลซู... คุณไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันจะจัดการอธิบายเรื่องนี้กับพ่อของฉันเอง และฉันมั่นใจว่าท่านจะเข้าใจ"
"ซูเม่ยหลิง! เธอทำแบบนี้ไม่ได้! นี่เป็นข้อตกลงระหว่างสองตระกูล!"
"ข้อตกลงที่จบลงแล้วค่ะ เหว่ยเฉิง"
เม่ยหลิงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเขา "ฉันจะคืนชีวิตที่อิสระให้กับคุณ เพื่อที่คุณจะได้ไปอยู่กับคนที่คุณรักอย่างเปิดเผย และคุณ... ก็ควรจะคืนชีวิตที่อิสระให้กับฉันเช่นกัน"
เม่ยหลิงเดินเลี่ยงเขาไปที่ประตู
"คิดให้ดีนะคะ รองผู้บัญชาการหลิว ไม่ว่าคุณจะเซ็นหรือไม่เซ็น... หัวใจของฉันก็ไม่ได้อยู่กับคุณอีกต่อไปแล้ว และฉันจะเดินหน้าไปตามทางของฉันเอง"
เม่ยหลิงเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หลิวเหว่ยเฉิงยืนอยู่ตามลำพังในห้องที่ว่างเปล่า พร้อมกับซองเอกสารการหย่าร้างที่ยับยู่ยี่ในมือ
เป็นครั้งแรกที่เขาคิดได้ว่า... สิ่งที่เขาเคยมองว่าเป็นเพียงสมบัติประดับบารมี เป็นของตายที่รอการกลับมาของเขาเสมอกำลังหลุดลอยไปอย่างง่ายดาย และความรู้สึกสูญเสียที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็เข้าจู่โจมเขาอย่างจัง
ความโกรธเคืองที่ถูกหยามเกียรติทำให้หลิวเหว่ยเฉิงตัดสินใจทิ้งซองเอกสารนั้นไว้บนโต๊ะอาหาร เขาเดินออกจากภัตตาคารราวกับพายุที่กำลังก่อตัว และมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นของ ซูเยว่ ด้วยความต้องการที่จะปลดปล่อยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านทั้งหมด
ซูเยว่คือรักแรกและรักแท้ของเขา ผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากความตึงเครียดของโลกภายนอก เวลาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเขามีความสุข ดั่งว่าโลกนี้มีเพียงเขาและเธอสองคน เขาเปิดเผยตัวเองทุกเรื่องกับซูเย่วเพราะเขารักและไว้ใจเธอมาก
เขามาถึงในสภาพที่เสื้อผ้ามีรอยยับเล็กน้อยและใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธก่อนหน้าที่ยังคงพยายามระงับ ซูเยว่กำลังรอเขาอยู่ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน เธอจัดเตรียมโต๊ะสำหรับฉลองตำแหน่งใหม่ของเขา
แต่หลิวเหว่ยเฉิงกลับไม่ได้สนใจอาหารเลิศรสบนโต๊ะเลยแม้แต่น้อย เขานั่งลงบนเก้าอี้และหยิบเหล้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวโดยไม่พูดอะไร
ซูเยว่เดินเข้ามานั่งข้างเขาอย่างแผ่วเบา เธอลูบแขนเขาอย่างอ่อนโยนเพื่อส่งผ่านความห่วงใย
"เป็นอะไรไปคะ เหว่ยเฉิง มาหาฉันคุณถึงได้เอาแต่ดื่ม"
ซูเยว่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ความจริง วันนี้เราควรจะมีความสุขกันไม่ใช่หรือคะ?"
หลิวเหว่ยเฉิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาแดงก่ำเล็กน้อยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
"ความสุขของฉันถูกผู้หญิงคนนั้นทำลายไปแล้ว เยว่เยว่"
เขาตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความคับแค้น
"คุณนายหลิวเหรอคะ?" ซูเยว่ถามอย่างระมัดระวัง
"ใช่! เธอทำเรื่องที่ทำให้ฉันอับอายขายหน้าที่สุด!"
หลิวเหว่ยเฉิงทุบโต๊ะเสียงดังจนซูเยว่สะดุ้ง
"เธอไปคบค้าสมาคมกับคนอย่างเซียวหาน! และเธอกล้าที่จะยื่นเอกสาร... การหย่าร้าง ให้ฉัน!"
ซูเยว่ตกใจจนตาเบิกกว้าง มือของเธอที่วางอยู่บนแขนเขาถึงกับสั่นเทา
"คะ? การหย่าร้าง?"
"เธอต้องการจบทุกอย่าง!"
หลิวเหว่ยเฉิงยกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
"เธอกล้าท้าทายฉัน! กล้าทำลายชื่อเสียงที่ฉันสร้างมาทั้งหมด!"
ซูเยว่รู้สึกปวดใจเพราะการหย่าร้างของหลิวเหว่ยเฉิงหมายถึงอิสระของเขา หมายถึงการที่พวกเธอกับเขาจะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยได้ในที่สุด แต่น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลและหงุดหงิดของเขา ไม่ได้สื่อถึงความดีใจเลยแม้แต่น้อย
"แต่... เหว่ยเฉิง"
ซูเยว่กล่าวอย่างระมัดระวังแสร้งเป็นอ่อนโยนแม้ข้างในนั้นจะรู้สึกแตกต่าง
"นั่นไม่ใช่เรื่องดีเหรอคะ? ถ้าคุณหย่ากับคุณนายหลิว เราก็จะ..."
"ไม่ดี!"
หลิวเหว่ยเฉิงตะคอกเสียงดังจนซูเยว่หน้าซีด
"เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนฉัน! เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องของฉันเธอจะไปหย่ากับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กับฉัน! การหย่าร้างในสถานะของฉันตอนนี้ มันคือจุดด่างพร้อยของชีวิต"
เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาสนใจเพียงแค่ตำแหน่ง เกียรติยศ และภาพลักษณ์ทางสังคมของตัวเองเท่านั้น ซูเยว่รู้สึกถึงความขมขื่นที่แล่นเข้ามาในหัวใจ
แม้แต่ตอนที่โอกาสมาถึง เขาก็ยังไม่ได้คิดถึงฉันเป็นคนแรก...
หลิวเหว่ยเฉิงมองซูเยว่ที่ก้มหน้าลงซ่อนความขมขื่นไว้ ภาพของซูเม่ยหลิงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความงดงามที่เย้ายวนปรากฏซ้อนทับขึ้นมาในความคิดของเขา ความสับสนว้าวุ่นใจถาโถมเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง
"เธอต้องเชื่อฉันนะเยว่เยว่"
หลิวเหว่ยเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
"ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง ฉันจะไม่หย่ากับซูเม่ยหลิงจนกว่าฉันจะพร้อม และจนกว่าฉันจะหาทางทำให้การหย่าร้างนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของฉันได้"
"ค่ะ เหว่ยเฉิง ฉันจะรอคุณเสมอ"
ซูเยว่ตอบ แม้ว่าในใจของเธอจะเริ่มมองเห็นถึงความเห็นแก่ตัวของคนที่เธอรักที่สุด ว่าแท้จริงแล้วหลิวเหว่ยเฉิงไม่ได้มีหัวใจที่ตรงกับเธอแม้แต่น้อย เกียรติยศ ชื่อเสียงของเขาต่างหากที่เขารักที่สุดในชีวิต
ทว่า ถึงจะเป็นอย่างนั้น ซูเย่วก็ไม่อาจเกลียดเขาได้ เธอยังรอ รอวันที่จะเป็นที่หนึ่งในตระกูลหลิวเหมือนเดิม เธอจะรอเป็นที่ได้เป็นภรรยาของเขาเพียงหนึ่งเดียว รอตามที่เขาต้องการ..และเชื่อมั่นว่าในไม่ช้าเขาจะหย่าจริง ๆ