บทที่ 9

1609 Words
"เป็นไปไม่ได้!" เสียงของท่านนายพลซูดังมาตามสายด้วยความโกรธทันทีที่ได้รับทราบรายละเอียดจากผู้เป็นบุตรีอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว "ใครกล้ามาแตะต้องธุรกิจของลูกสาวฉัน! ฉันจะจัดการให้เด็ดขาด!" "ลูกต้องการให้พ่อใช้อำนาจที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อออกคำสั่งให้ยกเลิกการระงับสินค้าในทันทีค่ะ" เม่ยหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน "ลูกเชื่อว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่ได้หวังผลแค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นการ ลองเชิงอำนาจของคุณพ่อด้วยค่ะ" ประโยคสุดท้ายของเม่ยหลิงกระตุ้นความรู้สึกในฐานะผู้นำของบิดาได้อย่างตรงจุดที่สุด ท่านนายพลซูผู้ไม่เคยยอมให้ใครหน้าไหนมาท้าทายอำนาจ เม่ยหลิงรู้นิสัยข้อนี้ของบิดาเป็นอย่างดี หลิวเหว่ยเฉิงคงลืมไปว่าเธอเป็นบุตรสาวของใคร "ลูกไม่ต้องกังวลเม่ยหลิง พ่อจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนเที่ยงวันนี้! และพ่อจะส่งคนสนิทไปดูแลการขนส่งของลูกเอง" ในเวลาเดียวกันนั้น หลิวเหว่ยเฉิงกำลังนั่งอยู่ในค่ายทหารอย่างพึงพอใจ เขาแน่ใจว่าซูเม่ยหลิงกำลังวุ่นวายและจะต้องโทรมาขอร้องให้เขาช่วยอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงของภรรยา เสียงโทรศัพท์สายตรงจากสำนักงานใหญ่ของกองทัพกลับดังขึ้น "ท่านรองผู้บัญชาการหลิว! มีคำสั่งด่วนที่สุดจากท่านนายพลซู ให้ยกเลิกคำสั่งระงับสินค้าที่ด่านศุลกากรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนำเข้าของบุตรสาวท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข!" "อะไรนะ!" หลิวเหว่ยเฉิงลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ "และท่านนายพลซูได้เน้นย้ำมาด้วยว่า ไม่ให้ใครหน้าไหนก็ตามที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ เข้ามาแทรกแซงกิจการทางเศรษฐกิจของพลเรือนที่ถูกต้องตามกฎหมายอีก' " ใบหน้าของหลิวเหว่ยเฉิงซีดเผือด การโจมตีของเขาถูกตอบโต้กลับอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุด โดยผู้มีอำนาจที่สูงกว่าเขามากนัก และเป็นการตอบโต้ที่ทำลายความชอบธรรมในการใช้อำนาจของเขาอย่างสิ้นเชิง! หลิวเหว่ยเฉิงเข้าใจทันทีว่า ซูเม่ยหลิงไม่ได้โทรมาขอความช่วยเหลือจากเขาแต่ไปขอความช่วยเหลือจากท่านนายพลซูบิดาของเธอแทน ซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าเขาหลายเท่าตัว ถ้าเขาทำอะไรไปมากกว่านี้มีสิทธิ์หลุดจากตำแหน่งได้ เธอไม่ได้โง่! เธอฉลาดหลักแหลมกว่าที่ฉันคิดไว้มากนัก! เกมนี้ซูเม่ยหลิงเป็นผู้ชนะอย่างงดงาม หลิวเหว่ยเฉิงกำกรามแน่นจนสันเป็นนูนด้วยความขุ่นเคืองที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ความรู้สึกพ่ายแพ้และถูกลดทอนอำนาจเป็นครั้งแรกนี้หนักหนาสาหัสกว่าการสูญเสียใด ๆ ทั้งสิ้น เขากำลังทำให้เธอหลุดลอยห่างไกลไปมากกว่าเดิม "เพราะอะไรกัน!?" เขาคำรามออกมาก่อนจะกวาดทุกอย่างบนโต๊ะกระแทกลงไปบนพื้นด้านล่างจนเกิดเสียงดังกระทบสนั่นไปทั่วห้อง ความคับแค้นและความปรารถนาที่จะครอบครองซูเม่ยหลิงให้ได้ลุกโชนขึ้นมาภายในใจอย่างแรงกล้าและบ้าคลั่งมากกว่าเดิม เม่ยหลิงเดินเข้ามาในห้องด้วยชุดนอนผ้าไหมสีพื้น ใบหน้าของเธอสงบนิ่ง เรื่องวันนี้เธอไม่ได้โกรธหหรือคับแค้นอะไรใครทั้งนั้น เธอเพียงต้องการดำเนินธุรกิจของเธอต่อไป หญิงสาวเดินตรงไปยังโทรศัพท์ที่มุมห้อง เพื่อโทรศัพท์ทางไกลไปยังเสิ่นเจิ้น "คุณเซียวหานคะ" เสียงของเม่ยหลิงอ่อนโยนนุ่มนวล น้ำเสียงทุกครั้งที่เอื้อนเอ่ยสดใสมีชีวิตชีวาอย่างที่หลิวเหว่ยเฉิงไม่เคยได้ยินเธอพูดกับเขามาก่อน "สินค้าออกจากด่านแล้วใช่ไหมคะ? ดีมากค่ะ... ส่วนเรื่องที่ดินนั้น ฉันเชื่อว่าคุณจะจัดการได้เรียบร้อย คุณเซียวคะพักผ่อนบ้างนะคะ คุณทำงานหนักมากค่ะ" บทสนทนา ที่เต็มไปด้วยความใส่ใจและความไว้ใจที่มอบให้ เซียวหาน ประหนึ่งมีดที่กรีดลงมาบนหัวใจของหลิวเหว่ยเฉิง เมื่อเม่ยหลิงวางสายลง เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับหลิวเหว่ยเฉิง สีหน้าหล่อเหลาของเขายังคงดูไม่จืด เต็มไปด้วยความตึงที่มาจากความขุ่นเคือง หึงหวงขั้นสุดแต่ทำอะไรไม่ได้ "เธอมีความสุขมากใช่ไหม?ที่ใช้พ่อของเธอมาทำลายอำนาจของฉัน " เม่ยหลิงเดินเข้าไปใกล้เขาช้า ๆ จนหยุดยืนอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว เธอช้อนตามองเขาอย่างอ่อนโยนจนน่าประหลาดใจ "คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ เหว่ยเฉิง" เสียงของเธอนุ่มนวลแผ่วเบาราวกับสายลม แต่แฝงไปด้วยมีดที่คมกริบมองเขาอย่างท้าทาย "ฉันไม่ได้มีความสุขกับการทำลายอำนาจของคุณเลยแม้แต่น้อย แต่ฉันมีความสุขที่ได้ปกป้องสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง" "สิ่งที่สร้างขึ้นมา?" หลิวเหว่ยเฉิงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน "มันคือเงินของฉัน! เงินที่คุณบีบบังคับฉันมา! เพื่อค้าขายกับไอ้พ่อค้าสกปรกคนนั้น!" "เงินของคุณ... ที่ฉันได้มาอย่างถูกต้องภายใต้ข้อตกลงของเราค่ะ" เม่ยหลิงตอบ "และคุณเซียวหานคือหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ซื่อสัตย์ ไม่ใช่ผู้ชายที่มีผู้หญิงคนอื่นอยู่ในชีวิตสมรสที่ถูกต้องของเขา" เธอเน้นย้ำคำว่า ชีวิตสมรสที่ถูกต้องอย่างเจ็บแสบ "เธอ... เธอไม่ต้องมาตัดสินฉันเรื่อง เยว่เยว่!" หลิวเหว่ยเฉิงลุกขึ้นยืน การเผชิญหน้ากันทำให้เขาต้องมองลงไปในดวงตาของเธอ "ฉันรักเธอ! และเธอเองก็รู้ดี!" "รัก?" เม่ยหลิงยิ้มด้วยความสมเพชอย่างสุดซึ้ง รอยยิ้มนั้นงดงามแต่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า "ความรักของคุณคือการให้ฉันทนอยู่กับความเย็นชานานห้าปี จนต้องตรอมใจตายในชาติที่แล้วอย่างนั้นหรือคะ เหว่ยเฉิง" หลิวเหว่ยเฉิงชะงักกับคำพูดประโยคนั้นของเม่ยหลิง สีหน้าของเขาสับสนอย่างงงงวยด้วยความไม่เข้าใจ "เธอพูดเรื่องอะไร? เรื่องชาติที่แล้ว? เธอเสียสติไปแล้วหรือซูเม่ยหลิง!" "ฉันไม่ได้เสียสติ" เม่ยหลิงส่ายหน้าอย่างช้า ๆ น้ำเสียงของเธอกลับมาเป็นปกติ "ฉันแค่ถามคุณคำถามที่ฉันเคยถามตัวเองมาตลอดชีวิตที่อยู่ร่วมกับคุณค่ะ คุณคาดหวังอะไรจากภรรยาที่ไม่ได้รักเลยแม้แต่น้อยอย่างฉัน?" หลิวเหว่ยเฉิงชะงักไปอีกครั้ง เขาถูกคำถามประโยคนี้โจมตีเข้ามากลางใจอย่างหนักหน่วง ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างพยายามสงบสติอารมณ์ เขายอมรับไม่ได้ว่าซูเม่ยหลิงที่เคยวิ่งตามเขาอย่างโง่งมได้หายไปแล้ว "ฉันไม่ต้องการอะไร... ฉันแค่อยากให้เธอทำตัวเป็นภรรยาที่ดี! เป็นคุณนายหลิวที่มีเกียรติ! ไม่ใช่แม่ค้าที่วิ่งไปมาอยู่กับผู้ชายคนอื่น!" หลิวเหว่ยเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความต้องการของตัวเอง เม่ยหลิงเดินตามเขาไปช้า ๆ แสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้าของเธอ ความงดงามของใบหน้านั้นทำให้เหว่ยเฉิงเผลอมองนิ่งไปชั่วครู่ หัวใจของเขาสั่นน้อย ๆ พร้อมตั้งคำถามบางอย่างกับตัวเอง "คุณไม่ได้ต้องการให้ฉันเป็นภรรยาที่ดีหรอกค่ะ" เม่ยหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่กลับบาดลึกยิ่งกว่าเดิม "คุณแค่ต้องการให้ฉันเป็นเพียงไม้ประดับที่ถูกเก็บไว้ในแจกันจนลืมไปว่า ไม้ประดับมันก็มีชีวิตมีจิตใจเช่นกัน ไม่ใช่สิ่งของที่มีไว้เพื่อเสริมบารมีของใคร" “เม่ยหลิง..ฉัน..” หลิวเหว่ยเฉิงหลับตาลงอย่างช้า ๆ เขาลืมคิดถึงข้อนี้ไป แต่ก่อนเพียงเห็นเธออยู่เคียงข้าง คอยแย้มยิ้มรอเขากลับบ้าน มีตำแหน่ง มีเงินทองให้ใช้ ถูกยกย่องเชิดชูมีหน้ามีตาเพียงแค่นั้นก็พอแล้ว เขาเลยเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มให้กับอีกคนเพื่อชดเชยให้กับเธอ ชีวิตซูเย่วน่าสงสาร แท้จริงเธอเป็นบุตรสาวนอกสมรสของท่านนายพลซูที่ไม่เคยถูกยอมรับ และซูเย่วเคยช่วยชีวิตเขาไว้ในช่วงวัยเด็ก เขาเลยตามใจเธอทุกเรื่อง กระทั่งสัญญาว่าเขาจะรับเธอมาเป็นภรรยาอีกคน "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ตอนนี้... ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นของตายอีกแล้ว คุณไปใช้ชีวิตกับคนที่คุณรักเถอะ ฉันยังอยู่ในตำแหน่งนี้จนกว่าคุณจะพร้อมหย่า เพื่อไปแต่งงานกับน้องสาวของฉันได้ตามใจ" เม่ยหลิงช้อนตามองเขา เธอพร้อมยอมเปิดใจให้เขาเรื่องนี้แล้ว เหลือเพียงเขาที่พร้อมจะปล่อยเธอไปได้หรือยัง “ฉันไม่เคยคิดจะหย่ากับเธอเพื่อไปแต่งงานกับเย่วเย่ว”หลิวเหว่ยเฉิงปฏิเสธ “คุณเห็นแก่ตัวเกินกว่าที่ฉันคิดอีกนะคะ “ ซูเม่ยหลิงเอ่ยขึ้นอย่างสิ้นหวังในตัวเขาอีกครั้ง สายตาของเขาที่มองมายามนี้เกือบทำให้เธอเผลอตัวใจอ่อนอีกครั้ง แต่คำตอบของเขาเรียกสติของเธอได้ครั้ง เขายังคงเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม! “เธอไม่เข้าใจ ก็อย่าตัดสินฉันเลยเม่ยหลิง เธอยังต้องการอะไรอีก บอกฉันมา ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้เธอคนเดิมกลับมา” “ไม่ต้องทำอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่คุณต้องเข้าใจก่อนว่า ชีวิตคู่มันต้องเริ่มจากความซื่อสัตย์ ความรักเดียวใจเดียว ชื่อเสียงเงินทองของคุณฉันไม่ต้องการ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD