2

1633 Words
ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีทำให้เพียงขวัญผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทั้งร้านที่วันนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทั้งขนมที่ออร์เดอร์เข้ามารัว ๆ แถมยังเป็นออร์เดอร์ที่ทำให้เธอกับพนักงานแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนอีกด้วย กลับถึงบ้านเธอคงต้องคุยเรื่องนี้กับผู้เป็นป้าจริง ๆ จัง ๆ เสียแล้ว การรับพนักงานเพิ่มคือสิ่งที่ควรทำ จะมัวขี้เหนียวอยู่จะทำให้เสียลูกค้าไปได้ง่าย ๆ “สวัสดีค่ะคุณป้า” เพียงขวัญยกมือไหว้คริสาที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของตัวบ้าน ท่านพยักหน้าก่อนจะเอ่ยให้เธอนั่งคุยกันก่อน “นั่งก่อนสิ ป้ามีเรื่องจะคุยกับเราหน่อย” “ค่ะคุณป้า หนูเองก็มีเรื่องจะคุยกับคุณป้าเหมือนกันค่ะ” “งั้นก็พูดเรื่องของเรามาก่อนสิ” คริสายกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะพิศมองหลานสาวซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ที่นางอุปการะเลี้ยงดูมาเอาไว้ตั้งแต่แบเบาะด้วยสายตาพินิจพิจารณา คริสาเป็นหญิงสูงวัยอายุอานามราวห้าสิบเศษ เครื่องหน้าของนางจัดว่ายังคงความสวยสง่าอยู่มาก การวางตัวดีและการพูดจาที่ดีทำให้ใคร ๆ ต่างเกรงอกเกรงใจ ผมซอยสั้นเข้ารูปของนางทำให้นางดูดีน่าเกรงขาม รูปร่างของนางยังดูดีไม่มีที่ติ อาจเพราะลูกชายเพียงคนเดียวเป็นถึงคุณหมอเจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดังนั่นเอง “เรื่องการรับพนักงานน่ะค่ะ” “เราจะรับพนักงานเพิ่มให้ได้เลยใช่ไหม” คริสาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูว่าจะไม่พอใจอย่างยิ่งยวด “วันนี้เกือบส่งขนมให้ลูกค้าเจ้าใหญ่ไม่ทันค่ะคุณป้า” “ก็เพราะว่าเรามัวแต่ให้ท้ายพนักงาน ให้พวกมันนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ แอบหนีไปคุยแชทคุยไลน์ เข้าห้องน้ำก็ครั้งละนาน ๆ ความจริงพนักงานที่มีอยู่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและใช้แรงงานได้เต็มความสามารถของมัน แบบที่เราไม่ต้องจ้างพนักงานเพิ่มเลยนะ จ้างมาก็เป็นภาระต้องจ่ายเงินเดือน ต้องจ่ายประกันสังคมให้อีกครึ่งหนึ่ง เจ็บไข้ไม่สบายเราก็แม่พระเหลือเกิน ต้องไปเยี่ยมเยือนเอาของเอาเงินไปให้ เงินทองหายาก เราควรจะรู้จักเก็บเอาไว้ ไม่ใช่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย นี่ยังดีที่มีป้าอยู่ ถ้าไม่มีป้าทั้งร้านขนมและร้านอาหารคงเจ๊งไม่เป็นท่า” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกกระมั้งคะคุณป้า ถึงจะเป็นเวลางาน แต่พนักงานก็ต้องมีพักกันบ้างนะคะ” “เดี๋ยวนี้เราเถียงป้าคำไม่ตกฟากเลยนะ ป้าอาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ข้าวของเดี๋ยวนี้แพงกว่าสมัยก่อนมาก ทำอะไรก็ต้องรอบคอบ รู้จักใช้เงิน รู้จักเก็บหอมรอมริบ รู้จักอดออม รู้จักประหยัด ไม่ใช่ใช้เงินฟุ้งเฟ้อ งานเดี๋ยวนี้หายาก ถ้ามันไม่อยากทำก็รับคนใหม่สิ ใคร ๆ ก็อยากมีงานทำ ใคร ๆ ก็แย่งงานกัน มีคนเยอะแยะขยันอดทน อยากมีงานทำ เราก็จ้างคนพวกนั้นสิ” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้เพียงขวัญไม่รู้จะพูดอะไรอีก “คนน้อยแต่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ยังไงก็ย่อมได้กำไรมากกว่า เราทำธุรกิจก็ต้องหวังผลกำไรไม่ใช่เหรอ จะมัวไปแคร์พวกถ่วงความเจริญอยู่ทำไม ใครอยากอยู่ก็เลี้ยงเอาไว้ ไม่อยากอยู่ก็เฉดหัวมันออกไป เราไม่ได้ทำโรงทานหรือมูลนิธินะถึงจะได้ใจดีไปทั่ว จำคำป้าเอาไว้” “ค่ะคุณป้า” เพียงขวัญไม่อยากโต้เถียงกับผู้เป็นป้าอีก เพราะท่านถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของเธอ ที่สำคัญก็คือท่านเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของร้านและมีผู้จัดการคอยดูแลอีกทีหนึ่ง เพราะว่าสูตรการทำขนมกับสูตรการทำอาหารนั้นตายตัวว่าใส่วัตถุดิบเท่าไหร่อะไรบ้าง จึงตรวจสอบได้ไม่ยากเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายในแต่ละวัน อีกทั้งพนักงานที่ยังเหลืออยู่ก็เป็นคนที่อยู่กับเธอมานานตั้งแต่เปิดร้าน เธอแอบช่วยเหลือและเพิ่มโบนัสให้โดยนำเงินส่วนตัวให้ไป ทำให้พวกเขายังคงอยู่กับเธอ การเปลี่ยนพนักงานบ่อยครั้งไม่ใช่เรื่องดีเพราะต้องสอนงานกันใหม่ กว่าจะรู้ใจกันกว่าจะทำงานคล่องก็ต้องฝึกกันมากโข การมีคนเก่าแก่ที่ทำงานอย่างแข็งขันและรู้ว่าควรทำอะไร ย่อมทำงานได้ดีเยี่ยมและไม่ติดขัดเหมือนพนักงานใหม่ที่ยังทำงานไม่คล่อง “เรื่องพนักงานน่ะพอได้แล้ว หวังว่าเราจะไม่เอามาพูดกับป้าอีกนะ ถ้าอยากจะรับคนใหม่เข้ามาก็ได้ จะได้มีคนเยอะขึ้น แต่ต้องลดเงินเดือนคนเก่า ๆ เอามาจ่ายคนใหม่นะ เขายอมไหมล่ะ แล้วรับมาเยอะก็มายืน มานั่ง มาว่างงานเวลาไม่มีลูกค้า เสียเงินเสียทองเปล่า ๆ ป้าไม่เห็นด้วย” “ค่ะคุณป้า” เพียงขวัญจำต้องรับคำ อยากจะบอกว่าพนักงานของร้านแทบไม่มีใครได้ยืนได้นั่งอย่างที่ผู้เป็นป้าบอก เพราะร้านอาหารกับร้านขนมที่ชื่อว่าร้านอมยิ้มของเธอขายดีทุกวัน ลูกค้าแน่นร้านตลอด อาจเพราะความอร่อยและความคุ้มค่าที่ทำให้มีลูกค้าขาประจำเช่นนี้ “เอาละเรื่องนี้พอแค่นี้ เรากลับมาพูดเรื่องแต่งงานที่เราตกลงกับป้าเอาไว้เมื่อวันก่อนจะดีกว่า” “ค่ะ” เพียงขวัญรับคำ เธอไม่ได้กระตือรือร้นที่จะแต่งงานกับคชากรเพราะว่าเธอนับถือเขาเป็นพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น เธอไม่เคยคิดกับเขาฉันชู้สาวเลย แต่เพราะคำประกาศิตของผู้มีพระคุณนั่นทำให้เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแต่งงานในครั้งนี้ได้ “สามเดือนเองนะ ต้องเตรียมอะไรอีกหลายอย่าง อย่าพูดแต่ว่าค่ะ ๆ เพียงอย่างเดียวสิ เราน่ะเป็นเจ้าสาวของคุณหมอหนุ่มอนาคตไกลและมีชื่อเสียงก็ต้องทำตัวให้โดดเด่นและมีชื่อเสียงตามไปด้วย วันนี้มีคนบอกป้าว่าเราใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟไปช่วยเสิร์ฟเครื่องดื่มในร้านอย่างนั้นเหรอ มันใช่หน้าที่เราเสียที่ไหน ทำไมไม่ให้พนักงานทำ” “วันนี้คนเยอะมากค่ะคุณป้า พนักงานทำงานกันไม่ทัน แล้วก็มีลูกค้ามาสั่งขนมเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปเลี้ยงเด็กกำพร้าเลยค่อนข้างขลุกขลักน่ะค่ะ” “ร้านของเราก็มีคนเยอะแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เปิดร้าน นี่ไงถึงได้เป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าว่ามาร้านของเราต้องรอนานเป็นพิเศษ เพราะอยากกินของดีของอร่อยต้องรอนาน ลูกค้าคนไหนรอไม่ได้ ก็มีลูกค้าคนอื่นยินดีรอ เราต้องรู้จักสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง อย่าเอาแต่ทำอะไรก็ง่ายไปหมด มันขาดความตื่นเต้น” “คุณป้าคิดแบบนั้นเหรอคะ” เธอกลับคิดตรงกันข้ามกับท่าน งานบริการควรบริการให้ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าประทับใจ ไม่ให้รอนาน และได้กินอาหารที่ดีที่สุดจะได้ติดใจกลับมากินที่ร้านของเราอีก “ใช่น่ะสิ ทำเลร้านเอย ฮวงจุ้ยเอย วันเปิดร้านเอย ป้าก็เป็นคนจัดการเองกับมือ เราถึงได้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ายังไงล่ะ หรือเราจะเถียงป้า” “เปล่าค่ะคุณป้า” แม้ลึก ๆ จะคิดว่าสิ่งที่ผู้เป็นป้าพูดมานั้นมันแค่องค์ประกอบภายนอก รสชาติของอาหารและเครื่องดื่มกับการบริการสำคัญมากกว่า แต่เธอก็ไม่อยากเถียงท่านออกไป เธอถูกสอนมาว่าการเถียงผู้ใหญ่เป็นสิ่งไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง “เราต้องไปขัดผิว ทำผม ทำเล็บให้สวย ๆ ไม่ใช่เอาแต่ทำงานงก ๆ ให้คนมาตำหนิหรือนินทาเอาได้ว่าเจ้าสาวของหมอชาขี้เหร่ยังกับอะไรดี” “ค่ะคุณป้า” “รับคำก็ปฏิบัติตามด้วย เดี๋ยวป้าจะเอาตารางให้เราว่าต้องทำอะไรบ้าง แล้วก็ต้องดื่มน้ำมาก ๆ อย่านอนดึกเด็ดขาด ที่สำคัญต้องกินอาหารที่มีประโยชน์และก็ออกกำลังกายทุกวันพร้อมกับพี่เขาด้วย แล้วก็ต้องดูแลพี่เขาให้ดีเข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ” “ต่อไปเราคือเมีย ก็ต้องดูแลผัวให้ดี เหมือนอย่างที่ป้าสอนเรามาตลอด” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวตั้งแต่เล็กจนโต เธอต้องคอยตามดูแลรับใช้คชากรตลอด ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม อาหารการกิน ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยันเรื่องเจ็บป่วยไม่สบาย เพราะคริสาหมายหมั้นปั้นมือให้เธอเป็นเจ้าสาวของเขามาตั้งแต่จำความได้ และเธอกับคชากรก็รับรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด “เรื่องการดูแลพี่เขาสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดเข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ” “แล้วก็ไม่ควรกลับบ้านค่ำ ๆ มืด ๆ ถ้าวันไหนพี่เขากลับเร็วก็ต้องรีบกลับมาก่อนพี่เขา จะได้ดูแลพี่เขาอย่างใกล้ชิด เพราะคนอื่นดูแลพี่เขาไม่ดีเท่าเราหรอก” “ค่ะคุณป้า” “รับคำก็ทำให้ได้ด้วย โน่นพี่เขากลับมาแล้ว” ประโยคของคริสาทำให้เธอต้องรีบดีดตัวขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ในทันที เพราะหากเธอดูแลคชากรไม่ดีก็จะโดนคริสาตำหนิอย่างหนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD