บทที่ 5

815 Words
พนักงานต้อนรับเรียกคนให้มาพาข้าวปุ้นขึ้นไปพบบอสที่พูดถึง เธอตามพนักงานเข้ามาในลิฟต์แล้วกดขึ้นชั้นบน ไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าขึ้นชั้นไหน นอกจากร่างกายจะเหนื่อยล้าแล้วจิตใจยังเป็นกังวลอีก คิดว่าต้องใช่ยังไงก็ต้องใช่แน่ๆ "ตามมาทางนี้เลยค่ะ" ประตูลิฟต์เปิดออกพนักงานก็เดินนำหน้าไปที่ห้องผู้บริหาร ข้าวปุ้นมองไปรอบๆ ชั้นนี้คงเป็นชั้นผู้บริหาร แต่ก็มีฉากกั้นมองไปดูคิดว่าคงเป็นฝ่ายธุรการ หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโรงแรม ก๊อกๆ "บอสคะคนของคุณผู้หญิงคนนั้นมาแล้วค่ะ" "ให้เข้ามา" "........." ประตูเปิดเข้ามาสิ่งแรกที่เธอมองไปก็คือบอสของที่นี่ แล้วมันก็ไม่ได้เกินความคาดหมายเลย "นั่งสิ" ชายหนุ่มค่อยๆ เอนหลังพิงเก้าอี้ที่นั่งอยู่ สายตาจ้องมาที่เธอเขาพอจะรู้แล้วล่ะว่าใครที่จะมาคุยเรื่องนี้ ตกลงเธอมีกี่ร่างกันแน่ ทั้งทำงานกลางวันและกลางคืนเลยเหรอ "สวัสดีค่ะ ฉันมาในนามของคุณเกตุแก้ว เมื่อคืนนี้ได้ยินว่าท่านทำแจกันของที่นี่แตก" "ใช่" ดวงตาของเขายังคงจ้องมาที่เธอจนอีกฝ่ายรู้สึกประหม่าจะมองอะไรนักหนา แต่ถ้าไม่มองหน้าก็ไม่รู้จะให้เขามองที่ไหนเพราะกำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่ "คุณอยากให้ทางเรารับผิดชอบยังไงคะ" "ก็ลองเสนอมาสิว่าจะรับผิดชอบยังไง" "ฉันจะซื้อแจกันอันใหม่คืนให้คุณค่ะ" "หึ.." อยู่ดีๆ ใบหน้าเขาก็กระตุกยิ้ม ..ทำแตกก็ต้องซื้อแทนสิมีอะไรน่าขำ "มันแพงมากเลยหรือคะ" เธอคิดว่าเจ้านายยังไงก็มีเงินจ่ายอยู่แล้ว เลยต้องถามราคาแจกันดู "แพงไม่เท่าไรหรอก แต่แจกันคู่นั้นมีแค่คู่เดียวในโลก" "คะ?" อะไรกันเนี่ยนอกจากจะแพงแล้วแถมยังมีแค่สองอันเองเหรอ "แล้วคุณจะให้ทางเรารับผิดชอบยังไงล่ะคะ" "ถ้าผมบอกว่าอยากได้แจกันที่แตกคืนมาล่ะ" "คุณบอกว่ามีคู่เดียวในโลก แสดงว่ามันมีอยู่สองอัน อีกอันหนึ่งอยู่ที่ไหนล่ะคะ" เธอคิดว่าซื้ออีกอันมาคืนอันที่แตกก็คงได้ "อยู่ที่ห้องจัดเลี้ยง" แสดงว่าเขาครอบครองคนเดียวทั้งสองเลยเหรอ ของแพงขนาดนั้นทำไมต้องเอาไปไว้ในสถานที่แบบนั้นด้วย "ในเมื่อมันแตกไปแล้ว เราก็ขอชดใช้เป็นเงินแทนแล้วกันค่ะ" "ค่าของแจกันมันประเมินค่าไม่ได้คุณจะให้ผมเท่าไรล่ะ" "คุณบอกว่ามันประเมินค่าไม่ได้ นั่นแสดงว่ามันก็ยังมีราคาในตัวมันอยู่ คุณเป็นเจ้าของก็บอกราคามาสิคะ" เธอตอบได้ฉะฉานมาก สีหน้าก็นิ่ง บางทีแอบมีตกใจตอนที่เขาบอกว่ามันประเมินค่าไม่ได้แต่สีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติได้เร็ว >>{"อะไรนะ?! แกไปคุยยังไงเขาถึงคิดราคาขนาดนั้น"} หลังจากที่รู้ราคาข้าวปุ้นก็โทรไปแจ้งคุณผู้หญิง เธอก็แอบตกใจอยู่หรอกแจกันอะไรจะราคาสูงขนาดนั้น {"แล้วจะทำยังไงดีคะ"} >>{"จะทำยังไงล่ะแกก็หาเงินไปใช้เองเลยแล้วกัน"} {"เดี๋ยวก่อนสิคะ"} บ้าไปแล้วทำแตกเธอก็ไม่ได้ทำ แถมต้องแบกทั้งหน้าและสังขารตัวเองมาเจรจาให้ ยังต้องเป็นคนรับผิดชอบอีกแล้วเงินตั้งหลายล้านใครจะมีล่ะ ขนาดรถยังผ่อนอยู่เลย ข้าวปุ้นที่ขอออกมาคุยโทรศัพท์ก็กลับเข้าไปหาบอสเจ้าของโรงแรมอีกรอบ "คุณพอจะลดราคาลงมาได้ไหมคะ" "เมื่อกี้คุณเองไม่ใช่เหรอเป็นคนบอกให้ผมตั้งราคา" ทำไมมันเหมือนเป็นความผิดของเราเลยล่ะ ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย "ผมให้เวลาคุณสามวันแล้วกัน" หรือเธอจะไปคุยกับคุณผู้ชายดี เวลาสามวันคงพอแก้ไขเรื่องนี้ได้ ขณะที่เธอกำลังจะลุกโทรศัพท์ก็มีสายเข้า >>{"ค่ะ"} เป็นสายเดิมที่เธอโทรออกไปหาเมื่อครู่ ข้าวปุ้นรีบรับคิดว่าคุณผู้หญิงคงหาทางออกได้แล้ว {"เรื่องนี้ห้ามโทรไปบอกสามีฉัน และเงินที่บอกมามันเยอะเกินไปต่อรองให้เหลือแค่ 1 ส่วน 10"} >>{"อะไรนะคะ?"} ยังไม่ทันได้พูดอะไรทางนั้นก็ตัดสายไปอีกแล้ว เธอเลยชำเลืองไปมองดูเขาที่กำลังมองมาเช่นกัน "คือว่า คุณช่วยลดราคาให้เหลือ 1 ส่วน 10 ของจำนวนเงินที่คุณบอกมาได้ไหมคะ" "ไม่ได้"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD