ทำนายความลับสวรรค์

1054 Words
เส้นทางที่ทั้งสองเดินออกจากตลาดนั้นเสี่ยวชุนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ด้วยว่าหลายปีมานี้นางมาเยือนร้านยาท่านหมอจ่างอยู่เป็นประจำ “เสี่ยวชุนหลายปีมานี้ลำบากเจ้าต้องวิ่งลงเขามาหาท่านหมอจ่างเพื่อข้า บุญคุณนี้ข้าหลี่อวี้ถิงจะจดจำไว้ไม่ลืมเลือน” ฝ่ามือน้อยของนางกระชับแรงจับที่แขนเสี่ยวชุน “คุณหนูท่านอย่าพูดอย่างนี้เลยเจ้าค่ะ บุญคุณของคุณหนูชาตินี้บ่าวอย่างข้าทดแทนไม่หมดเช่นกันเจ้าค่ะ” “เจ้าย้อนข้าเก่งขึ้นทุกวัน” หลี่อวี้ถิงยิ้มบาง สองคนพูดคุยไปพลางเดินไปไม่รีบร้อน พลันเบื้องหน้ามีบุรุษร่างสูงผู้หนึ่งสวมหมวกปิดบังใบหน้ากระโดดมาขวางทางสองนายบ่าวไว้ เสี่ยวชุนร้องเสียงหลงรีบก้าวขึ้นมาด้านหน้ากันร่างหลี่อวี้ถิงไว้ด้านหลัง “คุณชายท่านนี้มีธุระอะไรกับพวกข้าสองคนหรือ” “พวกเจ้าไม่ต้องตกใจไปข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่อยากพูดคุยกับแม่นางท่านนี้สักครู่” น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าฟังทั้งยังวาจาพูดสุภาพให้เกียรติ ถึงกระนั้นเสี่ยวชุนเลือกที่จะไว้ใจเพียงครึ่งเดียวตามที่หลี่อวี้ถิงพร่ำสอนนาง “คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบมีเรื่องอะไรอยากพูดกับข้า” “ไม่มากหรอก รบกวนแม่นางครู่เดียวเท่านั้น” หลี่อวี้ถิงย่อมไม่กลัวคนแปลกหน้าอยู่แล้ว ชาติก่อนนางพอมีวิชาป้องกันตัวเบื้องต้นอยู่บ้างโดยเฉพาะวิชาหมัดมวย ห่วงก็แต่เสี่ยวชุนรายนั้นหากเจอเรื่องร้ายแรงเข้าไม่แน่ว่าอาจจะตกใจจนขาดสติ กลับไปต้องฝึกฝนเรื่องนี้ให้เสี่ยวชุนเพิ่มเติม “คุณชายอยากรบกวนเรื่องอะไรว่ามาเถอะ” “แม่นางเป็นนักพยากรณ์ใช่หรือไม่” “เชิญถามมา ข้าไม่อาจยกตนว่ามีความสามารถ หากแต่บางเรื่องข้าไม่ปฏิเสธว่าล่วงรู้ได้” “ข้าอยากรู้เรื่องลูกแกะตัวโต จะถูกธนูยิงหรือไม่” “...หา...” เสี่ยวชุนได้แต่อ้าปากค้าง บุรุษผู้นี้ถามเรื่องลูกแกะถูกยิงอะไรกันดูจะไร้แก่นสารไปหน่อยหรือไม่ “เสี่ยวชุนเจ้าถอยไปสักหน่อยเถิด” “คุณหนู จะดีเหรอเจ้าคะ” “ไม่ฟังข้าแล้วหรือ” คำพูดประโยคเดียวนี้ทำเอาเสี่ยวชุนเดินหน้างอถอยออกไปหนึ่งจั้ง บุรุษผู้นั้นเอ่ยคำถามไม่อ้อมค้อมทั้งยังเป็นคำถามสำคัญเสียด้วย เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ที่พวกนางเผยตัวตนในร้านน้ำชาได้ผลดี จริงอย่างที่หลี้อวี้ถิงบอกเขา เรื่องในอนาคตนางรู้ดีกว่าใคร “ข้าเข้าใจคำถามคุณชาย เชิญถามมาเถอะ” “ขออภัยด้วย” บุรุษผู้นั้นเอื้อมมือปลดชายผ้าคลุมหน้านางออก เขาระวังตัวมากทีเดียว ใบหน้าซูบซีดดวงตาเหม่อลอย นัยน์ตาที่มีเมฆหมอกสีขาวขวางกั้นอยู่ของนางเผยสู่สายตา นางตาบอดหรือนี่? “ข้ารู้เรื่องที่คุณชายต้องการจะถาม ท่านไม่ไว้ใจข้าพอจะเข้าใจได้ดังนั้นคุณชายไม่ต้องขออภัย แต่เรื่องอื่นต่อจากนี้ไม่นับ” “เช่นนั้นคำถามของข้า แม่นางสามารถตอบได้หรือไม่” “บอกท่านไว้ก่อนหากเป็นเรื่องหยั่งใจผู้คนข้าไม่อาจล่วงรู้ได้ แต่นี่เป็นเรื่องของมังกรสวรรค์ ข้ามองเห็นได้แน่นอน” หลี่อวี้ถิงรับรู้ได้ถึงร่างบุรุษเบื้องหน้าแผ่กลิ่นอายอันตรายออกมา บังเอิญว่านางรู้เรื่องที่เขาถามมาจริงเสียด้วย ถึงได้บอกเสี่ยวชุนถอยออกไปก่อน เรื่องที่นางรู้มาสำคัญยิ่งกว่าชีวิตคนบางคนเสียด้วยซ้ำ “แม่นางยอมเผยความลับสวรรค์ให้ข้ารู้ จะไม่นึกเสียใจภายหลังหรือ” หลี่อวี้ถิงกระซิบเสียงเบา “คนคำนวณ ไม่สู้ฟ้าลิขิต” “เช่นนั้นคำทำนายของแม่นางคือสิ่งใด” “รบกวนขอมือคุณชาย” สองมือน้อยเอื้อมไปข้างหน้าจนสัมผัสเข้ากับแผงอกกำยำ บุรุษผู้นี้ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้าม ไม่แน่เขาอาจมีวรยุทธแบบที่ผู้คนยุคนี้นิยมกัน ฝ่ามือหนาคว้าจับมือบอบบางของหลี่อวี้ถิงไว้ เสียงคำรามในลำคอของเสี่ยวชุนได้ยินมาจนถึงสองคน หลี่อวี้ถิงไม่สนใจนางเขียนตัวอักษรบางอย่างใส่มือบุรุษผู้นั้น ก่อนค้อมกายทำความเคารพแล้วจึงร้องเรียกเสี่ยวชุน บุรุษปิดหน้ายืนนิ่งอยู่ที่เดิม หากแต่ยามเสี่ยวชุนหันกลับมาอีกทีกลับไม่พบร่างของเขาเสียแล้ว “เขาหายไปแล้วเจ้าค่ะ” “เขาน่าจะมีวรยุทธ ช่างเถอะเราอย่าไปยุ่งเรื่องของเขาเลย” “คุณหนูเจ้าคะพวกท่านคุยอะไรกัน เหตุใดบุรุษผู้นั้นถึงได้จับมือคุณหนู เขาปิดหน้าปิดตาท่าทางไม่น่าไว้ใจ” น้ำเสียงเสี่ยวชุนยังเคืองอยู่ไม่น้อย หลี่อวี้ถิงหันมายิ้ม “ความลับสวรรค์” จะไม่ให้เป็นความลับสวรรค์ได้อย่างไร เมื่อครู่บุรุษปิดหน้าได้ยินแล้วว่านางเป็นบุตรสาวหลี่โหยวจิ้ง ส่วนเรื่องราวลูกแกะที่ถูกธนูยิงนั้น คือคำเปรียบเทียบถึงการแก่งแย่งอำนาจของสายสกุล มู่หรง กับสายสกุล ซือหม่า ในยุคนี้แคว้นต้าจิ้นแตกออกเป็นสองฝ่าย หากแต่บัลลังก์มังกรยามนี้ยังเป็นของคนสกุลมู่หรงอยู่ ส่วนตวนอ๋องสายสกุลซือ หม่านั้นแม้ปกครองดินแดนของตน ห่างไกลจากเมืองหลวงแต่ก็เป็นดั่งคลื่นใต้น้ำ แผ่นดินสุขสงบมีที่ไหนเป็นความจริงบ้าง แค่เพียงฉากหน้าเท่านั้นส่วนความลับสวรรค์เบื้องหลังนั้น หลี่อวี้ถิงรู้อยู่แก่ใจถึงได้ยอมเผยให้บุรุษปิดหน้ารู้ จะอย่างไรนางอยู่ในฐานะนักทำนาย อนาคตจะเป็นจริงได้หรือไม่นั่นยังไม่แน่ เรื่องราวในยามบ่ายแดดอ่อน เชิงเขาหลิงซานจบลงเช่นนี้ บรรยากาศงดงามรายล้อมด้วยขุนเมาแมกไม้ แตกต่างจากเมืองหลวงเจียนคังที่อากาศเริ่มหนาวเย็น วันนี้สายฝนเย็บเฉียบโปรยปรายลงมาไม่หยุด ทว่าภายในเรือนสามสารทจวนเสนาบดีกรมพิธีการกลับอบอุ่นสบาย หนึ่งเดือนก่อนหลี่โหยว จิ้งรองเจ้ากรมพิธีการได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นเจ้ากรมพิธีการเต็มตัว บรรยากาศภายในจวนเจ้ากรมพิธีการคนใหม่จึงนับว่าสดใสแช่มชื่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD