เช้าตรู่วันต่อมาพนักงานทำความสะอาดศาลเจ้าที่คนใหม่ก็มารายงานตัว หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมหรูมีคุณป้าแม่บ้านร่างท้วมยืนอยู่
“หน้าที่ของหนูอัญก็มีประมาณนี้แหละลูก ทำได้ใช่ไหม” น้ำเสียงอบอุ่นปนใจดีบอกกับคนอายุน้อยกว่าหลังจากบอกรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้เธอฟัง
“ทำได้ค่ะ แล้วเวลาอื่นล่ะคะให้หนูทำอะไร” เสียงหวานตอบรับก่อนจะถามต่อ หญิงต่างวัยสองคนคุยไปเดินไป คนอายุมากกว่าแนะนำโซนต่าง ๆ ในโรงแรมให้ฟังอย่างใจเย็น
“เวลาอื่นก็เตรียมของไหว้ช่วงเย็นไว้ คุณคิมหันต์แกไม่ชอบให้มีของไหว้ค้างไว้หน้าศาลนาน ๆ น่ะ”
“คุณคิมหันต์เหรอคะ?” คิ้วมนขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อนี้ “ใช่ชื่อของคนที่อยู่บนนามบัตรนี้ไหมคะ” ว่าจบก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายหยิบนามบัตรใบหรูออกมาให้คนตรงหน้าดู
“คุณคิมหันต์เป็นเจ้าของโรงแรมที่นี่ แกพักที่นี่แต่อยู่ชั้นบนโน่น” คุณป้าใจดีเอ่ยพลางรับนามบัตรจากคนตัวเล็กมาดู ทว่าก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อมองไม่เห็นตัวหนังสือบนนามบัตร “โอ๊ย ป้ามองไม่เห็นหรอกตัวหนังสือบนนี้น่ะ สงสัยแก่แล้วสายตาเลยไม่ค่อยดี แต่คงเป็นเจ้านายเรานี่แหละเพราะโรงแรมนี้มีคนชื่อคิมหันต์แค่คนเดียว”
“เหรอคะ…” มือเรียวรับนามบัตรมาเก็บไว้ตามเดิมด้วยความไม่เข้าใจนัก ตัวหนังสือใหญ่ออกปานนี้แต่ป้ากลับมองไม่เห็น สงสัยจะสายตาไม่ค่อยดีอย่างที่ป้าว่า
“งั้นช่วงสาย ๆ ก็ค่อยไปเก็บของไหว้แล้วกันนะ ตอนนี้ก็ไปปัดกวาดเช็ดถูศาลแล้วก็ทำความสะอาดลานหน้าศาลก่อนก็แล้วกัน” คุณป้าพูดต่อ
“ค่ะ แล้วเวลาอื่นให้หนูทำอะไรคะ หน้าที่หนูน่าจะมีเวลาว่างเยอะ ให้หนูช่วยงานป้าก็ได้นะ” คนอายุน้อยถามขณะเดินตามร่างท้วมไปยังห้องเก็บของ
“เอางั้นเหรอ… เอางี้ก็ได้ ถ้าว่างก็ไปทำความสะอาดชั้นบนให้ป้าหน่อยนะ ชั้นนั้นนอกจากป้าแล้วก็ไม่มีใครดูแล ที่ผ่านมาลูกน้องคนสนิทของคุณคิมหันต์เป็นคนดูแล ป้าเห็นแล้วเหนื่อยแทนเลยอาสาไปทำให้ งานเอกสารก็เยอะแล้วยังต้องมาทำความสะอาดอีกสงสารน่ะ” คนอายุมากบ่นอุบขณะหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมาจากตู้เก็บของยื่นให้คนตัวเล็ก
“แล้วทำไมถึงไม่มีแม่บ้านขึ้นไปทำล่ะคะ ทำไมป้าต้องทำคนเดียวด้วย” มือเรียวรับของมาถือไว้ ปากก็ถามไปด้วย
“ถ้าป้าเล่าให้ฟังแล้วหนูจะกลัวไหมล่ะ” คนถูกถามกวักมือไว ๆ ให้คนตัวเล็กขยับเข้ามาใกล้ ก่อนจะหันมองซ้ายขวาแล้วพูดต่อ “ที่โรงแรมนี้เขาว่ามีผีอยู่ชั้นบนน่ะ”
“ผี?”
“ใช่ ผีดุซะด้วย” ปากบอกว่าผีแต่กลับยิ้มทั้งยังหัวเราะคิกคักชอบใจแบบนี้ ยังไงกันนะ...
“ป้าไม่กลัวเหรอคะ” พอเห็นท่าทางของป้าที่เล่าให้ฟังก็เลยถามด้วยความอยากรู้
“เออน่า อยากรู้ว่าน่ากลัวไหมหนูก็ลองขึ้นไปทำความสะอาดดูก็แล้วกัน แต่ถ้าเจอผีก็อย่าไปบอกใครล่ะ เก็บเป็นความลับที่รู้กันแค่เราสองคนนะรู้ไหม”
“...ค่ะ” สาวน้อยพยักหน้าหงึกหงักให้คนตรงหน้าที่พูดจบแล้วก็หัวเราะชอบใจต่อ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานทั้งที่ในใจครุ่นคิดเรื่องที่เพิ่งได้ฟังมา
@ ศาลเจ้าที่คิมหันต์
แกรก แกรก แกรก!
เสียงไม้กวาดทางมะพร้าวดังกระทบพื้นซีเมนต์หน้าศาลเจ้าที่หลังน้อย มือเรียวสะบัดด้ามไม้กวาดไปมาซ้ำ ๆ ตามจุดที่มีใบไม้ร่วงลงมา ลานเจ้าที่แห่งนี้ดูเงียบเหงาและวังเวงจนน่าขนลุกทั้งที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรม
“เสียงอะไรวะ!” บริวารหนุ่มที่กำลังนั่งทำสมาธิลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดเมื่อมีเสียงดังรบกวน
“ก็จะอะไรอีกล่ะ คนที่มึงสัมภาษณ์งานเมื่อคืนเขามาทำงานแล้วน่ะสิ” เทวาบอกเพื่อนรักขณะเดินเข้ามาในห้องบำเพ็ญเพียร
“มาแต่เช้าเลยเหรอวะ กูบอกให้เริ่มงามแปดโมงนะ” เทวินถอนหายใจพรืดใหญ่ออกมาก่อนจะเดินไปยังระเบียงศาล สายตาก็จ้องมองไปยังร่างอรชรที่กำลังทำความสะอาดลานกว้างอยู่
“เริ่มงานวันแรกก็คงกะเวลาเดินทางไม่ถูกมั้ง” เทวาที่เดินตามออกมาพูดขึ้น “ว่าแต่เด็กนี่ไม่มีด้ายแดงที่ข้อมือจริง ๆ ด้วยว่ะ” เขาสังเกตข้อมือเล็กทั้งสองข้างแต่ก็ว่างเปล่าอย่างที่เทวินว่า
“มึงว่าจะใช่ไหมวะ” เทวินหันไปถามเพื่อนก่อนจะหันกลับมาจ้องมองคนนอกศาล
“ใช่ไม่ใช่เดี๋ยวก็รู้เองแหละ คืนพระจันทร์ซ้อนที่กำลังจะถึงนี้เดี๋ยวท่านคิมหันต์ก็ทำพิธีระลึกชาติให้เด็กนี่” เมื่อเพื่อนรักพูดแบบนั้นเทวินก็พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ
คืนพระจันทร์ซ้อนคือคืนวันเพ็ญและตรงกับวันจันทร์อีกที สำหรับคนในโลกวิญญาณแล้ว คืนพระจันทร์ซ้อนเป็นคืนเดียวที่ทำพิธีระลึกชาติได้ และเป็นอีกหนึ่งคืนที่ดวงวิญญาณทั้งหลายนิยมทำสมาธิกลางแสงจันทร์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับดวงวิญญาณ
หากพูดกันอย่างคนเป็น คืนพระจันทร์ซ้อนคงเป็นคืนเดียวกับคืนจันทร์ซ้อนจันทร์ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำและตรงกับวันจันทร์ ในหนึ่งปีจะมีอยู่แค่ไม่กี่วัน อาจมีหนึ่งหรือสองวันเท่านั้น สำหรับผู้คนในโลกคนเป็น คืนจันทร์ซ้อนจันทร์นั้นเป็นฤกษ์มงคล และหากคนไหนมีของดีของขลังในสมัยก่อนคงมีการอาบแสงจันทร์ หรือทำพิธีไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพรัก เพราะเชื่อว่าจะเกิดผลเป็นทวีคูณ และเป็นสิริมงคล แต่ในสมัยนี้ก็ไม่แน่ใจนักว่ายังเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า
“ว่าแต่คืนพระจันทร์ที่จะมาถึงนี่ มึงบอกท่านคิมหันต์หรือยังว่าพวกเราจะไม่อยู่ ท่านต้องดูแลโรงแรมคนเดียว แล้วก็ทำพิธีระลึกชาติให้เด็กนั่นคนเดียว” พอนึกถึงคืนสำคัญที่กำลังจะมาถึง ก็นึกขึ้นได้พอดีว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่อยู่กัน
“กูบอกท่านแล้ว” เทวาหันไปบอกเพื่อนรัก “ปีที่แล้วพวกเราไม่ได้ลองอาคมกลางแสงจันทร์ ปีนี้เราจะพลาดได้ยังไง”
“นั่นสิ” วันสำคัญแบบนี้นอกจากได้ทำสมาธิกลางแสงจันทร์แล้ว ก็ต้องได้ลองอาคมกลางแสงจันทร์ด้วยสิ ถึงจะรู้ว่าตัวเองแข็งแกร่งมากแค่ไหน