“นังพร นั่นเด็กที่มาทำความสะอาดศาลเจ้าที่คนใหม่เหรอ” ร่างผอมบางของชายวัยกลางคนในชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเอ่ยถามคนที่กำลังเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่
“เออใช่ ยังเด็กอยู่เลยน่าจะได้เรียนต่อสูง ๆ เนาะแกว่าไหมไอ้ช้าง” คนถูกถามหันไปตอบเพื่อนร่วมงานที่อยู่คนละแผนก
“แล้วนังหนูมันจะไปไหนน่ะ ไม่ใช่จำทางกลับไม่ได้นะ” ลุงช้างยังไม่หยุดถามเมื่อเห็นคนอายุน้อยกว่ากำลังเดินไปอีกทาง
“สงสัยจะขึ้นไปชั้นบนมั้ง ฉันให้ไปทำความสะอาดชั้นนั้นช่วยน่ะ ช่วงนี้แกก็เห็นว่าฉันยุ่งกับชั้นล่างมากแค่ไหน ถ้ารู้ว่าเป็นหัวหน้าแม่บ้านแล้วจะวุ่นวายขนาดนี้ฉันไม่รับตำแหน่งหรอก”
“แกจะบ้าเหรอนังพร แกก็รู้ว่าชั้นนั้นมีอะไร” ลุงช้างผู้กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจหันไปดุเพื่อนเข้า สมัยที่ลุงช้างเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ ๆ ได้ขึ้นไปตรวจตราชั้นบนบ่อย ๆ แต่ก็มีอันต้องเจอดีตลอด ทั้งเสียงร้องน่ากลัวและเสียงพูดคุยกันทั้งที่ไม่มีคนอยู่ ไหนจะประตูและหน้าต่างที่เปิดปิดเองอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่ไม่มีลมพัด จากนั้นข่าวลือเรื่องชั้นบนมีผีก็เริ่มกระจายไปทั่วโรงแรมในหมูพนักงานรุ่นเก่า ยังดีที่ทุกคนเลือกจะปิดเรื่องนี้ไว้เพราะไม่อยากให้ลูกค้ารู้
“ตอนฉันเล่าให้ฟังว่าชั้นบนมีผี นังหนูมันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” ป้าพรพูดก่อนจะตะโกนเรียกคนข้างนอกที่ยังคงเดินวนไปมาเหมือนหาอะไรอยู่ “หนูอัญ มานี่ก่อนมา ๆ”
“ค่ะป้า” เสียงหวานตอบรับเมื่อหันกลับมาแล้วเห็นว่าคนอายุมากกว่ากำลังกวักมือเรียก
“นี่ลุงช้าง มันเป็นยามที่นี่” พอเข้ามาให้ห้องเก็บของป้าพรก็แนะนำคนข้าง ๆ ให้เด็กสาวรู้จัก
“สวัสดีค่ะลุงช้าง หนูชื่ออัญชันนะคะ เรียกอัญเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” มือเรียวประนมขึ้นแนบอกทักทายคนอายุมากกว่าด้วยท่าทีนอบน้อม
“เออหวัดดีลูกหวัดดี”
“แล้วนี่จะไปไหนน่ะ” ป้าพรถาม
“หนูจะขึ้นไปทำความสะอาดชั้นบนค่ะป้า แต่ไม่รู้ว่าต้องไปขึ้นลิฟต์ตรงไหน หาลิฟต์ของพนักงานไม่เจอ”
“อยู่ข้างห้องเก็บของเรานี่” ป้าว่า
“อ้าวเหรอคะ หนูหาไม่เจอ”
“ถ้างั้นก็ไปทำงานเถอะ ป้าจะออกไปซื้อกับข้าวเดี๋ยวเสร็จแล้วมาพักกินข้าวกัน” ป้าพรพูดต่อ “มีอะไรถ้าป้ายังไม่กลับมาหรือหาป้าไม่เจอก็ถามลุงช้างนะ”
“ค่ะ”
“ลุงอยู่ป้อมยามหลังโรงแรมนี่นะหนูอัญ” ลุงช้างว่าพลางชี้นิ้วไปยังอีกทางซึ่งไม่ไกลจากห้องเก็บของนัก
“ค่ะลุง” ว่าแล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายกัน
ติ๊ง!
เสียงประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อเคลื่อนมาส่งผู้โดยสารถึงชั้นบนสุด ร่างเล็กก้าวเท้าออกมาด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ บรรยากาศชั้นบนวังเวงและเงียบจนน่าขนลุก แต่จะว่าไปเงียบแบบนี้มันก็ปกติแหละ ไม่มีคนอยู่จะไม่ให้เงียบได้ยังไง
“มีผีจริงปะเนี่ย” ปากว่าขาก็เดินไปตามโถงทางเดิน ชั้นบนนี้กว้างใหญ่แต่น่าแปลกที่มีห้องแค่ไม่กี่ห้องเท่านั้น แถมลิฟต์ที่ใช้ขึ้นมาชั้นนี้ก็เป็นคนละตัวกับที่ลูกค้าและพนักงานใช้
“ป้าบอกว่าห้องริมนั้นเป็นห้องนอนของคุณคิมหันต์กับลูกน้องคนสนิท ส่วนห้องริมทางนี้เป็นห้องทำงาน ห้องกลางเป็นห้องประชุมกับห้องโถงเปล่า” ปากหวานพึมพำก่อนจะตรงไปยังห้องทำงาน
“ทำห้องทำงานนี่แหละแล้วค่อยไปทำห้องอื่นต่อ ส่วนห้องนอนค่อยให้ป้ามาทำ” ว่าแล้วก็เตรียมยกมือขึ้นเคาะประตู ทว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากห้องทำงานอีกห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ทำให้มือเรียวชะงัก
ตึก ตึก ตึก
เสียงบางอย่างคล้ายของแข็งกระทบพื้นทำเอาร่างบางต้องหันไปมอง บานประตูห้องที่แง้มไว้เกือบครึ่งกว้างพอที่ร่างเล็กจะเดินเข้าไปได้
แอดด!
“...” หรือว่าจะเจอดีเข้าแล้ว?
ร่างเล็กถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านใน มือข้างหนึ่งกุมอกไว้ด้วยความประหม่า สายตาก็มองหาต้นตอของเสียงที่ยังคงดังติดต่อกัน
“ห้องทำงานใหญ่จัง…” เสียงหวานพึมพำเมื่อเดินผ่านโซนที่มีโซฟาตั้งอยู่ เดินมาอีกไม่กี่ก้าวก็มีชั้นหนังสือมากมายเรียงรายกันราวกับเป็นห้องสมุด “แล้วโต๊ะทำงานอยู่ตรงไหนนะ…”
“อ๊าา สะเสียวจังเลยค่ะ”
“...!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อภาพที่เห็นผ่านช่องหนังสือในชั้นที่ว่างนั้นมันติดเรทสุด ๆ
เรียวขาสองข้างของสาวสวยคนหนึ่งพาดลงบนไหล่กว้างของใครบางคน โดยที่เธอนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน ร่างกำยำเปลือยเปล่ายืนแทรกกลางหว่างขาเรียว พื้นที่ตรงหน้ามีเอกสารมากมายกระจัดกระจายอยู่ บ้างก็ตกลงไปกับพื้นห้อง
“ฉะฉิบหายแล้วไหมล่ะ…” คนตาดีตบหน้าผากตัวเองไปหนึ่งทีเมื่อเข้ามาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น
“ใครน่ะ!” ทว่าก็ต้องรีบย่อตัวนั่งลง เมื่อใบหน้าคมคายของใครบางคนหันมายังทิศทางที่เธอยืนอยู่ ยังดีที่ชั้นหนังสือที่เธอใช้ซ่อนตัวมีเพียงชั้นบนแค่ชั้นเดียวที่ว่างเปล่า ชั้นล่างมีหนังสือเต็มชั้นทำให้สองคนที่กำลังเล่นท่ายากกันอยู่มองไม่เห็น
“ไม่เห็นมีใครเลยนี่คะ” เสียงหวานปนหอบของหญิงสาวที่นั่งบนโต๊ะทำงานเอ่ยกับคนตรงหน้า “ไหนคุณบอกว่าชั้นบนไม่มีใครขึ้นมาได้ นอกจากคนของคุณกับแม่บ้านคนนั้นล่ะคะ”
“นั่นสิ สงสัยผมจะหูฝาดน่ะ เหมือนได้ยินเสียงอะไร” ใบหน้าคมคายหันไปยิ้มหวานใส่คนตรงหน้า ก่อนจะโน้มลงไปตะโบมจูบดูดดึงยอดดอกบัวงาม
“อ๊าา เบา ๆ สิคะคิมหันต์”
“...!” คิมหันต์
มือเรียวสองข้างทึ้งหัวตัวเองแรง ๆ เมื่อได้ยินชื่อของใครบางคนเข้า นี่เธอมาทำงานวันแรกก็ได้เห็นเจ้านายเล่นท่ายากเลยเหรอเนี่ย ถ้าโดนจับได้ต้องถูกไล่ออกแน่ ๆ เลย
“โธ่เอ๊ย จะให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด” สาวน้อยพึมพำพลางมองหาทิศทางที่จะเดินกลับไป
ปึก!
“อ๊าา! คะคิมคะอ๊าา” แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้คลานเข่าออกจากจุดที่แอบอยู่ เสียงบางอย่างที่ดังใกล้แค่หนังสือกั้นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ
อีกฝั่งของชั้นหนังสือมีคนสองคนกำลังบรรเลงจังหวะรักใส่กัน ว่าแต่ย้ายที่กันตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย?
“หันหลังหน่อยสิเดียร์” เสียงทุ้มปนแหบพร่าเอ่ยกับหญิงสาว มือใหญ่หมุนร่างเปลือยเปล่าให้หันหน้าเข้าหาชั้นหนังสือ “ชอบไหม” เสียงทุ้มปนแหบกระซิบ
“...!” ประโยคนั้นถามผู้หญิงคนนั้นก็จริง แต่เสียงนั่นคล้ายกับว่าดังขึ้นข้างหูเธอ
ขนลุกชะมัด!
ปึก ปึก ปึก!
“อ๊ะ อ๊าา คิมคะอ๊าา” บั้นท้ายงามสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกเมื่อจังหวะหนักหน่วงของเอวสอบกระหน่ำเข้าหา ร่างใหญ่เปลือยเปล่าสาดจังหวะร้อนแรงเข้าหาบั้นท้ายงาม มือใหญ่สองข้างจับเอวคอดไว้แน่นจนเส้นเลือดตามหลังมือและท่อนแขนนูนปูดขึ้นเป็นทางยาว
ปึก ปึก ปึก!
“อ๊าสส!” เสียงคำรามของร่างใหญ่ดังกึกก้องไปทั่วห้องสับกับเสียงร้องครางของหญิงสาว ทั้งเสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะถี่รัวก็ทำให้ร่างเล็กที่นั่งปิดหูตัวเองอยู่อีกฝั่งแทบบ้า ในใจอยากออกไปจากตรงนี้แต่ก็ไม่กล้าลุกเพราะก้าวขาไม่ออก ทั้งกลัวว่าจะมีคนเห็นหากขยับตัวเพราะอยู่ใกล้กัน
“อ๊ะ อ๊าา คิมคะอ๊าา”
โครม!
หนังสือหลายเล่มตกลงมาจากชั้นวางเมื่อแรงกระแทกทำให้ชั้นทั้งชั้นสั่นสะเทือน มือเรียวลูบหัวตัวเองปอย ๆ เพราะโดนหนังสือตกใส่เต็ม ๆ
“เจ็บไหม” เสียงทุ้มปนแหบพร่าเอ่ยถามหญิงสาว
“ไม่ค่ะ เดียร์ชอบอ๊าา”
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเสียงนั้นถามใคร แต่ทำไมถึงได้ยินใกล้ราวกับคนข้างหลังมากระซิบข้างหูเธอ…
ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุก!
โครม!
“โอ๊ะ!” มือเรียวปิดปากตัวเองแน่นเมื่อหนังสืออีกสามสี่เล่มร่วงลงมากระทบศีรษะทุย จังหวะหนักหน่วงของคนข้างหลังทำให้หนังสือบนชั้นหล่นลงมาเรื่อย ๆ พื้นที่ว่างตามชั้นหนังสือเริ่มมากขึ้นจนร่างเล็กกลัวว่าสองคนจะเห็นเธอเข้า
“หันหน้ามาหน่อยสิ” เป็นอีกครั้งที่เสียงทุ้มเอ่ยกับหญิงสาวคนนั้น และก็เป็นอีกครั้งที่สาวน้อยได้ยินคล้ายชายหนุ่มกระซิบข้างหูบอกให้เธอหันไป
“อ๊าา คิมคะ เสียวจังเลยค่ะ” เสียงกระเส่าของหญิงสาวที่ยืนขาเดียวโดยที่ขาอีกข้างเกี่ยวเอวสอบเอาไว้เอ่ยขึ้น สองแขนของเธอโอบรอบคอหนาไว้แน่น ขณะเดียวกันบั้นท้ายงามสองข้างมือใหญ่ก็บีบเคล้นมันแรง ๆ
ปึก ปึก ปึก
“อ๊าสส” จังหวะหนักหน่วงของคนสองคนทำให้ร่างเล็กที่แอบอยู่เผลอหันไปเจอภาพไม่น่ามองเข้า แท่งเนื้อยาวใหญ่ที่สอดแทรกเข้าไปในโพรงดอกไม้งาม ทำเอาคนตัวเล็กต้องฟุบหน้าลงกับหัวเข่า สองมือเรียวปิดหูตัวเองเอาไว้เพราะไม่อยากได้ยินเสียง
อุจาดตาฉิบหายเลย! ร่างบางนึกในใจเมื่อเสียความบริสุทธิ์ทางสายตาไปแล้ว เธอไม่น่าหันไปเลย!