“ความแตกซะแล้วสิ หึ” มุมปากหนาแค่นยิ้มออกมาก่อนจะคลานเข่าขึ้นเตียงกว้าง
ร่างเล็กเห็นแบบนั้นก็จ้องมองด้วยความหวาดระแวง ขณะเดียวกันก็ถอยไปด้านหลังจนแผ่นหลังชิดพนักเตียง
“นะหนูจะไม่บอกใครค่ะ คุณคิมหันต์อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” ปากว่ามือก็ประนมขึ้นแนบอก ดวงตางามมีหยาดน้ำสีใสเอ่อคลออยู่ แต่คนที่มองดูกลับยกยิ้มชอบใจ
“นอกจากตาแก่นั่นแล้ว ก็มีเธอนี่แหละที่พูดแบบนี้กับฉัน” เจ้าที่หนุ่มเอ่ยถึงเจ้าของโรงแรมคนเก่าเมื่อครั้งเจอกันครั้งแรก แต่น่าแปลกที่นับจากนั้นมาทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกัน กระทั่งเขาตายจากโลกนี้ไปก็ไม่มีคนเป็นคนไหนรู้เรื่องนี้อีกเลย
“ยะอย่าเข้ามานะคะ” ร่างบางถอยกรูไปเรื่อยจนแผ่นหลังแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับพนักเตียง แต่แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“หนูอัญเสร็จหรือยังน่ะ” เสียงป้าพรดังขึ้นทำให้ร่างใหญ่ผละออกไปยืนอยู่ตามเดิม
“สะเสร็จแล้วค่ะป้า หนูกำลังเก็บของค่ะเดี๋ยวออกไป”
วูบ~
พลันนั้นเองที่ร่างกำยำของเจ้าที่หนุ่มหายวับไป ในห้องนอนตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางราวกับเพิ่งทำความสะอาดและจัดเรียงเสร็จไปหมาด ๆ
แกร๊ก!
พอดีกับที่บานประตูเปิดออก ร่างท้วมของป้าพรก็เดินเข้ามาพร้อมกวาดตามองไปรอบห้อง
“สะอาดเชียว กลิ่นก็หอมสดชื่น ทำได้ดีกว่าป้าอีกนะเนี่ย” ป้าว่าก่อนจะหันมามองใบหน้าเด็กสาว ทว่าก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน “หนูอัญเป็นอะไรน่ะ ทำไมหน้าซีด”
“อ๋อ หนูร้อนน่ะค่ะ สงสัยอากาศไม่ถ่ายเท” คนอายุน้อยกว่ารีบตอบก่อนจะเข็นรถออกจากห้องไป
“ทีหน้าทีหลังก็เปิดแอร์เลยนะ ไม่ก็เปิดหน้าต่าง เจ้านายเราเขาไม่ว่าหรอก ทำอะไรเสร็จแล้วค่อยปิด เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งเอา” ป้าว่าขณะเดินออกมาพร้อมกัน
“ค่ะ”
“งั้นก็รีบกลับบ้านได้แล้ว ป้าเห็นขึ้นมานานเลยมาตาม”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวขากลับแวะเอากับข้าวไปกินที่บ้านด้วยนะ แม่ค้าในโรงอาหารเขาขายไม่หมดเลยตักแกงใส่ถุงมาให้ป้าเยอะเลย”
“ขอบคุณค่ะป้า”
“แล้วนี่กลับบ้านคนเดียวใช่ไหม กลับดี ๆ ล่ะ เป็นสาวเป็นแส้อยู่บ้านคนเดียวแถมยังกลับบ้านคนเดียวค่ำ ๆ มืด ๆ มันอันตราย” สองสาวต่างวัยเดินคุยกันไปเรื่อยโดยไม่รู้เลยว่าบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังฟังอยู่
“ว่าแต่หนูอัญพักที่ไหนนะ ป้าลืมแล้ว”
“พักซอย XXX ค่ะ ใกล้แยก XX”
“หือ? ตรงนั้นมันทางไปแคมป์คนงานก่อสร้างนี่”
“ใช่ค่ะ”
“มันมีพวกขี้ยานั่งสุมกันอยู่แถวนั้นด้วยนะ เวลาเดินกลับก็เดินไปใกล้ ๆ ที่คนงานเขาพักกันนะรู้ไหม ตรงไหนมีพวกขี้ยานั่งอยู่ก็เดินห่าง ๆ มัน” คนอายุมากกว่าเตือนด้วยความเป็นห่วง
แม้จะเพิ่งรู้จักกันแต่ป้าพรกลับรู้สึกถูกชะตาอัญชันอย่างประหลาด อีกอย่างนิสัยน่ารักน่าชังของเธอก็มัดใจป้าพรผู้แสนใจดีได้ไม่ยาก
“งั้นหนูกลับก่อนนะคะป้า” คนอายุน้อยกว่าบอก ก่อนจะประนมมือขึ้นแนบอกทำความเคารพเมื่อเก็บของเสร็จแล้ว
“เออ ๆ กลับดี ๆ ล่ะ มีอะไรก็โทรหาป้านะ เบอร์ที่ให้ไว้นั่นแหละ”
“ค่ะป้า”
‘ให้ไปส่งไหม’ ทว่าแยกจากป้าพรได้เพียงไม่กี่ก้าว เสียงกระซิบเย็นยะเยือกชวนขนลุกที่ดังขึ้นห้างหูก็ทำให้ร่างบางวิ่งแจ้นออกจากตึกไป เธอจำได้ว่าเป็นเสียงใคร
“ยะอย่าตามมานะ!” ร่างเล็กหันกลับไปตะโกนใส่ถนนด้านหลัง ก่อนจะรีบวิ่งต่อ
ดวงวิญญาณหนุ่มแค่นยิ้มออกมาหน่อย ๆ ขณะร่างกำยำค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ดวงตาคมกริบจ้องมองแผ่นหลังบางที่ห่างออกไปเรื่อย กระทั่งลับสายตาไปแล้วเขาจึงหายวับกลับเข้าโรงแรมไป
เช้าวันต่อมา…
ตุบ!
“กรี๊ด!” ร่างเล็กกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าของหนักที่ตกลงบนหน้าท้องเธอคือท่อนแขนของใครบางคน
“คุณคิมหันต์มาได้ยังไงคะ?” เสียงหวานปนตกใจเอ่ยถามดวงวิญญาณหนุ่มที่นอนขมวดคิ้วอยู่ข้างกัน
ว่าแต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? คิดได้แบบนั้นก็รีบก้มลงสำรวจตัวเอง ยังดีที่ทุกอย่างดูปกติไม่มีอะไรสึกหรอ
“เจ้าที่แถวนี้ให้เข้ามาได้เหรอคะ” ถึงจะไม่รู้เรื่องผี ๆ แต่เคยอ่านเจอในนิยายและตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ว่าผีเจ้าที่จะต้องดูแลผู้อยู่อาศัย ไม่ให้ผีร้ายเข้ามาใกล้หรือทำอันตรายได้ แต่ทำไมผีร้ายอย่างเขาถึงได้มานอนอยู่ในห้องเธอ
“ทำไมจะเข้ามาไม่ได้ เพื่อนกันทั้งนั้น” ร่างใหญ่ลุกนั่งพลางไหวไหล่ไม่สะทกสะท้าน
ถ้าเป็นแบบนี้ผีบ้านอื่นก็เข้าออกได้สบายน่ะสิ พวกเจ้าที่นี่ไม่ได้เรื่องกันจริง ๆ สาวน้อยบ่นให้เจ้าที่ในใจ
“แล้วคุณคิมหันต์มาที่นี่ทำไมคะ ตามมาปิดปากหนูเหรอ” ร่างเล็กลุกพรวดจากเตียงนอนก่อนจะวิ่งไปยังบานประตูห้อง มือเรียวพยายามเปิดประตูทว่ากลับเปิดไม่ออก
“เธอรู้ความลับฉันแล้วนี่ จะให้เก็บไว้ทำไมล่ะ” มุมปากหนายกยิ้มขณะสองขาแกร่งก้าวเข้าไปหาคนตัวเล็ก
ร่างใหญ่โน้มลงใกล้จนใบหน้าทั้งสองแทบชิดกัน สองแขนแกร่งค้ำยันกับบานประตูห้องที่ปิดสนิทอยู่ โดยมีร่างบางยืนสั่นระริกอยู่กลางหว่างแขน
“ยะอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร จะปิดปากให้สนิทเลยค่ะ” เสียงสั่นเครือของคนตัวเล็กเอ่ยกับผีร้าย “ระหรือจะให้หนูลาออกก็ได้นะคะ หนูจะไปให้ไกล ๆ เลยค่ะ”
“ถ้าเธอลาออกแล้วใครจะขึ้นมาทำความสะอาดห้องนอนให้ฉันล่ะ” เสียงทุ้มเย็นยะเยือกเอ่ย แขนข้างหนึ่งละออกจากบานประตู มือใหญ่เชยคางมนขึ้นให้สบตากับเขา “รู้ไหมว่าคนที่รู้ความลับของฉันจะเป็นยังไง”
“...” ลำคอบางกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก เพียงแค่ได้สบตากับเขา ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็เต้นโครมครามด้วยความหวาดกลัว นัยน์ตาดำขลับคู่นี้ไม่มีแววตาของคนเป็น มันมืดมิดไร้ชีวิตชีวา แหงล่ะ...เขาเป็นผีไม่ใช่คน
น่ากลัว!
“ตอบสิ” เสียงทุ้มเย็นยะเยือกเอ่ย มือใหญ่เย็นเฉียบยังคงแตะคางมนไว้ไม่ให้หันหนีไปไหน
“มะไม่รู้ค่ะ นะหนูไม่รู้”
“ถ้าไม่อยากตาย ก็มาเป็นเมียฉัน”
“...!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอเนี่ยนะจะเป็นเมียผีร้ายอย่างเขา “มะไม่เอาหรอก แบบนั้นหนูไม่เอาเด็ดขาด”
“เลือกที่จะตาย?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพลางปล่อยคางมนให้เป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันที่สาวน้อยจะได้เอ่ยอะไร ใบหน้าคมคายก็โน้มเข้ามาใกล้ซอกคอบาง
กึด!
วินาทีที่ฟันคมขบลงกับเนื้อคอขาว ร่างเล็กสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ขณะเดียวกันเนื้อตัวก็แข็งทื่อขยับไปไหนไม่ได้
“รีบไปทำงานซะ เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอก” ว่าจบก็หายวับจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นตัวหอม ๆ ของเขาที่ติดจมูกเธอ ทั้งความรู้สึกเจ็บแปลบตรงเนื้อคอก็ทำให้ร่างเล็กถึงกับเบ้หน้า
“เอาหมอผีมาจับดีไหมนะ” ปากว่าให้ผีร้าย มือเรียวก็ลูบคอตัวเองปอย ๆ พอมองดูในกระจกก็พบว่ามีรอยแดงเป็นรูปคมเขี้ยวประทับอยู่
“บ้าเอ๊ย!”