ลลินไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อนจะตื่นเต้นบ้างย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ทว่าอีกคนที่ช่ำชองเรื่องพรรค์นี้กลับรู้สึกประหม่า เพราะได้เจอของดีเข้าแล้ว
เขาอยากทะนุถนอมแต่ก็กลัวตัวเองจะอดใจไม่อยู่ เพราะเรือนร่างของเธอชอบทำให้เขาสติหลุด
“อยากเล่นกับมันไหม” ชายหนุ่มยกยิ้ม เมื่อเห็นคนใต้ร่างเอาแต่จ้องมองส่วนนั้นของเขาไม่วางตา
ไม่ถามเปล่ามือหนายังคว้ามือเรียวเข้ามาจับท่อนร้อนที่กำลังผงาดเต็มที่
“อ๊ะ” ลลินอุทานด้วยความตกใจ เมื่อมือตัวเองถูกนำไปจับหมับเข้าที่ลำกายใหญ่โตของเขา
“มือเธอนุ่มมาก” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยบอกเจ้าของมือนุ่ม เธอทำเขาเสียวกระสันจนแทบอยากจะเสร็จคามือ
“อื้อ” เสียงหวานร้องครางเมื่อใบหน้าหล่อซุกลงตรงซอกคอขาว พร้อมกับดูดเม้มสลับไปมาซ้ายขวาอย่างตามใจ
ด้านบนพรมจูบไป ส่วนด้านล่างมือหนาก็จับเข้าที่ข้อมือเล็ก สอนให้ชักรูดแก่นกายของเขาขึ้นลง ลลินเรียนรู้ได้รวดเร็ว มือเรียวขยับรูดรั้งแก่นกายร้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ
“อ่า ฉันได้แตกคามือเธอแน่” ไทม์กระซิบข้างกกหูคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เมื่อเธอปรนเปรอเขา
ไม่ปล่อยให้อีกคนเสียเปรียบ มือหนาอีกข้างพลันล้วงเข้าไปในแพนตี้ตัวจิ๋ว
“อื้อออ” ส่งนิ้วแกร่งสะกิดหยอกเล่นกับจุดเสียวของคนตัวเล็ก จนเธอสะดุ้งตัวงอด้วยความเสียวซ่าน
“อ่า” เสียงร้องครางของไทม์ดังมอมเมาร่างบางข้างกกหู พร้อมกับนิ้วแกร่งที่กำลังสะกิดเล่นจุดเสียวไม่หยุดหย่อน
“อ๊ะ” เสียงหวานที่ร้องครางออกจากลำคอก็ช่างเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ไหนจะมือนุ่มที่กำลังชักรูดแก่นกายของเขาอีก
สองร่างนัวเนียแนบชิด กระตุ้นอารมณ์ราคะให้ยิ่งทวีความร้อนรุ่ม เสียงร้องครางกระเส่าของทั้งสองคนคลอประสาน ต่างคนต่างปรนเปรอให้แก่กัน
“อื้อ อ๊ะ ค…คุณ ฉันรู้สึกแปลก ๆ ระ เร็วกว่านี้” ขาเรียวอ้าออกอัตโนมัติเมื่ออารมณ์วาบหวามพุ่งทะยาน เธอต้องการให้นิ้วแกร่งรุกล้ำเข้ามามากขึ้น จนเผลอกำท่อนร้อนแน่นยิ่งกว่าเดิมและชักมันถี่ระรัว
“อ่า ไม่ไหวแล้ว”
“อ๊ะ อื้อ / อะ อ่า”
หลายวันต่อมา...
“พี่ลลินคะ”
“อือ ว่าไง” ฉันเงยหน้ามองสายป่านที่เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มีบริษัทมาขอเทกโอเวอร์บริษัทเราอีกแล้วค่ะ”
ตั้งแต่แอปพลิเคชันที่ฉันสร้างขึ้นมาเปิดตัวให้ทดลองใช้อย่างเป็นทางการ ก็มีผู้คนให้ความสนใจใช้งานกันอย่างล้นหลาม จนกลายเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมอันดับหนึ่งในตอนนี้
บริษัทเราเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่กลับสร้างแอปพลิเคชันดี ๆ ออกมา บริษัทใหญ่ที่เห็นโอกาสตรงนี้จึงคิดเอาเงินมาฟาดเพื่อขอซื้อไปบริหารต่อ
“พี่บอกให้ปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ” นี่ไม่ใช่บริษัทแรกที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเทกโอเวอร์บริษัท แต่เป็นบริษัทที่สี่ที่ห้าได้แล้วมั้ง
“ใช่ค่ะ สายป่านก็ปฏิเสธไปแล้วแต่ว่า เขายังดื้อไม่เลิกค่ะ และอยากจะขอเจรจากับพี่แค่คนเดียวด้วย” คนตรงหน้าฉันทำท่าทางกระอักกระอ่วนใจ
ฉันเข้าใจสายป่านที่เป็นด่านหน้าดี คงจะโดนมาไม่น้อย...
“เจรจาไปก็เท่านั้น พี่ไม่ขาย”
“แต่ว่า เขามารออยู่ด้านนอกแล้วค่ะ” สายป่านคงโดนกดดันมาอีกที ฉันเข้าใจดี
“เฮ้อ อือ อีกห้านาทีเดี๋ยวพี่ออกไป” สุดท้ายก็ต้องถึงมือฉันสินะ
“ค่ะ” สายป่านยิ้มรับแห้ง ๆ และเดินออกไป
“เกลียดนักไอ้พวกชอบฉวยโอกาส พวกทำนาบนหลังคน ไอ้พวกสมองไม่มี คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ” เมื่อประตูปิดลงฉันก็พ่นคำด่าตามออกมาเป็นชุด เพราะมันอดกลั้นไว้ในใจไม่ได้จริง ๆ
ฉันสร้างมาแทบตาย จะมาชุบมือเปิบแบบนี้ได้ไง?!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แทนที่ฉันจะเอาเวลาไปทำงาน แต่ต้องมาเสียเวลากับการไล่คนพวกนี้อีก คิดแล้วก็ยิ่งโมโห
ปัง!
ฉันวางปากกาในมือลงอย่างแรง ไอ้เรามันเป็นพวกโมโหแล้วชอบใช้กำลังเสียด้วยสิ
“ได้เห็นดีกันแน่” ตอนนี้ฉันอารมณ์เดือดจนจะกินคนได้ทั้งคนอยู่แล้ว
เมื่อพร้อมฉันก็เดินออกมาด้านนอก มุ่งไปยังห้องที่ไว้สำหรับต้อนรับแขก
ปกติก็เอาไว้ต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้น แต่วันนี้ต่างออกไป เพราะเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ!
“ไม่ต้องเข้ามา พี่จัดการเอง” ฉันหันไปบอกกับสายป่านที่กำลังจะเดินตามเข้ามาด้านในห้อง
“สวัสดีค่ะ” เดินเข้ามาก็พบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งรออยู่
“สวัสดีครับคุณลลิน” คนตรงหน้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะเอ่ยทักทาย
“รู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ” ฉันไม่ได้เดินเข้าไปนั่งแต่เลือกที่จะเดินเข้าไปใกล้เพื่อยืนคุย เพราะอีกไม่กี่นาทีฉันก็จะเดินออกไปแล้ว
“แหม ไม่ให้รู้จักได้ไงล่ะครับ แอปที่คุณสร้างออกข่าวดังเสียขนาดนั้น” คนตรงหน้าเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเจื่อน คงเห็นแล้วว่าฉันมาด้วยสีหน้าที่ไม่ต้อนรับเขาเลยสักนิด
“ขอบคุณนะคะที่สนใจกับสิ่งที่ฉันสร้างมาเองกับมือ ทั้งลงทุน ลงแรง ลงเงินล้มเหลวไปตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลยค่ะ” ฉันร่ายยาวอย่างไม่คิดหายใจ อยากจะจบตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“เอ่อ…” จนพูดจบคนตรงหน้าก็หน้าเหวอแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะคะที่จะต้องพูดตรง ๆ ว่าฉันไม่ขายและไม่มีวันขาย” เขานิ่งไปในทันทีที่ฉันพูดจบ
“ถ้าเข้าใจแล้วฉันขอตัวนะคะ” ฉันจึงใช้โอกาสนี้ตัดจบและเดินออกมา
“สายป่าน ส่งแขกด้วย” อย่าหาว่าฉันไม่มีมารยาทเลยนะ แต่คนพวกนี้ไม่มีมารยาทกับฉันก่อนทำไม
ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจ ฉันเข้าใจดีเลยละ เพราะธุรกิจกับการฉวยโอกาสนั้นเป็นของคู่กัน
แต่จะฉกฉวยกันดื้อ ๆ แบบนี้ก็ยากหน่อย
ก๊อก ก๊อก
“มีอะไร” พอฉันเห็นหน้าสายป่านเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้ อารมณ์หงุดหงิดก็มาในทันที
“พี่ลลินคะ” สายป่านเดินเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนเช่นเดิม
“มาอีกแล้วค่ะ” ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว
“ฉันควรจะเปลี่ยนเลขาดีไหม สั่งแล้วทำไม่ได้แบบนี้” แค่คิดเล่น ๆ ไม่ได้จริงจัง แต่สายป่านก็หน้าเสียอยู่
“สายป่านก็ไล่ไปได้หมดเลยนะคะ แต่ว่า...คุณคนนี้เขาหล่อ...” พูดเสร็จก็บิดตัวไปมาอย่างเขินอายจนฉันมึนงง
นี่ฉันกำลังจริงจังอยู่นะเนี่ย
“แล้วก็ให้นามบัตรมาด้วยค่ะ บอกว่าถ้าพี่เห็นนามบัตรนี้ พี่ต้องเปลี่ยนใจออกไปหาเขาแน่ ๆ” พูดจบมือน้อยก็ยื่นนามบัตรสีดำสนิทตัดทองดูหรูหราในมือส่งมาให้ฉัน