Time & Lalin 7 - ถ้าอีกครั้งมันจะไม่ใช่วันไนต์แล้วละสิ

1307 Words
@ผับ “มัวแต่อีโก้สูง ทำยังไงดีล่ะ ขนาดแค่เปิดให้ทดลองใช้ปัญหาก็มาเยอะแล้ว ถ้าเปิดให้ใช้งานจริง ๆ ฉันจะทำยังไง จะให้จ้างพนักงานเพิ่มทุนก็ไม่เหลือแล้ว” “เฮ้อ” “นี่เลิกกลุ้มเรื่องงานได้แล้ว” เสียงของเกลเพื่อนรักของฉันเอ่ยบอก เพราะฉันเอาแต่นั่งถอนหายใจมาสักพักใหญ่แล้วละ “ไม่ให้กลุ้มได้ไง ฉันยังคิดไม่ตกเลยว่าจะเอาไงต่อ” ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ร้านเหล้าสุดหรูที่เพื่อนฉันทำงานอยู่ ฉันมีเพื่อนที่สนิทเป็นเพื่อนรักและเพื่อนตายเพียงคนเดียว นั่นก็คือเกล เธอทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ในผับหรูแห่งนี้ คนละผับกับที่ไปเมื่อวันงานฉลอง ผับนั้นฉันไม่กล้าไปแล้วละ ปกติฉันไม่ค่อยเข้าผับบาร์เท่าไร แต่วันนี้ที่มาเพราะมีเรื่องกลุ้มใจและจะมาเมาท์คลายทุกข์ให้เพื่อนฟัง “ฉันสร้างมากับมือ จะให้ไอ้พวกฉวยโอกาสเอาไปได้ไง” ฉันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อตอกย้ำตัวเองว่าสองมือของฉันนี่แหละที่สร้างมา “แกก็หานายทุนสิ แบบเป็นแค่หุ้นส่วน ไม่ได้เสียหายอะไร บริษัทก็ยังเป็นของแก” “เออ จริงด้วย แต่ส่วนมากมีแต่จะมาขอเทกโอเวอร์กันทั้งนั้น” คำพูดของเกลทำฉันมีความหวังขึ้นอีกครั้ง “แกเลยพาลในส่วนนี้ใช่ไหม” “ก็ส่วนหนึ่งแหละ” เพราะไม่มีบริษัทไหนมาขอเป็นหุ้นส่วนกับฉันสักคน มีแต่จะมาเทกโอเวอร์ “เอาน่า ค่อย ๆ คิด” คุยกับเกลทีไร ปัญหาที่คิดว่าหนักก็คลายลงไปได้ทุกครั้ง “นี่ ฉันชงให้แก แก้เครียด” แม่สาวบาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วเครื่องดื่มสีสันสดใสมาให้ “เหล้ามีสรรพคุณแก้เครียดด้วยเหรอ” ฉันมันคนอ่อนประสบการณ์ ไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิดจริง ๆ “มีสิ ไม่งั้นคนที่เครียด ๆ จะมาดื่มเหล้ากันทำไม” แต่เพื่อนสาวของฉันรู้ทุกอย่าง เพราะด้วยอาชีพนางนี่เนอะ “หลอกให้เมาหรือเปล่า” ฉันถามออกไปเพราะกลัวจะซ้ำรอยคืนนั้น ดื่มเหล้าครั้งแรกก็ได้มีวันไนต์กับผู้ชายเลย เริ่ดไปอีกเรา “เป็นค็อกเทลดื่มง่าย” ฉันไม่รู้จักหรอกว่าอะไรคือค็อกเทล แต่พอลองจิบดูแล้ว รสชาติอร่อยกว่าน้ำสีเหลือง ๆ นั่นเป็นไหน ๆ “แล้ววันนั้นแกยังไม่เล่าให้ฉันฟังเลยนะ ว่าผ่านคืนนั้นไปได้ไง” “อะ แค่ก” ฉันสำลักน้ำในทันทีที่เกลเอ่ยถึงคืนนั้น “มีอะไรก็เล่ามาให้หมด” ฉันกับเกลเราไม่เคยมีความลับต่อกัน ไม่ว่าจะเรื่องดาร์กสุดในชีวิตก็จะรับรู้กันทุกเรื่อง เรื่องที่ฉันไปมีความสัมพันธ์วันไนต์กับเขาคนนั้น ฉันก็เล่าให้เกลฟังเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดลึกเท่าไร แค่บอกว่าฉันเสียซิงให้กับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันเพียงไม่ถึงชั่วโมง อยู่มาจนอายุป่านนี้ฉันไม่ซีเรียสเรื่องคนแรกอะไรทำนองนั้นแล้ว และอีกอย่างเกลเพื่อนรักของฉันก็ทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง เรื่องวันไนต์สแตนไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เราแค่เลือกคนและมองคนให้ออกว่าเขาจะเก็บความลับไว้ได้ไหม ซึ่งฉันผู้ที่ไม่ได้ช่ำชองและมีประสบการณ์จนดูคนออกแบบนาง จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังดูไม่ออกว่าเขาคนนั้นเป็นคนแบบไหนกัน ที่ขู่เรื่องคลิปกับก็ไม่รู้ว่าเขามีคลิปนั่นจริงไหม เพราะหลังจากนั้นเขาก็เตือนเรื่องงานออกมาอย่างคนหวังดี หรือบางทีแค่ต้องการพูดโน้มน้าวใจฉันก็เท่านั้น .... “อร๊าย แก ชายในฝันของใครหลาย ๆ คนเลยนะนั่น” เมื่อฉันเล่าจบและบอกว่าอีกฝ่ายชื่ออะไรเป็นใคร ปฏิกิริยาจากเพื่อนรักที่ออกมาก็เป็นอย่างที่เห็น “รู้ได้ไง” ฉันถามอย่างสงสัย “แก ทำไมฉันจะไม่รู้ ฉันอยู่ในวงการนี้นะ” คำตอบของเกลทำฉันคิดได้ เขาเป็นเจ้าของผับ วงการที่เกลหมายถึงคือวงการกลางคืนสินะ “เหรอ เล่ามาสิ” ฉันทำเป็นไม่แยแส แต่จริง ๆ แล้วสนใจอยากรู้เรื่องของเขาเอามาก ๆ เลยละ “นั่นแน่ นี่แกสนใจเขาอยู่ใช่ไหม” เพื่อนรักนี่จะดูออกทุกอย่างเลยหรือไง “เปล่า ก็แค่อยากรู้ อีกอย่างฉันก็วันไนต์กับเขาไปแล้ว ทุกอย่างก็จบในคืนนั้นแล้วปะ” ฉันก็ปากแข็งเสียด้วยสิ “แซ่บมากใช่ไหม” พอพูดถึงเรื่องความแซ่บของเขา ก็ทำเอาหน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันที “นี่ ฉันให้แกเล่านะ ไม่ใช่มาจี้ถามฉันอย่างนี้” “เออ ๆ ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นที่หมายปองของสาว ๆ เพราะทั้งหล่อ ทั้งรวย สุดเฟอร์เฟกต์ แถมมีครบทุกอย่าง เป็นลูกผู้ดีจากตระกูลเก่าอะไรทำนองนั้น” “แกนี่ ฉันไม่เห็นจะได้รู้อะไรจากแกเพิ่มเลย” เมื่อฉันตั้งหน้าตั้งตาฟัง แต่กลับไม่ได้สาระในสิ่งที่ต้องการอยากรู้เลยสักนิด “เอ้า แล้วอยากรู้อะไรล่ะ” เกลยกยิ้มทำหน้าทะเล้น รู้ทั้งรู้ว่าฉันอยากรู้เรื่องอะไร แต่ทำเป็นพูดนอกประเด็นเพื่อแกล้งฉัน สิ่งที่อยากรู้ก็คือ เขามีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า และเขาเป็นมีนิสัยใจคอยังไง อะไรทำนองนี้ต่างหาก “ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า” ฉันตัดบทไว้เพียงเท่านั้น ลงจากเก้าอี้เพื่อไปเข้าห้องน้ำ และปัญหาเดิม ๆ ของฉันก็คือการไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน และคงไม่พ้นต้องเดินไปยังทางเข้า “ค็อกเทลคืออะไร ทำไมแค่จิบนิดเดียวก็มึนหัวแล้ว” ดูท่าว่าแสงไฟภายในผับที่วิบวับไปมาพาเวียนหัว บวกกับเครื่องดื่มของยัยเกลจะเล่นงานฉันเข้าแล้ว พลั่ก! ด้วยความมึนศีรษะเลยเดินชนเข้ากับใครไม่รู้ อย่างแรงเลยอีกต่างหาก “อ๊ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาชน “คุณ!” ไม่ได้เป็นใครที่ไหน แต่เป็นเขาอีกแล้ว ฉันที่เห็นว่าเป็นเขาก็ตกใจอย่างกับเจอผี “ตามฉันมาอีกหรือไง” พร้อมกับโพล่งถามอะไรโง่ ๆ ออกไป หรือคราวนี้จะบังเอิญจริง ๆ “หึ ทำไมถึงคิดว่าผมตามคุณมาล่ะ” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ราวกับเป็นเรื่องขบขัน “ไม่รู้สิ ช่วงนี้ไปไหนก็เจอแต่คุณ” ฉันหลุบสายตามองพื้น ไม่กล้าสู้หน้าเขาเลย รู้สึกแพ้ให้กับความหล่อ โอ๊ย...พอเหล้าเข้าปากฉันก็รู้สึกอะไรแบบนี้อีกแล้ว “หรือว่าคุณคิดถึงผมอยู่กันแน่” คำพูดของเขาทำเอาฉันเงยหน้าขึ้นมองสบตาในทันที เมื่อเผลอสบตา ฉันก็ทำตัวไม่ถูก แพ้ แพ้จริง ๆ แพ้อย่างราบคาบ เมื่อฉันกำลังจะรีบเดินหนีไปจากเขา มือหนาก็จับข้อมือฉันเอาไว้ เราสบตากัน ต่างคนต่างไม่พูดอะไร แต่เชื่อไหม ในแววตาที่ส่งมา...ไม่รู้ฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่าว่าเขาอยากให้เรารื้อฟื้นคืนเร่าร้อนกันอีกครั้ง หรือที่คิดแบบนี้เป็นเพราะฉันต้องการที่จะไปกับเขาอีกคืน? แต่ถ้าไปจบที่เตียงด้วยกันอีกครั้ง มันก็ไม่ใช่วันไนต์สแตนด์แล้วละสิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD