2

1501 Words
“มาช่วยเรื่องเอกสารหรือเรื่องอะไรไปก่อน เหมือนตอนที่พราวมาฝึกงานนั่นแหละครับ” ตรัยบอกหญิงสาว ยิ้มให้อย่างเอ็นดู มือหนาเอื้อมไปจับศีรษะของเธออย่างรักใคร่ก่อนจะโยกไปมา คราวนี้แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความเสน่หา ไม่ได้ปิดบังซ่อนเร้นอีกต่อไป พราวมุกมองสบตาแล้วใจสั่นอย่างแปลกประหลาด เธอหลุบตาลง เพราะไม่เคยเห็นสายตาลึกซึ้งแบบนี้ของตรัยมาก่อน แต่พอเงยหน้าขึ้นสายตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นอบอุ่นเช่นเดิม เธอกะพริบตาปริบๆ เธอคงจะตาฝาดไป เมื่อกี้เขาอาจจะไม่ได้มองเธอแบบนั้นก็เป็นได้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสายตาเมื่อครู่เป็นยังไง เพราะเธอโตแล้ว มีผู้ชายหลายคนมองเธอด้วยสายตาแบบนี้ แต่เธอไม่เคยใส่ใจ หรือนึกใจสั่นหัวใจเต้นแรงกับสายตาประเภทนี้มาก่อน “ได้เลยค่ะ งั้นพรุ่งนี้พราวมาเริ่มงานเลยนะคะ” เธอบอกเขาเสียงสดใสอย่างกระตือรือร้น “ได้ครับ พี่คงไม่รบกวนพราวมากไปใช่ไหม” ตรัยเองก็กลัวจะทำให้    พราวมุกอึดอัด อีกอย่างไม่รู้ว่าเธออยากจะทำงานอะไร เคยได้ยินแค่ว่าเธออยากเปิดร้านขายขนมเพราะเป็นคนชอบเข้าครัวทำอาหาร และพายัพเองก็มีโครงการจะหาทำเลดีๆ เปิดร้านให้น้องสาวหลังเรียนจบ “ไม่รบกวนเลยค่ะพี่ตรัย อย่าพูดแบบนี้เลยนะคะ พราวเองก็อยากทำงาน” ระหว่างร้านขายขนมที่เป็นความใฝ่ฝันเล็กๆ ของเธอ กับบริษัทของพี่ชายที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงของคนหลายครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวของเธอ เธอเลือกอย่างหลังมากกว่า “เห็นนายพายบอกว่าพราวอยากไปทำงานที่อื่น” ตรัยลองเลียบๆ เคียงๆ ถามดู “พราวแค่อยากลองไปหางานทำเพื่อประสบการณ์ชีวิตค่ะ             แต่ตอนนี้พราวล้มเลิกความตั้งใจแล้วค่ะ ในเมื่อพี่ๆ มีปัญหากันแบบนี้ จะให้พราวเอาแต่ความสุขส่วนตัวได้ยังไงกันคะ” เธอยิ้มให้เขาจากใจ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ตรัย เอาไปนอนฝันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน “แล้วเรื่องร้านขายขนมล่ะครับ” ตรัยเอ่ยถาม เขาจะให้เธอเปิดร้านขนมของตัวเองแน่นอน แต่หลังจากที่เธอแต่งงานกับเขาแล้ว เขาจะตามใจเธอ        ทุกอย่าง “พราวอยากเปิดนะคะ แต่ให้ทุกอย่างลงตัวกว่านี้ก่อนก็ได้ค่ะ อีกอย่างหนึ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เอาเป็นว่าเศรษฐกิจดี เราค่อยลงทุนดีกว่าค่ะ” “ใช่ครับ ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่มากๆ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยลงทุนทำอะไรกัน เก็บเงินสดเอาไว้กับตัวดีกว่า และพยุงกิจการที่ทำอยู่ให้รอดไปได้ ถ้าผ่านพ้น ช่วงนี้ไป ยังไม่สายที่เราจะลงทุนหรือขยับขยายอะไร เพราะถ้าเศรษฐกิจดี       ทำอะไรก็ดีไปหมดครับ” “พราวช่วยงานพี่ๆ แบบนี้ ดีกว่าค่ะ” “น้องพราวนี่น่ารักจังเลยนะครับ” ตรัยโยกศีรษะหญิงสาวไปมา ทำท่าเอ็นดูเหมือนเธอเป็นเด็กๆ พราวมุกยิ้มให้เพื่อนพี่ชาย ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อนที่พี่ชายมาพูดเรื่องตรัย แล้วเธอปฏิเสธไป ตรัยเองก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีโกรธเคืองอะไร เธอจึงโล่งใจที่ไม่ได้ทำให้เขาต้องเสียใจมากมายอย่างที่ควรจะเป็น และตลอดระยะเวลาตรัยก็ยังทำตัวเป็นพี่ชายที่ดี ไม่ได้เจ้าชู้ยักษ์ใส่เธอ  หรือฉวยโอกาสเอากับเธอก็ไม่เคย เธอจึงไว้ใจเขามาก หลังๆ เธอเองสังเกตว่าเขาไม่ค่อยมีผู้หญิงมายุ่งเกี่ยว เห็นเลขาฯ ที่เคยทำงานกับเขาเอ่ยแซว แต่เขาตอบว่างานยุ่ง เธอแอบได้ยินแต่ไม่ได้พูดอะไร นี่ถ้าตรัยทำตัวเกินพี่ชาย เธออาจจะทิ้งระยะห่างก็ได้ เพราะยังทำตัว    ไม่ถูก คนไม่เคยมีแฟนเผลอเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะคลายออก “งั้นพราวกลับก่อนนะคะ พี่พายไปต่างจังหวัด เย็นนี้ต้องกินข้าวคนเดียวอีกแล้ว” เธอเอ่ยขอตัวอย่างสุภาพ “งั้นไปกินกับพี่ไหม พี่ก็เหงาครับ กินข้าวคนเดียวประจำ” “พี่ตรัยไม่ไปกับสาวๆ ล่ะคะ” เธอพูดแซว หัวเราะเสียงใส รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนตรงหน้าทำให้ตรัยตาพร่า เขามองอย่างเผลอไผล “พี่ตรัย พี่ตรัยคะ!” “ครับ น้องพราวว่าอะไรนะครับ” ตรัยกะพริบตาปริบๆ เมื่อมือเล็กๆ ของพราวมุกแกว่งอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาต้องลูบท้ายทอยไปมาเก้อๆ “นั่งอมยิ้มคนเดียว เป็นอะไรหรือเปล่าคะ พราวถามไม่ยอมตอบ” เธอตะแคงหน้ามองเขาอย่างน่ารัก ตรัยมองแล้วอยากจะดึงเธอมาจุมพิตนัก แต่เขาก็ได้แต่คิดในใจ ถ้าทำแบบนั้นออกไป พราวมุกได้ตกใจ ไม่เข้าใกล้เขาอีก หาว่าเขาเป็นพวกปากว่ามือถึง ลวนลามเธออย่างน่าเกลียด “ถามว่าไงครับ” เขาปรับน้ำเสียงขณะเอ่ยถาม เมื่อครู่เขาไม่ได้ฟังจริงๆ เพราะเอาแต่คิดว่าเธอน่ารัก น่ามอง น่ากอด น่าหอม และน่าจุมพิตสักทีให้ชื่นใจ “นั่งใจลอย คิดอะไรอยู่ล่ะคะ” พราวมุกยิ้มล้อเลียน พราวมุกเป็นเด็กร่าเริงสดใส เธอเป็นคนอารมณ์ดีและมองโลกในแง่ดี      ข้อนี้ทำให้เขาหลงรักเธอได้ไม่ยาก จำได้ว่าตอนเด็กๆ พราวมุกกับพายัพชอบ      ปีนรั้วมาเล่นกับเขา ทั้งๆ ที่มาทางหน้าบ้านก็ได้ แต่สองพี่น้องแสบน่าดู ปีนรั้ว  เข้ามา เกือบตกจากรั้วแข้งขาหักก็หลายครั้ง “เปล่าครับ พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ” “พราวถามว่าพี่ตรัยไม่ไปกับสาวๆ เหรอคะ มาชวนพราวไปแบบนี้       เดี๋ยวเด็กในสังกัดพี่ก็เข้าใจผิดหรอก” ตรัยยิ้มขำ ถ้าผู้หญิงถามเขาแบบนี้            ก็เหมือนเช็กสถานะความโสด ดังนั้นพราวมุกถามเขาแบบนี้ เขาจะได้แจงสถานะว่าโสดสนิทให้เธอได้ฟัง “ไม่มีเลยครับ พี่งานยุ่ง ไม่มีเวลาสนใจสาวๆ ที่ไหนหรอกครับ” “งั้นตกลงค่ะ พี่ตรัยจะไปกินข้าวที่บ้านพราวหรือว่าจะเอายังไงดีคะ”     เธอถามความเห็นเขา น่าแปลกที่รู้สึกโล่งอกเมื่อเขาตอบว่ายังไม่มีใคร แต่ไม่รู้ตัว “ไปกินข้าวข้างนอกดีไหม จะได้ไม่ต้องทำกับข้าว พี่ว่าเราไปร้านประจำกันดีกว่า อีกอย่างพี่ว่านี่ก็เย็นแล้ว เราไปกันเลยดีกว่า” ตรัยเสนอ “ก็ดีค่ะ เดี๋ยวต้องโทร. บอกพี่แจ๋วก่อนนะคะ พี่แจ๋วจะได้ไม่ต้องรอตั้งโต๊ะ” พราวมุกบอกยิ้มๆ ก่อนโทร. บอกสาวใช้ที่บ้าน “ไปกันเลยครับ” ตรัยยื่นแขนให้อีกฝ่ายควง พราวมุกคว้าหมับเข้าให้   ก่อนหัวเราะคิกๆ เพราะเธอคิดกับเขาเป็นเพียงพี่ชาย เธอจึงไม่ได้ระมัดระวังตัวอะไรมากมาย อีกอย่างก็สนิทกันตั้งแต่เด็ก ตรัยแอบมองน้องสาวเพื่อนด้วยสายตาปรารถนาเร้นลึก เขาไม่เคย   แหวกหญ้าให้งูตื่น ตั้งแต่เธอปฏิเสธเขาในคราแรกนั้น เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิม เป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอ เพราะยังอยากรักษาความสัมพันธ์ของกันและกันไปตลอด เพื่ออนาคตเขาจะได้ใกล้ชิดกับเธอ และเป็นจริงตามที่เคยคิดไว้ เขารอวันนี้มานาน แต่การรอก็ได้รับผลตอบรับอันแสนหวาน เขารักจริงและต้องทำให้เธอเป็นของเขาให้ได้ ทั้งตัวและหัวใจ “พี่ตรัยสั่งอาหารที่พราวชอบทั้งนั้นเลย” พราวมุกยิ้มขอบคุณเมื่อเห็นเขาสั่งอาหารหลายอย่าง ล้วนแล้วเป็นอาหารที่เธอชอบแทบทั้งสิ้น “พี่ใส่ใจ เลยจำได้ว่าพราวชอบกินอะไร” เขามองตาแล้วยิ้ม พราวมุกรู้สึกแปลกๆ เมื่อสบตาของตรัย เขาไม่เคยมองเธอแบบนี้มาก่อน สองครั้งแล้วนะ      ที่เธอรู้สึกใจสั่น หรือเธอจะคิดมากไปเอง พอกะพริบตา แววตาวาวหวานคู่นั้น         ก็หายไป เหลือแค่แววตาอบอุ่นอ่อนโยน “กินเยอะๆ นะครับ พี่ว่าพราวผอมไปนะครับ” เขามองสำรวจร่างกายของเธออย่างเงียบเชียบก่อนเอ่ยบอกอย่างห่วงใย “ไม่อยากอ้วนค่ะ พราวกินเยอะไม่ได้ น้ำหนักขึ้นทุกทีเลย” เธอเป็นห่วงเรื่องรูปร่างเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ นั่นแหละ “สำหรับพี่ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่พี่รัก ถึงจะอ้วนขนาดไหนพี่ก็รัก” เขาหยอดคำหวาน คนฟังถึงกับหน้าแดง คล้ายเขาบอกเป็นนัยว่าเธออ้วนแค่ไหน เขาก็รัก “พี่ตรัย...” พราวมุกครางเมื่อสบตากับตรัย ทำไมหัวใจของเธอมันถึงรู้สึกจั๊กจี้แบบนี้นะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD