หลายสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่เริ่มทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฉินจิ่นหลงและไป๋อวิ๋นเหอมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ความร่วมมือของทั้งสองในแผนการทางการเมืองและการแก้ไขปัญหาภายในบ้านเมืองเริ่มให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด แม้ว่าการทำงานร่วมกันจะยังเต็มไปด้วยความเย็นชาและความห่างเหิน แต่ในบางครั้ง พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น
วันหนึ่ง ขณะที่ไป๋อวิ๋นเหอกำลังยืนอยู่ในห้องสมุดของตำหนักฉินจิ่นหลง เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาและกำลังหมกมุ่นอยู่กับการศึกษาข้อมูลทางการทหารอย่างตั้งใจ ในขณะที่เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“เจ้ามีอะไรทำถึงดึกขนาดนี้?” เสียงของฉินจิ่นหลงดังขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำให้ไป๋อวิ๋นเหอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพบกับองค์ชายที่ยืนอยู่ที่ประตูห้อง
“ข้าเพียงแค่… อยากทำให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับการประชุมในวันพรุ่งนี้” ไป๋อวิ๋นเหอตอบเสียงเรียบ ก่อนจะวางหนังสือลง
ฉินจิ่นหลงเดินเข้ามาใกล้และมองไปที่เอกสารในมือของไป๋อวิ๋นเหอ “เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”
คำถามของฉินจิ่นหลงทำให้ไป๋อวิ๋นเหอหยุดชะงักไปเล็กน้อย ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่คาดคิดเริ่มแผ่ซ่านไปในใจเขา แม้จะเป็นคำถามที่ธรรมดา แต่กลับทำให้เขารู้สึกถึงความห่วงใยที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากปากของฉินจิ่นหลง
“ข้าไม่เหนื่อยครับ… ข้าคิดว่า การทำงานให้เสร็จจะช่วยให้เราทุกคนได้พักผ่อนเร็วขึ้น” เขาตอบไปอย่างไม่แน่ใจนัก
ฉินจิ่นหลงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขานั่งลงที่ข้างโต๊ะของไป๋อวิ๋นเหอและมองไปที่แผนที่ที่ถูกวางอยู่
“ข้าเคยคิดว่า เจ้าจะไม่สนใจเรื่องการปกครองและการทหาร แต่ตอนนี้ ข้าเริ่มเห็นว่าเจ้าเก่งกาจและจริงจังมากกว่าที่ข้าคิด” ฉินจิ่นหลงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขามองไป๋อวิ๋นเหอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยการยอมรับ
ไป๋อวิ๋นเหอรู้สึกถึงความจริงใจในคำพูดนั้น แม้จะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาก็ยังคงพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
“ข้าทำเพราะมันเป็นหน้าที่ ไม่ใช่เพราะคำชม” ไป๋อวิ๋นเหอตอบเสียงเรียบ แต่ในใจเขากลับรู้สึกอุ่นใจจากคำพูดนั้นอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องเงียบๆ ในช่วงเวลานั้น องค์ชายฉินจิ่นหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่กลับเริ่มยิ้มเล็กน้อย—รอยยิ้มที่ไป๋อวิ๋นเหอไม่เคยเห็นมาก่อน รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะอ่อนโยนและแสดงถึงความพอใจที่แท้จริง
ในคืนที่แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ไป๋อวิ๋นเหอเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง เขานั่งลงบนเตียงและคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับฉินจิ่นหลง ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจเริ่มค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป เขาไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าเริ่มรู้สึกถึงความผูกพันบางอย่างกับฉินจิ่นหลง แม้ว่าจะไม่ได้พูดออกมา แต่การกระทำบางอย่างก็แสดงให้เห็นว่าเขาคิดถึงเขามากขึ้น
ในขณะที่ความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังค่อยๆ เติบโตและพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่อาจคาดเดา การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของการเมืองหรือการปกครอง แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเปิดใจและเชื่อใจอีกฝ่าย
“ข้าคิดว่า… ข้าอาจจะเริ่มเข้าใจบางสิ่งที่ข้าคาดไม่ถึง” ไป๋อวิ๋นเหอพึมพำเบาๆ เมื่อเขาหลับตาลง ในใจเขาเริ่มสงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะสามารถรักฉินจิ่นหลงได้ในสักวันหนึ่ง
แต่ท่ามกลางคำถามและความสงสัยนั้น เขาก็รู้ดีว่าในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเดินไปข้างหน้าพร้อมกับการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า