แสงแดดเริ่มสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องทำงานของฉินจิ่นหลง เขานั่งอยู่ในเก้าอี้ไม้เก่า จมอยู่กับความคิดที่หนักหน่วงในหัวใจ ข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวทำให้เขารู้สึกถึงการคุกคามที่ใกล้เข้ามา ขุนนางที่เคยไว้ใจ กลับกลายเป็นผู้ที่กำลังวางแผนที่จะทำลายอำนาจของเขา
ในระหว่างที่เขากำลังพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกระทันหัน ทำให้เขาต้องละสายตาจากเอกสารในมือ
“เข้ามา” เขาพูดเสียงแผ่ว
ประตูเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของไป๋อวิ๋นเหอ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความกังวลและความเครียดที่ยากจะปิดบัง “ท่านฉิน ข้ามีเรื่องสำคัญจะรายงาน”
ฉินจิ่นหลงยกมือขึ้นอย่างไม่แยแส “พูดมาเถอะ”
ไป๋อวิ๋นเหอยืนอยู่ตรงหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยความเงียบ ก่อนที่จะส่งเอกสารที่เขารวบรวมให้ฉินจิ่นหลงอย่างช้าๆ “ข้านำหลักฐานมาหลายชิ้น ข้อมูลทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ข้าค้นพบเกี่ยวกับขุนนางที่ท่านเคยเชื่อใจ”
ฉินจิ่นหลงเปิดเอกสารด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย ขณะที่สายตาของเขาเริ่มอ่านข้อมูลที่ไป๋อวิ๋นเหอได้รวบรวมมา ข้อมูลเหล่านั้นยิ่งทำให้เขาตระหนักถึงขนาดของแผนการที่กำลังเกิดขึ้น
“เขากำลังจัดตั้งพันธมิตรลับ เพื่อก่อการปฏิวัติในราชสำนัก” ไป๋อวิ๋นเหอกล่าวเสียงต่ำ “และมันเริ่มจากกลุ่มขุนนางที่มีอำนาจมากในปัจจุบัน”
ฉินจิ่นหลงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะเป็นเสียงกระซิบ “เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไร?”
ไป๋อวิ๋นเหอไม่ตอบในทันที เขาเพียงแต่ยืนอยู่เงียบๆ ขณะครุ่นคิดในหัว สถานการณ์นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังให้เกิดขึ้นแม้แต่น้อย เพราะมันหมายความว่าทั้งเขาและฉินจิ่นหลงจะต้องเผชิญกับการเลือกที่ยากที่สุดในชีวิต
“หากเราไม่จัดการกับมันเดี๋ยวนี้ ทุกอย่างอาจจะสายเกินไป” ไป๋อวิ๋นเหอกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าคิดว่าเราควรใช้วิธีที่รุนแรง และจับตัวเขาให้เร็วที่สุด”
ฉินจิ่นหลงพยักหน้าอย่างช้าๆ ในใจเขารู้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางที่ไม่มีทางย้อนกลับไป “ข้าจะเชื่อใจเจ้าไป๋อวิ๋นเหอ”
แต่เมื่อพูดถึงการตัดสินใจนั้น ความรู้สึกบางอย่างในใจของเขายังรู้สึกไม่เต็มใจ ฉินจิ่นหลงรู้ดีว่า เขากำลังจะเผชิญหน้ากับความจริงบางอย่างที่อาจจะทำให้เขาสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญไป
ในคืนนั้น กลุ่มทหารที่ซื่อสัตย์ต่อฉินจิ่นหลงเริ่มเตรียมการลอบเข้าจับกุมขุนนางผู้ทรยศ ในขณะที่ไป๋อวิ๋นเหอกำลังตรวจสอบแผนที่และข้อมูลต่างๆ ที่เขาได้รับมา เขามีความมั่นใจในแผนการครั้งนี้ แต่ลึกๆ ในใจเขาก็รู้สึกถึงความวิตกกังวลเล็กน้อย
“ท่านฉิน ข้าคิดว่าขุนนางผู้นี้จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ” ไป๋อวิ๋นเหอพูดขณะตรวจสอบการเตรียมการ “เราจะต้องพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่อาจเกิดขึ้น”
“ข้าเข้าใจ” ฉินจิ่นหลงตอบเสียงต่ำ “แต่ต้องจำไว้ว่าหากเราล้มเหลว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมาจะสูญเปล่า”
ไป๋อวิ๋นเหอพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าจะทำให้ทุกอย่างสำเร็จ”
แต่ในขณะที่แผนการเริ่มดำเนินไป ความไม่แน่ใจในใจของทั้งคู่ก็ยังคงมีอยู่ การปฏิวัติครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการทำลายศัตรูภายนอก แต่ยังเป็นการทดสอบความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่เริ่มถดถอยระหว่างทั้งสอง
ท่ามกลางการเตรียมการและความเครียดที่เพิ่มขึ้นในราชสำนัก พวกเขาต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายในพริบตา
“หวังว่าแผนการนี้จะไม่ผิดพลาด” ไป๋อวิ๋นเหอกล่าวเสียงเบา ขณะที่เขามองไปยังพระราชวังที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เขารู้ดีว่าเหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้อาจจะไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงอนาคตของราชสำนักเท่านั้น แต่ยังจะทดสอบความจริงในใจของพวกเขาทั้งสองด้วย