บทที่7: ช่วยเลือกครีม

1167 Words
“นั่นไง แม่งเป็นเกย์ชัวร์อีพริบ” อีน้อยรีบเสริมขึ้นทันทีที่เบลล่าพูดจบ เกย์หรอ….? “แกเคยไม่เคยเห็นมันอยู่กับผู้หญิงใช่ป่ะ แล้วมันก็ไม่เคยนอกใจแก เพราะมันไม่ได้ชอบผู้หญิงไง” อีน้อยดูจะด่วนสรุปเกินไปหน่อย หลักฐานก็ยังไม่มี….เอ๊ะหรือว่ามี? ฉันเคยเห็นเขาลงมาจากรถผู้ชายคนนึงที่บอกว่าเป็นญาติ….แล้วก็เมื่อวานเพื่อนเขาเข้ามาทัก….. “กูคิดอะไรดี ๆ ออกแล้ว พรุ่งนี้แกชวนอีวายุมาที่คณะนิเทศฯ แล้วบอกมันว่ามีผู้ชายมาเต็มเลย ดูสิมันจะมามั้ย ถ้ามานะเดี๋ยวกูจะสแกนแบบละเอียดให้เลย” “พอเลยอีตุ๊ด เรดาร์แกพังยังไม่รู้ตัวอีก!” “เอ๊ะ อีน้อย! คราวนี้ชัวร์ค่ะ จะได้รู้กันไปว่าใชรึเปล่าจากนั้นค่อยว่ากันทีอีกว่าจะเอาไงต่อ” “อืม” ฉันพยักหน้ารับในแผนของอีเบลล่า อย่างน้อยมีพวกมันคอยช่วยเหลือก็ดีกว่าฉันหาทางเอาเอง ถ้าพฤติกรรมแบบพี่วายุเป็นเกย์ละก็ แล้วผู้ชายที่นั่งหัวเราะต่อกระซิกอยู่ฝั่งตรงข้ามนู้นน่ะเรียกว่าอะไร….?! “สวัสดีค่ะสาว ๆ เหนื่อยมั้ยคะ?” พี่เคนเดินมาทักทายตามปกติ ฉันละสายตาจากม่านหมอกมามองพี่เขาแล้วพรางคิดไปด้วย พี่เคนเป็นผู้ชายหน้าสวย หากมองจากภายนอกถ้าบอกว่าเป็นเกย์นี่ใคร ๆ ก็คงเชื่อ แต่จริง ๆ แล้วพี่เขาออกจะแม๊นแมนแถมยังสุภาพพูดจาน่ารักอีกด้วย….คนเรานี่มองแต่ภายนอกไม่ได้จริง ๆ “ถ้าบอกว่าเหนื่อย พี่เคนจะทำอะไรหรอคะ?” อีเบลล่าพูดจาเสียงอ่อนเสียงหวานใส่ ดัดจริตเต็มสิบแต้ม! พี่เคนยิ้มหวานก่อนจะยื่นขวดน้ำให้มัน “น้ำค่ะ” หลังจากอีเบลล่ารับขวดน้ำไปแล้ว พี่เคนก็ยื่นให้ฉันกับน้อยหน่าคนละคน อีน้อยดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ไม่รู้มันเป็นโรคอะไรดูเหมือนไม่ค่อยพอใจพี่เคน…. “น้องพริบเป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น?” พี่เคนถามอย่างห่วงใยพร้อมกับเดินมานั่งข้าง ๆ “มันจะเลิกกับผัว…เอ้ยแฟนมันค่ะพี่” อีนี่เสร่อจริงไรจริง! “จริงหรอคะ? งั้นพี่จีบได้มั้ยคะ?” พี่เคนยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดีฉันเลยไม่รู้ว่าเขาพูดเล่นหรือพูดจริง….แต่ฉันนี่สิไปไม่เป็นเลย “หึ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกค่ะ พี่แค่ล้อเล่นเอง…แถวนี้หมามันเยอะพี่กลัวโดนกัด” พี่เคนพูดพร้อมกับเหลือบมองไปยังน้อยหน่าที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าพี่เคน “อ่าวนายด่าฉันหรอวะ!” “อ่อ เธอเป็นหมาหรอคะ ถึงได้ร้อนตัว…..” พี่เคนทำสีหน้ายียวนใส่น้อย คือแบบว่าน่ารักอ่ะ…แต่อีน้อยคงไม่คิดแบบนั้นแน่ ๆ “นายมัน! ไอ้…” “ก็ชอบพูดไม่เพราะแบบนี้ไงคะถึงไม่มีแฟน…อ่อลืมไปเธอเป็นทอม” “ไม่ใช่ทอมโว้ยย!” น้อยหน่าเดือดจนเลือดขึ้นหน้า ปกติมันเป็นคนที่นิ่งมากแต่พอเจอพี่เคนทีไรได้ฉะกันทุกที “พี่เคนขา อย่าไปแกล้งมันนักเลย ดูสิจะเป็นลมบ้าหมูแล้วเนี่ย” “แกสิอีอิส! อีหมูพะโล้!” “พี่เคนอย่าไปถือสามันเลยนะคะ อีนี่มันเมนส์มาไม่ปกติ” “โถ่ ขนาดร่างกายยังสับสนเลยว่าจะเป็นเพศไหนดี น่าสงสารจังนะคะ” พี่เคนนี่ก็ขยันกวนประสาทอีน้อยจังเลย หรือเพราะยิ่งแกล้งน้อยหน่ายิ่งมีอาการก็ไม่รู้พี่เคนชอบชอบยั่วให้โมโห “….” น้อยหน่าไม่ได้ตอบโต้ เพียงแต่จ้องพี่เคนอย่างอาฆาต ก่อนจะสุ่ม ๆ งานตรงหน้าแล้วโบ้ยไปให้อีเบลล่าทำต่อ น้อยหน่าลุกขึ้นสะพายกระเป๋า “จะไปไหนคะ?” พี่เคนถามขึ้นเมื่อเห็นน้อยหน่าจะลุกออกไป “กลับดิ่ ห้าโมงแล้วจะให้ทำซากอะไร เสียอารมณ์!” ห้าโมงแล้ว…ไวจัง ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วมองไปที่ม่านหมอกอย่างลังเล….ระหว่างที่เก็บของอยู่ก็ครุ่นคิดไปว่าจะเข้าไปคุยด้วยยังไงดี…? อยู่ดี ๆ แบบเข้าไปขอโทษมันแปลก ๆ ยังไงอยู่ ถ้าเพียงเขาเข้ามาทักสักหน่อยฉันคงกล้าพูดออกไป แต่นี่เล่นทำไม่สนใจกันเลย ฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ…. “มาค่ะ เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บให้” พี่เคนอาสาหอบอุปกรณ์ทั้งหมดไปเก็บเอง ซึ่งปกติแล้วหน้าที่นี้เป็นของม่านหมอก แต่เพราะวันนี้เขาไม่เฉียดเข้ามาใกล้ฉันเลยแม้แต่น้อย…พี่เคนเลยต้องมาทำแทนมั้ง “นี่ชะนีโดนหลอกแดก ฉันไปก่อนนะยะ วันนี้มีนัดตื๊ดๆ” อะไรของมัน….? “ตื๊ดคืออะไรวะ…?” ไม่ได้แกล้งนะแต่คือไม่รู้จริง ๆ “โง่ดักดานจริง ๆ เพื่อนกู แดนซ์ค่ะแดนซ์ กูมีนัดไปผับค่ะ เก็ทยังอีดอกกก” เออแค่เนี้ยใช้ศัพท์บ้าไรเข้าใจยากจริง “จะไปไหนก็รีบไปเลยไป” ฉันโบกมือส่ง ๆ ไล่มันไปที่ชอบ ๆ “แล้วหล่อนล่ะยะ?” “กลับบ้านไง แกรีบ ๆ ไปเหอะน่า” ฉันผลักร่างอีตุ๊ดอ้วนให้มันรีบไปพ้น ๆ หลังจากมองจนมันเดินลับตาไปฉันก็หันกลับมาที่ใต้ตึกอีกครั้ง เพื่อดูว่าม่านหมอกยังอยู่รึเปล่า…เขากำลังเก็บอุปกรณ์ที่ยังเหลือทิ้งไว้ตามโต๊ะต่าง ๆ “อะแฮ่ม…เอ่อคือ…วันนี้ฉัน…” “แล้วแต่สะดวกครับ ไม่ว่างไม่ต้องไปผมไม่ได้บังคับ” !!! ฉันยังพูดไม่ทันจบเขาก็แทรกขึ้นมาก่อน แถมไม่มองหน้าฉันด้วยไง! ฉันเบะปากใส่ให้กับคำสุภาพที่ฟังดูห่างเหิน ท่าจะโกรธจริง ๆ แฮะ “ไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปสักหน่อย” ม่านหมอกไม่ได้สนใจฟัง เขายังคงเก็บของทำเหมือนฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้ “เอ่อ…ฉันช่วยนะ” ตอนนี้ในมือม่านหมอกมีของเต็มไม้เต็มมือไปหมด ฉันเลยเสนอตัวเข้าช่วย…. “กรุณาหลีกทางด้วยครับ ผมจะเดิน” ฉันจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์จะประชดอะไรกันนักหนาเนี่ย ม่านหมอกก็มองฉันตอบเช่นกัน แต่แววตาเขามันช่างเฉยชาจนฉันรู้สึกเจ็บแปลบในใจ…. ฉันจำต้องหลีกทางให้เขาเดิน ได้แต่มองตามหลังตาละห้อย….เขาเป็นแบบนี้แล้วภายในใจฉันรู้สึกไม่ดีเลย มันอธิบายไม่ถูกเหมือนกันแฮะ โหวงเหวงชอบกลไม่ชอบเลยจริง ๆ เอาม่านหมอกคนเดิมกลับมานะ!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD