ถ้อยคำเย็นชาของเขาดังชัดเจนเต็มสองหู ดิ่งลึกคล้ายมีดกรีดเฉือนลงกลางใจ ก้อนเมฆหนาทึบเคลื่อนตัวไปมาตามแรงลม บดบังจันทรามัวหมองอับแสงอีกครา คล้ายพายุใหญ่ใกล้ก่อตัวตั้งเค้าดำทะมึนดูน่าหวาดกลัวยิ่ง สายน้ำเย็นยะเยือกที่แช่ร่างจนชาไปทั้งเนื้อตัว แยกไม่ออกว่าเป็นเพราะคำพูดที่เสียดแทง หรือสายน้ำเหน็บหนาวไร้หัวใจกันแน่ “เพียะ!” เสียงตวัดมือด้วยความเร็วแรงกระทบใบหน้าคมคายจนหัน เกิดเป็นรอยนิ้วมือชัดเจนที่แก้มซ้าย เส้นผมเปียกชื้นปกคลุมใบหน้าเขาเห็นเป็นเงามืดครึ่งหนึ่ง รอยยิ้มเยาะหยันปรากฏขึ้น สีหน้าไม่แสดงถึงความเจ็บปวดสะทกสะท้านแต่อย่างใด “ข้าใช่พูดความจริงตรงไปใช่หรือไม่” “เซียวชงอวี้ เจ้าบ้าไปแล้ว!” หลิวซีทั้งโมโหทั้งเดือดดาล แต่มีสติพอจะยับยั้งอารมณ์ที่กรุ่นร้อน ไม่คิดจะพูดจาด้วยเหตุผลต่อเพราะไร้ประโยชน์ ด้วยพละกำลัง ฐานะอำนาจ ไม่มีสิ่งใดไปต่อกรเขาได้ จำต้องถอยทัพ ขืนปักหลักสู้ มีหวังแม้แต่

