[21] 'เอาเสื้อคืนมานะ!'
ตัวฉันในวัยสิบขวบวิ่งตามกลุ่มเด็กผู้ชายในชั้นเรียนเดียวกันที่แย่งเสื้อฮู้ตของฉันไป ผ่านแดดช่วงกลางวันที่กำลังร้อนได้ที่เหมือนไฟที่ร้อนจัดในเตา ฉันได้กลิ่นเนื้อตัวเองไหม้จากแสงแดด จนกระทั่งเด็กพวกนั้นหันกลับมามองฉันด้วยท่าทางหวาดกลัวสุดขีด และเด็กชายที่ขโมยเสื้อฉันก็วิ่งหนีไปพร้อมกับทิ้งฮู้ตของฉันไว้
"อเลสซ่า!"
ฉันเริ่มรู้สึกเบาหัว ทั้งบุคลากรและเด็กที่พักกินข้าววิ่งกรูเข้ามาพร้อมเสียงซุบซิบบางอย่าง ความรู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นนี้ทำให้ฉันอยากอาเจียนออกมา แต่แล้วฉันก็หมดสติไป เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ไปโรงเรียน...เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้อยู่ในสังคมเหมือนคนอื่นๆ
และฉันก็ฟื้นขึ้นอีกครั้งในห้องพักของโรงแรม อยู่ห่างจากจุดสุดท้ายที่ฉันสลบไปไม่ไกลนัก ข้อเท้าขวาถูกล่ามไว้กับขาเตียงด้วยโซ่เหล็ก ฉันนึกขำ นี่มันหนังแนวสตอกโฮล์มซินโดรมรึยังไงกัน? เสียงฝักบัวที่เปิดอยู่เรียกความสนใจให้ฉันหันไปที่ห้องน้ำ ก่อนที่ร่างไร้อาภรณ์ของเดเมียนจะเปิดประตูออกมา
หลังจากสิ่งที่แวมไพร์ตัวนี้ได้ทำกับเซต แน่นอนว่าฉันกลัวเขา ฉันจะถูกข่มขืนเหมือนเซตมั้ยนะ?...หรือจะถูกลบความจำ เดเมียนที่รู้ว่าฉันกำลังกลัวแสยะยิ้ม แต่เขากลับเมินเฉยและเดินไปสวมเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้บนเตียง ฉันสังเกตเห็นรอยแผลเป็นขนาดใหญ่กลางหลังของเขาที่เกิดจากการใช้เหล็กลนไฟที่เป็นรูปกางเขนจี้ลงไปบนหลัง เดเมียนหันมาเพราะรู้ว่าฉันสนใจ เขาปล่อยท่อนบนให้เปลือยเปล่าก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ซึ่งอยู่ตรงหน้าฉัน
"ไม่ใช่การเจอกันที่น่าประทับใจนะ" เดเมียนไม่ได้ตัวขาวซีดเหมือนพวกแวมไพร์ตัวอื่น ค่อนข้างจะเหมือนผู้สร้างของเขาด้วยซ้ำ "เธอคงจะรู้จักฉันแล้ว"
ฉันนิ่งเงียบ "แต่ว่าฉันยังไม่รู้จักเธอเลย"
"อยากรู้ไปทำไม ยังไงคุณก็ไม่สนใจอยู่แล้วนี่"
ท่าทางที่ไร้ความรู้สึกทำฉันหวั่นใจ ก่อนที่เขาจะวาร์ปเข้ามาบีบคอฉันที่ไร้ทางหนี เดาไม่ออกเหมือนกันว่าเดเมียนโกรธที่ฉันไม่ตอบคำถามหรือเพราะว่าฉันกำลังยียวนเขาอยู่กันแน่? จนเดเมียนคลายมือที่บีบคอลง ฉันไอจนตัวโยนและทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเดเมียนด้วยความโกรธแค้น
"...พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกแวมไพร์ถึงถูกใจเธอนัก" ฉันหันหนีจากดวงตาของเขาที่กำลังจดจ้อง แต่เดเมียนบีบคางฉันไว้ให้สบตา "พวกใจกล้าบ้าบิ่น ตอนที่ฉันเจอพ่อหนุ่มนักล่าคนนั้นเขาก็ไม่ต่างจากเธอนักหรอก"
"ก็ลองดูสิ แกจะได้รู้ว่าฉันมันเหมือนพวกคนทั่วไปรึเปล่า"
"ฉันจะกินเธอแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้" เดเมียนลุกยืนก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและสูทนอกสีดำที่สีเข้ากันดีกับกางเกง "บ่มเพาะให้รสชาติมันน่ากินกว่านี้สักหน่อย ฉันว่าฉันอดทนรอได้อยู่แล้ว"
"ปล่อยฉันนะ!"
เดเมียนโบกมือลาก่อนจะปิดผ้าม่านและไฟในห้องจนมืดสนิท ฉันไม่ได้กลัวความมืด แต่ด้วยบรรยากาศเช่นนี้เป็นตัวเร่งให้สติกระเจิงได้ง่าย ฉันลองคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ อืม...ถ้าเดเมียนปลดคาถาได้สำเร็จ แล้วยังไงต่อล่ะ? มันออกจะน่าเบื่อถ้าหากแวมไพร์ระดับเดเมียนคิดอยากจะครองโลกเหมือนในหนังแวมไพร์เกรดบี
จะว่าไปลองเอาคำถามนี้ไปใส่ตอนสัมภาษณ์กับแวมไพร์ก็ดีนะ
"อเลสซ่าหายตัวไป?"
"พอผมออกไปตามเธอก็ไม่เจอแล้ว เจอแต่ซากแวมไพร์ที่โดนจัดการไป"
จอห์นสบถออกมาก่อนจะมองจาเวียร์และลูอิสที่มีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน ส่วนอีเลียตนั้นมองตู้เก็บเลือดสำรองที่ตอนนี้เหลือเพียงความว่างเปล่า เลือดชุดสุดท้ายถูกแจกจ่ายให้แวมไพร์ที่ยังเหลือรอดอยู่ในเมืองนี้ คงซื้อเวลาได้อีกหลายวันก่อนที่เหล่าแวมไพร์จะกลับมากระหายเลือดอีกครั้ง
"ไม่เหลือเลือดแล้วหรอ?"
"หมดเกลี้ยงเลย" อีเลียตถอนหายใจก่อนจะปิดตู้ จอห์นถามขึ้นมา "คิดว่าเป็นฝีมือเดเมียนรึเปล่า?"
"ใช่หมอนั่นอยู่แล้ว แต่คำถามอยู่ที่ว่าเขาต้องการอะไรมากกว่า"
"อเลสซ่าอยู่ไหน?"
เสียงลมพัดวูบพร้อมกับคำถามเกิดขึ้นแทบจะพร้อมกัน ทั้งแวมไพร์และมนุษย์ที่ปักหลักอยู่ในร้านมองอเล็กซ์เดินเข้ามา คราบเลือดเขรอะกรังแต่งแต้มอยู่อยู่บนเสื้อสีขาว แวมไพร์อัลฟาแสดงท่าทางร้อนรนออกมาด้วยความเป็นห่วง
"กว่าจะโผล่หัวออกมาได้นะ" จอห์นยิ้มกวนประสาท "ต้องรอให้มีคนใกล้ตายอีกใช่มั้ยคุณถึงจะยอมโผล่หัวออกมา"
"ไม่ใช่เรื่องที่นายจะอยากรู้"
"โอ้ว...เชื่อสิอเล็กซ์ ผมโคตรอยากจะรู้เลย"
เมื่อต่างฝ่ายต่างยั่วโมโหกันและกันสองแวมไพร์จึงเริ่มโชว์เขี้ยวของตนออกมาโดยไม่สนใจเผ่าพันธุ์อื่นที่กำลังนั่งอยู่ไม่ไกล อีเลียตที่เห็นเช่นนั้นต่องเข้ามาสงบศึกโดยการเดินไปขวางหน้าทั้งสอง "ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันนะ" จอห์นนึกหัวเสียก่อนจะยอมถอยออกมา "สถานการณ์มันยังแย่ไม่พอรึไง?"
"มันแย่ได้กว่านี้อีก" อเล็กซ์ถอนหายใจ "เชื่อฉันเถอะ"
'คอแห้งจังเลย'
ฉันนอนขดตัวโดยมองแสงตะวันสาดส่องเข้ามาผ่านผ้าม่าน ตอนนี้คงใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เดเมียนออกไปนานกว่าที่ฉันคาดเอาไว้จนแอบหวั่นใจว่าเขาจะทิ้งให้ฉันเน่าตายอยู่ที่นี่รึเปล่า จนเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับอาหารสำเร็จรูปและน้ำหนึ่งขวดก่อนจะโยนลงตรงหน้า
"กินซะ"
"ฉันไม่หิว"
เดเมียนถอนหายใจก่อนจะหยิบขวดน้ำและอาหารที่ตัวเองโยนลงพื้นขึ้นมาถือไว้ เขาก็ย่อตัวลงมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่ดูจะเป็นจุดเด่นของพวกแวมไพร์ "กินซะ"
ฉันที่เริ่มยอมรับว่าการทำตัวดื้อรั้นเช่นนี้ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นรับน้ำและอาหารจากเขา สองมือเปิดฝาขวดออกโดยที่อีกสองดวงตาก็จับจ้องการกระทำของเดเมียนไปด้วย แวมไพร์หนุ่มยืนขึ้นก่อนจะถอดเสื้อและกางเกงออกจนเหลือชั้นใน และเขาก็หายเข้าไปในห้องน้ำ
กางเกงขายาวบนพื้นเรียกความสนใจจากฉันมากพอที่จะคว้ามันขึ้นมา ฉันลองล้วงดูข้างในกระเป๋ากางเกง ไม่เจออะไร...ฉันมองที่ประตูก่อนจะวางกางเกงไว้บนพื้นในสภาพเดิมและหันมาสนใจอาหาร สิบนาทีต่อมาเดเมียนก็ออกจากห้องน้ำพร้อมกับชุดคลุมสีชมพูที่ดูยังไงก็ไม่เข้ากัน
"อะไร?" เดเมียนเดาสายตาของฉันออก "เห็นฉันเป็นไอ้บ้าอยากซดเลือดตลอดเวลารึไง"
"ก็นายเป็นอย่างนั้นนี่ แค่เห็นอะไรแบบนี้มันเปลี่ยนความคิดฉันไม่ได้หรอกนะ"
เดเมียนไม่ได้นึกใส่ใจ บรรยากาศแสนเงียบสงบทำให้ความน่าอึดอัดเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ฉันได้ยินเพียงเสียงหายใจอันตื่นตระหนกของตัวเองก่อนที่จะเริ่มใจเย็นลงได้ แวมไพร์หนุ่มยกยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาส่อถึงความกระหายในเรื่องบางอย่างที่ไม่ใช่เลือด...มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวซะมากกว่าการที่รู้ว่าตัวเองจะโดนกัดซะอีก
"เธอกำลังกลัวอเลสซ่า รู้นี่ว่าความกลัวมันทำให้เลือดอร่อยขึ้น" เดเมียนย่อตัวลงมาอีกครั้งก่อนจะบีบคอฉันไว้ ฉันพยายามจะขัดขืนเขา เสียงดมกลิ่นเหยื่อเช่นสัตว์ร้ายทำให้ฉันกลัว "อืม...กลิ่นแบบนี้แหละ ค่อยคุ้มค่าที่ลงแรงไปหน่อย"
เขี้ยวของเดเมียนนั้นยาวเกือบเท่านิ้วโป้งของฉัน ซึ่งที่จริงก็ไม่แปลกใจกับความยาวที่มากกว่าแวมไพร์ทั่วไปหรอกนะ แต่เท่าที่ฉันผ่านประสบการณ์การโดนกัดจากอเล็กซ์ที่มีเขี้ยวยาวพอๆ กับเดเมียน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเขี้ยวขนาดเท่านี้คงไม่ได้เหมาะกับการสูบเลือดที่คอแน่
"นึกถึงเรื่องดีๆ ไว้ล่ะ" เดเมียนรวบมือสองข้างของฉันที่พยายามผลักเขาออก "และก็อย่าเพิ่งตาย ฉันมีอะไรสนุกๆ เซอร์ไพรส์เธออีกเยอะเลย"
และจากนั้นคมเขี้ยวที่แข็งแรงเสียยิ่งกว่าแร่ไทเทเนียมก็กดลงบนผิวหนังของฉัน พอจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเซตถึงกลายเป็นบ้าได้ขนาดนั้น เดเมียนจงใจฝังเขี้ยวลงสุดจนเลือดสีแดงสดทะลักออกมาจากเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งนั่นสามารถฆ่าฉันตายได้ในเวลาสามหรือสี่นาทีต่อจากนี้
แต่ภาพบางอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างความเจ็บปวดนั้นกลับทำให้ฉันนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดสมัยวิคตอเรียน คล้ายกับคนที่เคยเข้ามากล่าวทักทายฉันในยามใกล้ตายเช่นนี้มาก่อน ใบหน้าของเธอละม้ายคล้ายคลึงกับหญิงสาวในชุดนักรบลีเจนคนนั้น
'ถึงท่านจะชั่วร้ายขนาดไหน ท่านก็เป็นรักแรกของข้า...จากวันแรกที่เราเจอกันและตลอดไป'
"เธอพูดว่าอะไรนะ?"
เดเมียนหยุดดื่มเลือดทันทีหลังจากได้ยินสิ่งที่ฉันเพ้อออกมา คำพูดน้ำเน่าแบบนั้น แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยหยุดความเจ็บปวดนี้ได้ เลือดแดงสดยังพุ่งออกมาเหมือนท่อน้ำแตก ฉันรับรู้ถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาได้อีกครั้ง
"บอกมานะว่าเธอรู้ได้ยังไง...บอกมาสิ!" ฉันแสยะยิ้มได้ใจ "ไม่งั้นฉันจะปล่อยเธอให้เน่าตายแบบนี้แหละ!"
"เอาสิ...ถ้านายคิดว่าฉันจะกลัว ตายไปซะยังจะดีกว่าอยู่กับปีศาจแบบนาย"
'เดเมียน'
ร่างกายของฉันด้านชาโดยสมบูรณ์ แต่ไม่รู้สิ...มันเป็นความเคยชินจนไม่รู้แล้วว่าความตายนั้นคืออะไร คล้ายฝันที่เหมือนจริงทับซ้อนกัน และทุกครั้งที่ฉันหลีกหนีจากความตายมาได้ มันก็เริ่มซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม ลิ้นของฉันสัมผัสกับรสชาติเลือดอุ่นๆ ของเดเมียน แน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้ฉันตายอยู่แล้ว
ฉันรับรสชาติของเดเมียนเข้ามาและเห็นความทรงจำในหัวของเขา หญิงสาวในชุดขาวเปื้อนเลือด...หยาดโลหิตแดงฉานที่นองอยู่บนพื้นไม้เย็นถึงกระดูก และอเล็กซ์...ในแบบที่ฉันไม่เคยพบเจอ ภาพจากมุมสายตาของเดเมียนทำให้ฉันได้เห็นแวมไพร์หนุ่มอัลฟาที่ส่งต่อเลือดให้ ประโยคหนึ่งที่อเล็กซ์กระซิบออกมาระหว่างเปลี่ยนเดเมียนเป็นแวมไพร์นั้นทำให้ฉันเริ่มสับสน
'รับมันเข้าไป อย่างนั้นล่ะ...'
'ข้าจะได้พบกับความสงบเสียที'
[To Be Continued...]