[7] หลังจากที่ฉันและจาเวียร์พบหัวใจมนุษย์ถูกส่งมาได้ไม่นานเขาก็เป็นคนโทรแจ้งตำรวจ คนที่ไม่เกี่ยวข้องถูกพวกเจ้าหน้าที่ไล่ออกไปเกือบหมด สายตาฉันยังคงจ้องไปที่หัวใจดวงนั้นจนกระทั่งพวกเขาเก็บออกไป ใครกันทำแบบนี้ได้ลงคอ...แต่ฉันว่ามันอาจจะไม่ใช่คนก็ได้ที่ทำเรื่องแบบนี้ เพราะนับตั้งแต่ตอนที่ฉันเจอจอห์น เรื่องบ้าๆ ทั้งหมดก็เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ามาในชีวิตฉัน หวังว่าแวมไพร์สองตัวนั้นจะไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันคิดหรอกนะ
"เธอโอเคนะ?"
"ไม่...ไม่โอเค"
จาเวียร์รู้ว่าฉันเป็นคนที่กลัวเลือดขนาดไหน เขาพาฉันเดินออกมานั่งด้านนอกเพื่อไม่ให้ฉันเป็นลมไปซะก่อน และจากนั้นตำรวจนายหนึ่งก็เดินมาพร้อมสมุดจด ฉันเคยเจอเขาอยู่หนนึงตอนที่ไปแจ้งของหาย และฉันก็มีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับหมอนี่สักเท่าไหร่...ในฐานะแฟนเก่า
"ไงอเลสซ่า"
"ไงฮันท์" ฉันทักทายตามมารยาท เกลียดชะมัดที่ต้องเจอหน้าหมอนี่ทุกครั้ง
"เจอใครที่พอจะน่าสงสัยบ้างมั้ย คนที่จะเข้าออกประตูนี้ได้โดยที่ไม่มีใครเห็น"
"ไม่..."
ฮันท์ขยับหมวกที่สวมอยู่และเหลียวมองจาเวียร์ หมอนั่นเขียนบันทึกเพิ่มลงไปและปิดสมุดลง ฉันยักคิ้วเป็นการถามว่าเขามีปัญหาอะไร แต่ตาหนุ่มผมทองจอมแสบเพียงแค่กระตุกยิ้มก่อนจะเดินจากไป มันมีบ้างแหละที่ว่าไม่ฉันและเขาใครสักคนก็ต้องยอมแพ้กับความกวนประสาทแบบนี้ ฮันท์ทำเพื่อเอาชนะ แต่ฉันแค่อยากให้ใครซักคนรู้สึกหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล มันออกจะพูดยากนะ เหมือนพวกโรคจิตอ่อนๆ ล่ะมั้ง
"ฉันขอตัว..."
"เธอไหวแน่นะ?"
ฉันพยักหน้าก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพาย ดูเหมือนคืนนี้คงจะไม่ได้ทำอะไรแล้วล่ะ แน่นอนว่าเทปกั้นเขตหวงห้ามจะยังแปะอยู่อย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ หรืออาจจะสองสามวันถ้าจาเวียร์เป็นคนรำคาญและดึงมันออกเอง ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่ต้องสะสางกับใครบางคน
"อเลสซ่า ลมหอบมาหรอ?"
ฉันเคาะประตูหลังคลับแวมไพร์อยู่นานก่อนที่จอห์นจะเปิดประตูออกมา ในปากแวมไพร์หนุ่มคาบช้อนพลาสติก ในมือเขากำลังถือโยเกิร์ต ดูแล้วไม่เหมือนจอห์นที่ฉันรู้จักเลย ฉันไม่เห็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกแวมไพร์ถึงต้องหันมากินอาหารแบบนี้ เพื่อสุขภาพที่ดี...ฟังดูน่าตลกชะมัด
"โยเกิร์ตมั้ย?"
"รู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก"
ฉันปิดประตูก่อนจะถอดเสื้อโค้ตออก การยืดคอคุยกับคนตัวสูงขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะทำเท่าไหร่นัก จอห์นกินโยเกิร์ตคำสุดท้ายก่อนจะโยนถ้วยเปล่าลงถังขยะ
"เรื่องหัวใจที่ถูกควักใส่กล่องนั่นน่ะหรอ? ฉันว่ามันก็ออกจะสร้างสรรค์ดีนี่ อาจจะพวกแวมชอบเรียกร้องความสนใจ หรือไม่ก็...อย่างอื่น"
"ฉันอยู่ที่เมืองนี้มายี่สิบห้าปี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ และรู้อะไรมั้ย หลังจากที่นายโผล่เข้ามาในชีวิตฉันเรื่องบัดซบพวกนี้ก็เกิดขึ้น...นายไม่ควรเดินเข้ามาในชีวิตฉันเลยจอห์น"
ดูเหมือนคำพูดนั้นจะไปสะกิดต่อมบางอย่างในตัวเขา และฉันก็ยั้งปากไว้ไม่ทันแล้วซะด้วย จอห์นพุ่งเข้ามาหาฉันพร้อมสีหน้าไม่พอใจ สายตาของเขาเหมือนอยากจะฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆ ฉันกลืนน้ำลายและหวังให้เขาไม่กัดคอฉัน
"ถ้าฉันไม่ช่วยเธอตอนนั้น ลองนึกสิว่าป่านนี้สภาพเธอจะเป็นยังไง เธอมันอ่อนแอ...เหมือนคนอื่นๆ ฉันก็น่าจะปล่อยให้เธอตายไปเลยเหมือนกัน"
ฉันไม่คิดว่าจอห์นจะพูดแบบนั้น ไม่เลยหลังจากที่เขาช่วยฉันจากการโดนกัดครั้งแรก...และอีกครั้งจากยัยเขี้ยวยาวนั่น เขาคงไม่ได้รู้สึกอะไรตอนที่ช่วยฉันออกมา เลือดของเธอมันยั่วยวน สิ่งที่เขาต้องการจากฉันคือแค่นั้น แล้วฉันควรจะแคร์เขาทำไม
"ดี...ได้ยินอย่างนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นหน่อย สุดท้ายก็ไม่ได้มีใครต้องการฉันจริงๆ นายก็เหมือนทุกคนจอห์น"
ฉันเปิดประตูหลังร้านและเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจเสื้อโค้ตที่แขวนอยู่ด้านหลังเขา มันออกจะโง่และงี่เง่าไปหน่อย แต่ฉันไม่อยากให้ตัวเองเผลอจ้องตาสีฟ้าคู่นั้นอีกแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกใจเต้นแรง ฉันเดินออกมาและเหลียวมองว่าพ่อหนุ่มแวมไพร์จะเดินตามออกมารึเปล่า แต่ฉันไม่ใช่นางเอกในซีรี่ส์นี่...และเขาก็ปล่อยฉันไว้ในความหนาวเหน็บอีกครั้ง
เสื้อสเวตเตอร์แขนยาวไม่ช่วยปกป้องฉันจากความหนาวเหน็บจากลมในหน้าหนาวเท่าไหร่ ฉันรู้สึกอ่อนแออย่างที่จอห์นพูดจริงๆ ตอนนี้ฉันตัดสินใจกลับมาที่ร้านอีกครั้งเพื่อขอค้างจนถึงเช้า กลับบ้านตอนนี้คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ และฉันก็ไม่อยากแจ๊กพอตไปเจอกับแวมไพร์ซักตัวที่กำลังหิวแทบคลั่งอยู่ด้วย ป้ายร้านทาโก้อยู่ตรงหน้า แต่ฉันพยายามคุมสติตัวเองไม่ให้วิ่งไปสะดุดอะไรเข้า
เอาอีกแล้ว...ฉันมองชายคนหนึ่งที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้า
"ออกไปห่างๆ ฉันเลย! ฉันเกลียดตัวดูดเลือดแบบพวกแก ได้ยินมั้ยว่า--"
ฉันถูกรวบเอวจากด้านหลังก่อนจะถูกฉีดยาเข้าที่คออีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้รู้สึกอยากหลับเหมือนตอนล่าสุดที่โดนแบบนี้ แต่ร่างกายมัน...ขยับไม่ได้ ฉันถูกชายผมแดงแบกเข้าไปในสวนสาธารณะที่อยู่ตรงข้าม กุญแจที่ล็อกประตูหน้าถูกเขาดึงออกอย่างง่ายดาย เกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย
"เธอไม่น่าไปรู้จักจอห์นเลย"
หมายความว่าไง? ฉันไม่รู้จักกับคนพวกนี้ แต่พวกเขากลับรู้ว่าฉันทำอะไรกับใครมา ร่างฉันถูกวางบนพื้นหญ้า มันแทบจะไม่รู้อะไรเมื่อถูกวางยาแบบนี้ แต่มีอย่างนึงที่ฉันพอจะเดาได้ ฉันรู้สึกว่าพวกเขาไม่ใช่แวมไพร์...สัญชาตญาณมันบอกน่ะ
"พวกนายไม่ใช่...แวม"
"ยัยนี่ไม่ธรรมดาแฮะ"
ชายอีกคนที่ยืนขวางทางฉันตอนแรกพูดขึ้น เขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพาย เป็นมีดเดินป่าเล่มหนึ่ง เอาตรงๆ ตอนนี้ฉันกลับนึกถึงหัวใจที่ถูกใส่กล่อง ภาพในหัวมันกำลังตีกันไปหมดว่าเวลาถูกคว้านอกมันจะเป็นยังไง
"ปล่อยฉันไปเถอะ..."
"คงจะไม่ได้" หนุ่มผมแดงกระซิบ "ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้"
ชายร่างสูงง้างมีดเพื่อจะแหวกอกฉัน แต่สิ่งต่อมาที่ฉันรู้คือเขาคนนั้นถูกบางอย่างกระชากจากด้านหลัง เสียงกรีดร้องและ 'บางอย่าง' ที่กำลังคำรามนั้นทำให้ชายผมแดงอีกคนกลัวมากพอจนเขาวาร์ปหายไป ฉันหันไปมอง สิ่งที่กำลังขย้ำตัวประหลาดเป็นหมาป่าตัวหนึ่ง ขนสีดำแซมน้ำตาลและดวงตาสีน้ำตาลสว่างนั้นทำให้ฉันนึกถึงใครบางคน
"จาเวียร์..."
แวบหนึ่งที่มันหันมามองฉันด้วยแววตา...ตกใจ หรือแปลกใจ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คนที่เสียเปรียบใช้มีดเล่มนั้นแทงที่ท้องของหมาป่าตัวนั้นเต็มแรง ฉันมองเจ้าหมาตัวนั้นร้องโหยหวน มันขย้ำที่คอหมอนั่นและสะบัดออกจนหัวหลุดออกมา จากนั้นซากของเขาก็กลายเป็นเพียงศพเน่าๆ อยู่ตรงนั้น
"พระเจ้า"
ฉันหันไปมองที่ต้นเสียง จอห์นที่อยู่ๆ ก็โผล่มาตกใจไปพักนึงก่อนที่เขาจะวาร์ปมาหาฉัน ฉันยังเมาจากฤทธิ์ยาอยู่เลยยังด่าเขาไม่ได้ อยากทำใจจะขาด และเสียงครางจากความเจ็บปวดก็เรียกเราสองคนให้หันไปมองเจ้าหมาป่าตัวนั้น ผิวหนังของมันเปื่อยลงกลายเป็นของเหลวน่าขยะแขยง และร่างมนุษย์ที่ปนของเหลวพวกนั้น ฉันรู้ทันทีว่านั่นคือจาเวียร์
"ต้องล้อกันเล่นแน่"
[To Be Continued...]