เด็กหญิงอลิสสา 1.1

1859 Words
หลังจากกินไอศกรีมเสร็จสิ้น กฤตย์กับชมพลอยต่างพาลูกของตัวเองเดินออกจากร้าน เพื่อไปบ้านของกฤตย์ตามนัดหมายกันไว้ ขณะที่กำลังเดินไปลานจอดรถ แทนธรรมกับอลิสสาบอกผู้ปกครองของตนว่า อยากเข้าห้องน้ำ กฤตย์จึงพาแทนธรรมเข้าห้องน้ำชาย ชมพลอยพาลูกสาวคนห้องน้ำหญิง กฤตย์กับแทนธรรมทำธุระในห้องน้ำเสร็จก่อน ทั้งสองจึงเดินออกมาคอยสองแม่ลูกตรงทางเดินเข้าห้องน้ำ ไม่นานนักชมพลอยเดินจูงลูกสาวออกมา “พี่กฤตย์คะ ฝากดูน้องแก้มแปปนะคะ เกรซรู้สึกปวดท้องหนักน่ะค่ะ” ตอนแรกไม่ปวด พอเดินออกมาจากห้องน้ำอาการปวดท้องหนักก็เกิดขึ้น “ได้สิ พี่รอตรงนี้นะ” เขาชี้ไปยังม้านั่งฝั่งตรงข้ามห้องน้ำ ชมพลอยพยักหน้ารีบหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอย่างรีบร้อน เพียงแค่ชมพลอยหันหลังก้าวเดินเพียงสองก้าวร่างสูงใหญ่ของนายแพทย์ภาคินทร์หรือธามก็ปรากฏตัวขึ้น ภาคินทร์เดินมาหากฤตย์ที่กำลังเดินไปยังม้านั่ง เป็นเสี้ยววินาทีผ่าแปดจริงๆ “ไอ้กฤตย์” ภาคินทร์ทักเพื่อนสนิท แทนธรรมเห็นลุงธามจึงยกมือไหว้ ภาคินทร์วางมือบนศีรษะหลานชายแล้วโยกเบาๆ ทว่าสายตากลับจับจ้องดวงหน้าน่ารักของเด็กหญิงที่ยืนอยู่ข้างแทนธรรม เขามองตาไม่กระพริบ มองลึกเข้าไปในแววตาของหนูน้อยที่ส่งยิ้มให้ ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจภาคินทร์ เขารู้สึกคุ้นเคยกับเด็กหญิงคนนี้มาก ราวกับว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่ก็มั่นใจว่านี่คือการพบกันครั้งแรก “สวัสดีค่ะคุณลุง” อลิสสาทำตามแทนธรรม “สวัสดีครับ” ภาคินทร์ย่อตัวตรงหน้าเด็กหญิงแสนน่ารัก ส่งยิ้มให้ “ชื่ออะไรครับ ลุงชื่อลุงธามครับ” “ชื่อน้องแก้มค่ะ” เด็กหญิงตอบอย่างเริงร่า ความสดใสและน่ารักของอลิสสาเรียกรอยยิ้มเขาให้กว้างมากขึ้น “ลูกสาวใครไอ้กฤตย์ หน้าตาน่ารักมาก” ภาคินทร์ยืดตัวเต็มความสูงเอ่ยถามกฤตย์ ทว่าดวงตายังมองไปยังหนูน้อย ก่อนที่ประโยคคำถามถัดมาจะหันไปมองเพื่อน “อย่าบอกนะว่า แกแอบไปไข่ไว้ที่ไหน” “น้องแก้มอยู่ห้องเดียวกันกับน้องแทนน่ะ แม่น้องแก้มเข้าห้องน้ำเลยฝากให้ฉันดูน้องแก้มให้” กฤตย์ตอบ “ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่หรือนัดใครไว้” “มาเอาเครื่องเพชรให้คุณแม่น่ะ คุณแม่ส่งมาทำความสะอาดที่ร้านคุณจิม” “ไปกินข้าวบ้านฉันไหม ตอนนี้มิกค์ก็อยู่บ้านฉัน” กฤตย์กล่าวชวน “วันนี้ไม่ได้น่ะสิ เอาเครื่องเพชรให้คุณแม่เสร็จก็ต้องไปบ้านน้าเพ็ญต่อ คุณแม่ฝากของไปให้น้าเพ็ญแล้วต้องไปก่อนสามทุ่มด้วยเพราะน้าเพ็ญบินไปเยอรมันตอนตีสอง” คนถูกชวนบอกเหตุผลที่ไปตามคำชวนไม่ได้ “ว่าแต่ไอ้มิกค์กลับวันไหนล่ะ นัดกันก่อนมันกลับก็ได้นะ” “อีกสามสี่วันมั้ง ถ้าไงฉันจะโทรนัดแกล่วงหน้าก็แล้วกัน” กฤตย์ตอบ “เออได้ นัดล่วงหน้าแหละดี ช่วงนี้ยุ่งๆ ด้วย คนไข้เยอะ” ภาคินทร์พูดกับเพื่อนจบก็ก้มหน้ามองน้องแก้มที่เงยหน้ายิ้มให้ “ลุงไปก่อนนะครับน้องแก้ม คราวหน้าเจอกันใหม่นะ” ภาคินทร์มีความรู้สึกว่า ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ได้เจออลิสสา แรงกระตุ้นบางอย่างในใจบอกว่า ต้องได้เจอหนูน้อยอีกครั้ง “ค่ะคุณลุงธาม” เด็กหญิงรับคำเสียงใส แววตาบริสทุทธิ์ใสซื่อทำให้คนมองรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก ภาคินทร์ยิ้มวางมือลงกลางศีรษะหนูน้อยแล้วโยกเบาๆ “ฉันไปก่อนนะ อย่าลืมโทรมานัดล่ะ” ภาคินทร์กล่าวลาและย้ำเพื่อน “เออรู้แล้ว” จบคำพูดกฤตย์ ภาคินทร์มองอลิสสาอีกครั้งก่อนก้าวเดินไปยังร้านจิวเวอรี่ที่อยู่ชั้นเดียวกัน ภาคินทร์เดินห่างไปไม่กี่ก้าว ชมพลอยก็เดินมาสมทบพอดี “ขอโทษค่ะพี่กฤตย์ที่ให้คอยนาน” “นานที่ไหน แปปเดียวเอง” กฤตย์ตอบกลับ “สำหรับเกรซ นานแค่ไหนพี่ก็รอได้” ชมพลอยยิ้ม ไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดของเขา “ไปกันดีกว่าค่ะ เกรซกลัวรถติด” ทั้งสี่จึงพากันเดินไปยังลานจอดรถที่บังเอิญว่าจอดรถอยู่ชั้นเดียวกัน ก่อนที่กฤตย์กับชมพลอยจะขึ้นรถของตัวเอง ขับมุ่งตรงไปยังบ้านกฤตย์ที่ต้องใช้เวลาเดินทางราวสี่สิบนาที   บ้านหมอกฤตย์ ห้องครัวไม่ได้อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารที่แม่ครัวสาวตั้งใจทำเพียงอย่างเดียว ยังมีกลิ่นไอความรักโชยมาจากตัวพ่อเลี้ยงหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวๆ เมืองเหนือ ทว่าเขาหาได้สนใจหญิงคนใดนอกจากน้ำฟ้า หลังจากซื้อของสดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์และผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารแห้งบางอย่างเสร็จ ชมัศชัยพาน้ำฟ้ากลับบ้าน ก่อนมาเป็นลูกมือน้ำฟ้า คอยช่วยเธอหั่นเนื้อสัตว์และผักสด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย เป็นเพราะชมัศชัยเป็นผู้ชายที่ทำอาหารเก่งมาก เขาทำได้หลายเชื้อชาติ เมนูอาหารวันนี้มีห้าอย่างที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมนูที่ว่านี้คือหมูทอด ไข่เจียวกุ้งสับ ผัดบล็อกโคลี่กุ้งสด ต้มยำทะเล และมีอีกหนึ่งเมนูที่กฤตย์ส่งข้อความทางไลน์มาบอกให้น้ำฟ้าทำคือ แกงมัสมั่นไก่ “พี่มิกค์ชิมให้ฟ้าหน่อยได้ไหมคะ ไม่ได้ทำแกงมัสมั่นนานแล้ว ไม่ค่อยมั่นใจค่ะ” อีกสี่เมนูไม่มีปัญหา เป็นอาหารที่น้ำฟ้าทำบ่อยๆ เธอจึงไว้วานให้ชมัศชัยชิมรสชาติที่ตนปรุง “พี่แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย” พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้รสมือน้ำฟ้าดีว่า ไม่ว่าอาหารที่ทำครั้งแรกหรือนานๆ ทำสักครั้งต่างก็มีรสชาติเดียวคือ อร่อย “ลองชิมก่อนดีกว่าค่ะ บางทีอาจไม่อร่อยก็ได้” แม่ครัวกล่าวอย่างไม่มั่นใจ “ก็ได้ครับ แต่ฟ้าต้องป้อนพี่นะ” น้ำฟ้ายิ้ม ตักน้ำแกงใส่ถ้วยเล็กๆ ก่อนใช้ช้อนตักน้ำแกงในถ้วยแล้วเป่าให้คลายความร้อน จากนั้นก็ป้อนใส่ปากเขา “เป็นไงคะ อร่อยไหมหรือว่าต้องใส่อะไรเพิ่ม” “พี่บอกแล้วไงว่า แค่ได้กลิ่นก็รู้ว่าอร่อย” “แน่นะคะ” น้ำฟ้าถามอย่างไม่มั่นใจ “แน่สิครับ ถ้าไม่อร่อยแล้วตั้งโต๊ะ ไอ้กฤตย์ได้ว่าฟ้าน่ะสิ พี่ไม่ยอมให้ใครว่าฟ้าหรอก ทุกคนต้องชมรสมือของฟ้า ซึ่งมันก็อร่อยจริงๆ” คำพูดของเขาเรียกรอยยิ้มและความมั่นใจให้น้ำฟ้ามาก “ก่อนกลับไร่พี่จะสอนฟ้าทำยำทวายดีไหม ครั้งก่อนที่พี่มา ฟ้าบอกพี่ว่าอยากให้พี่สอน” “ดีค่ะ ฟ้าอยากทำค่ะ” “ฟ้าอยากทำต้องได้ทำ” ชมัศชัยใช้นิ้วหนีบจมูกเธอเบาๆ อย่างเอ็นดูและสุดแสนรัก น้ำฟ้าไม่ได้คิดอะไร เธอรักชมัศชัยเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ท่าทางที่เขาแสดงออกเธอคิดว่า เขารักและเมตตาตนเสมือนน้องสาว ทว่าคนที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูครัวไม่ได้คิดเช่นนั้น กฤตย์รู้ดีว่า เพื่อนรักคนนี้คิดอย่างไรกับน้ำฟ้า “อาหารเสร็จหรือยัง” น้ำเสียงนิ่งๆ บนใบหน้าเรียบเฉยของกฤตย์ดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มสาวหันมามองต้นเสียง “เสร็จพอดีค่ะ คุณหมอไปรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ” น้ำฟ้าตอบ “พี่มิกค์ก็ด้วยนะคะ ทางนี้ฟ้าจัดการเองค่ะ” “ไม่ล่ะ พี่ช่วยฟ้ามาตั้งแต่ต้นจะทิ้งไปได้ไง” พ่อเลี้ยงบอกสาวสวยที่ตนแอบหลงรัก ก่อนหันไปบอกเจ้าของบ้าน “นายไปรอกินเลย แค่ยกแกงมัสมั่นไปที่โต๊ะก็ได้กินแล้ว” กฤตย์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาหมุนตัวเดินไปยังห้องทานอาหารที่อยู่ติดกัน สวนกับนงค์และส้มโอที่ช่วยกันจัดสำรับขึ้นโต๊ะ สองสาวใช้ช่วยกันยกอาหารที่เหลือคือแกงมัสมั่นและข้าวสวยร้อนๆ ในโถไปเสิร์ฟให้เจ้านายที่นั่งกินมื้อเย็นอย่างเอร็ดอร่อย “แกงมัสมั่นอร่อยมากค่ะ ฟ้าทำอาหารเก่งมากเลย” ชมพลอยชมจากใจ “ต้องยกความดีความชอบให้พี่มิกค์ค่ะ ฟ้าไม่ได้ทำแกงมัสมั่นนานแล้วไม่ค่อยมั่นใจในรสชาติที่ตัวเองทำก็เลยให้พี่มิกค์ช่วยชิมค่ะ ถ้าลิ้นพี่มิกค์ผ่านก็คือเสิร์ฟได้” น้ำฟ้าไม่ได้เอาหน้าคนเดียว “คนชิมจะเก่งเท่าคนทำได้ไง จริงไหมเกรซ” ชมัศชัยอยากให้ทุกคนชมน้ำฟ้ามากกว่า “จริงค่ะ ถ้าคนทำทำไม่อร่อย คนชิมก็ต้องว่าไม่อร่อย” ชมพลอยเห็นด้วย “พี่เกรซกินต้มยำสิคะ ฟ้าใส่เห็ดเยอะๆ อย่างที่พี่ชอบด้วย” น้ำฟ้าตักต้มยำใส่ถ้วยแบ่ง ก่อนส่งให้ชมพลอยที่นั่งฝั่งตรงข้าม และนั่นทำให้กฤตย์เห็นสร้อยข้อมือทองคำรูปหัวใจที่น้ำฟ้าสวมใส่ ความสงสัยเกิดขึ้นในใจทันทีว่า ใครคือคนที่ให้สร้อยข้อมือเส้นนี้กับเธอ ทว่าเขาก็ยังไม่ถาม เก็บความข้องใจไว้ก่อน นั่งกินอาหารต่อไป จนกระทั่งมื้อเย็นสิ้นสุดลง กฤตย์มาส่งชมพลอยที่รถและรอจนกว่าเธอจะขับรถออกไปพ้นประตูบ้าน เขาจึงเดินกลับเข้ามาในบ้าน ภาพที่เขาเห็นในห้องรับแขกคือ ชมัศนัยกอดน้ำฟ้า “พี่กลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” พ่อเลี้ยงสุดหล่อบอกน้ำฟ้าที่พนมมือไหว้แล้วยิ้มให้ “ค่ะพี่มิกค์” “ฝันดีนะ คืนนี้พี่จะฝันถึงฟ้า” น้ำฟ้ายิ้มให้เขาเช่นเดิม “ไปกันหรือยังไอ้มิกค์ ป่านนี้ธามกับจ๊อดคงถึงผับแล้ว” ความนิ่งเรียบของน้ำเสียงและสีหน้าของกฤตย์ไม่ได้บอกให้รู้เลยว่า เขากำลังไม่พอใจหรือหึงหวง เดิมทีกฤตย์จะนัดภาคินทร์ใกล้วันที่ชมัศชัยเดินทางกลับ ทว่าภาคินทร์โทรมานัดกฤตย์ว่า ให้กฤตย์กับชมัศชัยมาเจอที่ผับประจำ ซึ่งกฤตย์ก็ตอบรับนัด “เออรู้แล้ว” ชมัศชัยบอกเพื่อนเสร็จก็หันมาทางน้ำฟ้า “พรุ่งนี้แต่งตัวสวยๆ รอพี่นะ” “ค่ะพี่มิกค์” พ่อเลี้ยงหนุ่มเดินไปหาเจ้าของบ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไปจากบ้าน น้ำฟ้าจึงเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูแลแทนธรรมตามหน้าที่ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD