สวบ!
“กรี๊ด!!!”
“...” ความรู้สึกของผมตอนที่นี้เหมือนมีคนเอาก้อนหินก้อนใหญ่มาทุบหัวไม่มีผิด
มีนา...บริสุทธิ์
“ฮึก! เจ็บ~ ฮื่อ ๆ ๆ”
“...” ผมได้ยินเสียงร้องของเธอก็เริ่มได้สติ มองหน้ามีนาผ่านความมืดแล้วค่อย ๆ ยกตัวของเธอขึ้น
“โอ๊ย! ฮื่อ ๆ ๆ” ตัวเธอบีบรัดลูกชายผมแน่นมาก ยิ่งขยับยิ่งร้องไห้ออกมาแต่มันต้องขยับไง ไม่ขยับก็แย่
“อ๊ะ! / อ่าส์~” อีกคนร้องเพราะเจ็บแต่ผมร้องเพราะเสียวแล้วก็...เสียดาย
ผมยกตัวมีนาขึ้นให้ส่วนนั้นของเราหลุดออกจากกัน พอเป็นอิสระมีนาก็ลนลานกลับไปที่เบาะรถ ผมไม่ได้ว่าอะไรนอกจากถอดเสื้อเชิ๊ตของตัวเองออกแล้วคลุมตัวคนข้าง ๆ ที่กำลังสะอื้นพร้อมกับขดตัวอยู่บนเบาะเหมือนลูกนกเท่านั้น
บรื๊น!
ผมขับรถออกมาจากจุดที่จอด ผมรู้ว่าเธอคงอยากถามว่าผมจะพาไปไหนแต่คงไม่กล้าถาม ช่างเถอะไม่ถามนั่นล่ะดีแล้วเพราะตอนนี้ผมไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น
...ผมพลาด
พลาดที่ทำร้ายเธอ
-เวลาต่อมา-
“ลง,kได้แล้ว” ผมบอกคนที่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นก็นั่งร้องไห้เงียบ ๆ จนหลับไป แต่พอจอดรถแล้วดับเครื่องมีนาก็ตื่นขึ้นมาพอดี
“ที่ไหนคะ” มีนาถามผมเสียงสั่นแต่ก็ไม่ได้หันมามองหน้าผม เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยความกลัว
“บ้านฉันเอง”
“...ที่ไหนล่ะคะ”
“ชุมพร”
“อะไรนะคะ?” คราวนี้เธอหันมามองผมแล้ว ไม่เห็นหน้าชัดยังรู้เลยว่ากลัวแค่ไหน
“ลงได้แล้ว ขับรถมาไกลเหนื่อย” กว่าจะมาถึงก็แทบสว่าง ผมไม่มีแรงอธิบายอะไรตอนนี้หรอก
“คุณเกรย์พามาที่ทำไม”
“พามาฆ่าหมกป่ามั้ง”
“...”
“ลงเถอะน่า ไม่ได้พามาฆ่าหรอก” ผมพูดจบก็ลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพราะมั่นใจว่าเธอคงไม่ลงง่าย ๆ
“ลง” ผมเปิดประตูให้คนในรถก็ยังไม่ยอมลง แสงสลัวทำให้ผมเห็นความหวาดกลัวจากเธอ
“ถ้าไม่ลงฉันจะทำอีก”
“อย่านะคุณเกรย์” เธอรีบตอบ น้ำเสียงมีแต่ความกลัวแต่ก็ยังดื้อไม่ยอมลงมาจากรถสักที
“ไม่อยากให้ทำก็ลงมาสิวะ”
“...” มีนาไม่ได้พูดอะไร เธอขยับตัวช้า ๆ ใช้มือกอดตัวเองไว้เหมือนจะปกป้องตัวเองทั้งที่ความจริงถ้าผมจะทำแค่การกอดตัวเองไว้มันไม่ได้ช่วยอะไรยัยนี่ได้หรอก
หมับ!
“ว้าย! ยะ อย่านะคุณเกรย์ ฮึก! อย่าทำอะไรมีนเลย” แค่ผมจับข้อมือยัยนี่ก็ร้องขอลนลานอย่างกับในมือผมมีปืนจ่อหัวเธออยู่
“ไม่อยากให้ทำก็อย่าโวยวาย เดินเข้าบ้านดี ๆ แล้วไม่ต้องคิดหนี แต่ถ้าพร้อมมีผัวชั่วคราวทีเดียวหลายคนก็ออกไปได้เลย ฉันไม่ห้าม”
“...” มีนาไม่ได้พูดอะไร ผมรู้ว่ากลัว ทั้งกลัวที่จะอยู่กับผมแล้วก็กลัวที่จะหนีไปแต่ผมไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อนอกจากเดินเข้าไปในบ้านพักตากอากาศของครอบครัวที่ไม่ได้ตั้งใจมาแต่แค่ความสับสนทำให้ผมขับรถมาเรื่อย ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็เห็นป้ายจังหวัดชุมพรแล้ว จะไปนอนโรงแรมก็คงถูกจ้องด้วยสายตาแปลก ๆ สภาพของเราสองคนสิดูได้ที่ไหนเลยต้องมานอนที่นี่แทน ก่อนมาถึงครึ่งชั่วโมงผมโทรบอกคนดูแลบ้านให้มาเปิดบ้านเอาไว้ให้แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไรเรื่องเข้าบ้าน จะมีก็แต่คนข้างหลังที่เก้ ๆ กัง ๆ ไม่ยอมเข้ามาจนในที่สุดผมก็ต้องหันไปดึงมือมีนาเข้ามาในบ้าน พอปิดประตูบ้านเสร็จก็ปล่อยมือแล้วเดินนำไปที่ห้องนอนทันที
(คุณเกรย์จะมานอนเหรอครับ)
“ครับลุง กะทันหันไปหน่อยขอโทษนะครับ” ผมเกรงใจลุงผันคนดูแลบ้านเหมือนกันเล่นโทรกวนแกตอนตีสาม
(ไม่เป็นไรครับลุงเข้าใจ แล้วคุณเกรย์มากันกี่คนป้าไม่ได้ปูที่นอนไว้เดี๋ยวลุงกับป้าไปปูผ้าปูเตียงรอ พอดีนาน ๆ พวกคุณ ๆ มากันทีเลยปูเตรียมพร้อมไว้แค่ห้องเดียว)
“ไม่เป็นไรครับ ใช้แค่ห้องเดียวนั่นล่ะ เปิดบ้านไว้ก็พอครับผมไม่มีกุญแจ ที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”
ผมคุยกับลุงผันคนดูแลบ้านเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ไม่ได้อยากนอนห้องเดียวกันกับเด็กในอุปถัมภ์ของพ่อที่ผมเพิ่งทำอะไรไปหรอกแต่เกรงใจลุงป้า มาดึกก็รบกวนมากแล้วถ้าจะให้ปูผ้าปูที่นอนห้องอื่นให้อีกมันก็เกินไป
“เข้ามา”
“คุณเกรย์จะ... / ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกมีนา ถ้าฉันอยากทำอะไรเธอฉันคงไม่หยุดหรอก เข้ามาอย่าให้พูดมากก่อนที่ฉันจะโมโห”
“...” ยัยนี่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองหน้าผมส่วนผมก็ไม่พูดอะไรต่อนอกจากมองหน้าเธอนิดหน่อยแล้วเดินเข้าห้องไปทิ้งตัวนอนบนเตียง
อ่าส์~ เพิ่งรู้ตัวว่าเหนื่อยก็ตอนที่ล้มตัวลงบนเตียงนี่ล่ะ
ผมนอนหลับตาหูก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในห้อง เตียงไม่ยวบอย่างที่คิดมีแค่อะไรสักอย่างบนเตียงที่ขยับนิดหน่อย
“ฉันไม่สละผ้าห่มให้เธอแน่นอน ถ้าจะนอนที่พื้นก็เอาไปได้แค่หมอน” ผมพูดออกไปทั้งที่ยังหลับตา
“...ค่ะ” เสียงตอบกลับมาเบา ๆ จบลงผมก็ลืมตาขึ้นแล้วเอื้อมมือปิดไฟบนหัวเตียงทันทีโดยที่ไม่สนใจว่าใครจะยังยืนอยู่
อยากนอนตรงไหนก็นอนไป ผมไม่ใช่พระเอกที่จะแคร์ผู้หญิงขนาดนั้นโดยเฉพาะผู้หญิงที่ผมไม่ได้รัก ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องแคร์อะไร
GRAY END
MEENA TALK
ฉันยืนอยู่ท่ามกลางความมืดในห้องที่ไม่คุ้นตา ไม่คุ้นตาเลยไม่ชินห้องนี้มืดมากพยายามปรับโฟกัสแล้วแต่ก็มองอะไรไม่ชัดอยู่ดี
เฮ้อ~ นอนตรงนี้แหละมีนา
ฉันนั่งลงที่พื้นหินอ่อนที่เย็นเฉียบวางหมอนลงแล้วก็ล้มตัวลงนอน ไม่มีแม้แต่ผ้าบาง ๆ ปูนอนทำได้แค่นอนขดแล้วกอดตัวเองเอาไว้เพื่อต่อสู้กับความหนาว
ฉันไม่รู้ว่าถูกพามาที่นี่ทำไม ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ไม่รู้อะไรเลย ที่รู้อย่างเดียวในตอนนี้คงมีแค่ฉันเกือบจะมีอะไรกับคนรักของเพื่อนรักตัวเอง...
-เวลาต่อมา-
“ฮ้าว~” ฉันหาวแล้วก็บิดขี้เกียจนิดหน่อยด้วยความสบายจากนั้นก็พลิกตัวเพื่อเปลี่ยนท่า
“อืม~”
ฟอด~
“...” ฉันเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่หาวแล้วแต่ฉันกำลังงัวเงียเลยไม่ได้สำรวจสิ่งที่อยู่รอบข้างร่างกายว่าเป็นยังไงแต่ตอนนี้ตอนที่เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างซุกลงมาที่คอฉันก็เริ่มได้สติตื่นมากขึ้นแล้วก็สำรวจรอบ ๆ ตัว
ฉันลืมตาช้า ๆ จำได้ตั้งแต่ตอนที่ได้สติแล้วว่าตอนล้มตัวนอนพื้นที่นอนมันแข็งและเย็นมากแต่ทำไมตื่นขึ้นมาดันนุ่มที่สำคัญ...อบอุ่นมาก
“อืม~” เสียงแบบเมื่อกี้ดังขึ้นมาอีกครั้ง ฟังให้ดีก็คุ้นหูนะคะ ลืมตาขึ้นมาเห็นแต่เพดานกับไฟแต่ถึงจะเห็นแค่นี้ฉันก็ไม่อยากเห็นอะไรที่เยอะกว่านี้แล้วล่ะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง แถมยัง...มีเขานอนอยู่ข้าง ๆ
-///-
ไม่ใช่นอนข้างกันธรรมดาแต่เขากำลังกอดแล้วก็ซุกหน้าลงมาที่คอฉันด้วยต่างหาก
ฉันมานอนอยู่บนเตียงได้ยังไง? แต่อย่าเพิ่งสงสัยเรื่องนี้เลยมีนาแกเลือกก่อนว่าจะเอายังไงต่อขยับตัวออกหรือว่าปลุกเขาให้ตื่น
ถ้าปลุกเขาให้ตื่นแกอาจจะโดนด่าได้นะ ที่สำคัญไม่รู้ด้วยว่าตัวเองจะทำหน้ายังไงกับสภาพที่ยัยคนสวนกับคุณชายไฮโซตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกัน
พยายามขยับตัวออกไม่ให้เขาตื่นแล้วกลับไปนอนข้างล่างทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีไหมนะ น่าจะดีนะ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ฉันตัดสินใจเรียบร้อยก็พยายามขยับตัวออกจากเขาที่ใช้ทั้งแขนกอดใช้ทั้งขาเกี่ยวร่างกายฉันหน้าก็ซุกฝังลงมาที่คอจนลมหายใจของเขาปะทะผิวให้ฉันขนลุกอ่อน ๆ สยิวเบา ๆ อยู่หลายรอบ
“อืม~” ขยับตัวได้แค่นิดเดียวเขาก็ขยับตัวดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง อารมณ์คล้ายคนนอนกอดหมอนข้างนั่นล่ะค่ะ แต่บังเอิญว่าฉันดันเป็นหมอนข้างมีชีวิตที่แอบรู้สึกดีกับเขา และที่สำคัญเมื่อวานเขาเพิ่ง...
“...” เรื่องเมื่อวานผุดขึ้นมาในหัว เขาหาว่าฉันขายตัว ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นแล้วก็...ข่มขืนฉัน
ฉันไม่รู้ว่าเมื่อวานระหว่างเราเรียกว่าถึงขั้นไหนแล้ว ไม่รู้จริง ๆ เพราะถึงเขาจะ...สอดใส่เข้ามาแล้ว -///- แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น แค่กดเอาไว้แล้วเอาออกหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากความเจ็บปวดเหมือนร่างกายจะฉีกขาดที่เกิดจากร่างกายที่ไม่รู้ว่าใหญ่แค่ไหนของเขา -///-
เหตุการณ์เมื่อคืนเรียกว่าเราสองคนมีอะไรกันได้ไหมนะ แต่ถ้าเป็นไปได้ขอไม่เรียกว่ามีอะไรกันได้รึเปล่า ถึงฉันจะชอบเขามานานแต่เหตุการณ์เมื่อคืนไม่น่าจดจำเลยสักนิด ที่สำคัญ...เขาเป็นแฟนของเพื่อนรัก แล้วเราจะมีอะไรกันได้ยังไง
ฉันขยับตัวอีกครั้ง ยิ่งพอบอกตัวเองว่าผู้ชายคนนี้เป็นแฟนกับเพื่อนรักของตัวเองก็ยิ่งทำให้ฉันรีบขยับตัวออกจนลืมไปเลยว่าถ้าขยับตัวแรงเขาอาจจะตื่นได้
หมับ~
“อืม~ เป็นไร~” ฉันขยับตัวออกไปได้เหลือแต่ท่อนล่างที่ยังมาขาของเขากอดก่ายเอาไว้แต่เขาก็วางมือลงไปมาเอวแล้วรั้งเข้าไปหาพร้อมกับถามเสียงงัวเงียที่มัน...เซ็กซี่มาก -///-
“ปะ ปล่อยมีนคุณเกรย์”
ฟอด~
ฉันบอกให้ปล่อยแต่เขากลับกอดแน่นกว่าเดิมแล้วยังฝังหน้าลงมาที่คอแล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอด แค่นั้นไม่พอนะเพราะมือที่กอดเอวก็กำลังเริ่มขยับลูบผิวฉันไปมาช้า ๆ ไม่ใช่แค่นั้นแต่มือเขาเริ่มไต่ระดับความสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อีกแค่นิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะ...
หมับ~
“กรี๊ด!”